ผู้เลี้ยงหมูจี้รัฐบาลใหม่ ทบทวนนโยบายอาหารสัตว์

ผู้เลี้ยงหมูจี้รัฐบาลใหม่ ทบทวนนโยบายอาหารสัตว์

เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรทั่วประเทศ ร้องรัฐบาลใหม่ทบทวนนโยบายอาหารสัตว์ทั้งระบบ ชี้ มาตรการประกันราคาขั้นต่ำ โควตา ภาษีนำเข้า ่ อุปสรรคการแข่งขัน แนะเข้มการป้องกันโรคระบาด วิจัย พัฒนา เพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิตเนื้อสัตว์

นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญนายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวว่า ขณะนี้ผู้เลี้ยงหมูทั่วประเทศกำลังประสบปัญหาเดียวกัน คือ ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์แพงมาก ขณะที่ราคาขายหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มยังไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงโดยราคาแนะนำของสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งเมื่อวันพระที่ผ่านมา(25มิถุนายน2566) อยู่ที่72-76บาทต่อกิโลกรัม แต่มีต้นทุนเฉลี่ยเดือนมิถุนายน อยู่ที่90.57บาทต่อกิโลกรัม ทำให้เกษตรกรประสบปัญหาขาดทุนสะสมมาเป็นเดือนที่6

 

“ผู้เลี้ยงหมูขาดทุนสะสมต่อเนื่องเป็นดินพอกหางหมู โดยหวังว่าหลังจากไทยควบคุมโรคระบาดASFได้ดี เกษตรกรมั่นใจนำหมูเข้าเลี้ยงจนได้ผลผลิต แต่กลับขายในราคาขาดทุนเพราะต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์สูง อีกทั้งหมูเถื่อนยังลักลอบนำเข้ามาแทรกแซงราคาอีก จึงอยากขอให้รัฐบาลชุดใหม่พิจารณาทบทวนนโยบายอาหารสัตว์แบบบูรณาการ แก้ปัญหาวัตถุดิบขาดแคลนและราคาสูง และปราบหมูเถื่อนให้สิ้น เพื่อพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของหมูไทยในอนาคต” นายสิทธิพันธ์ กล่าว

ช่วง2-3ปีที่ผ่านมาปัญหาใหญ่ของผู้เลี้ยงหมูเกิดจาก3ปัจจัยหลัก คือ1.การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ทำให้การค้าขายไม่คล่องตัวและไม่เป็นไปตามกลไกตลาด2.การพบโรคระบาดASFในไทย กระทบผลผลิตหายไป50%และยังถูกหมูเถื่อนบิดเบือนกลไกตลาด และ3.สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ยืดเยื้อนานกกว่า1ปี ส่งผลกระทบต่อเนื่องทั้งราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์เพิ่มขึ้น30%รวมถึงราคาพลังงาน ซึ่งเป็นต้นทุนหลักของภาคปศุสัตว์ เป็นการซ้ำเติมผู้เลี้ยงหมูต้องเผชิญกับต้นทุนการผลิตสูงและขาดทุนสะสมต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ผู้เลี้ยงหมูจี้รัฐบาลใหม่ ทบทวนนโยบายอาหารสัตว์ ผู้เลี้ยงหมูจี้รัฐบาลใหม่ ทบทวนนโยบายอาหารสัตว์ ผู้เลี้ยงหมูจี้รัฐบาลใหม่ ทบทวนนโยบายอาหารสัตว์

สำหรับวัตถุดิบอาหารสัตว์คิดเป็น60-70%ของต้นทุนการเลี้ยงหมู โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญในสูตรอาหารปรับสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในปี2565สูงสุดที่ราคา13.75บาทต่อกิโลกรัม ผลของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้การขนส่งหยุดชะงักทั้งหมด นอกจากนี้ ประเทศผู้ผลิตวัตถุดิบดังกล่าวยังมีการห้ามส่งออกธัญพืชเพื่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศ ทำให้ซัพพลายในตลาดขาดแคลนดันราคาสูงขึ้นมาโดยตลอด แม้ว่าปัจจุบันราคาจะปรับลดลงบ้างก็ตามแต่ราคาในไทยยังคงยืนแข็งในระดับสูงเฉลี่ยที่12-12.75บาทต่อกิโลกรัม และสูงเกินกว่าราคาประกันของรัฐบาลที่8.50บาทต่อกิโลกรัม จนรัฐบาลประกาศไม่จ่ายชดเชยส่วนต่างราคาเป็นครั้งที่8ในรอบปี2566

 

นายสิทธิพันธ์ ย้ำว่า ประเทศไทยผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้เพียงปีละ5ล้านตัน ขณะที่ความต้องการสูงถึง8ล้านตัน ส่วนเกิน3ล้านตัน การนำเข้าอยู่ภายใต้มาตรการโควต้าและภาษีนำเข้าของรัฐ ซึ่งเป็นปัจจัยทำให้ต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ยังคงสูง ทั้งที่ภาคปศุสัตว์เคยเรียกร้องขอให้รัฐบาลพิจารณาแก้ปัญหานี้มาแล้วหลายสมัยแต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม มีเพียงมาตรการชั่วคราวเพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น

จึงหวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะมีการทบทวนนโยบายอาหารสัตว์ให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และส่งเสริมอุตสาหกรรมสุกรไทยที่ผลิตเนื้อหมูปลอดภัยสำหรับคนไทย ตลอดจนสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่าเนื้อสัตว์ของไทย ให้มีอนาคตสดใสสามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้ทั้งด้านราคาและคุณภาพ สู่แนวทางการผลิตและการบริโภคอย่างยั่งยืน