ดีมานด์ ‘นาฬิกาหรู’ มือสองลดฮวบ กระทบราคาดิ่งเกือบ 40%

Key Points

• ความต้องการซื้อนาฬิกาหรูมือสองอย่าง Rolex-Patek Philippe-Audemars Piguet ลดฮวบ
• ราคา Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Ultra Thin มือสองลดลงมากกว่า 35%
• ราคา Patek Philippe Nautilus Travel Time ลดลงมากกว่า 28% 
•  ราคา Rolex Daytona 116506 ลดลงมากกว่า 25%

ตั้งแต่ต้นปี 2566 เป็นต้นมาเศรษฐกิจของหลายประเทศตกอยู่ในความผันผวนอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น จน “พฤติกรรมผู้บริโภค” ปัจจุบันเปลี่ยนไป ล่าสุด ความต้องการซื้อ (Demand) นาฬิกาหรูหราลดลงจนกระทบราคาสำหรับนาฬิกา Rolex, Patek Philippe และ Audemars Piguet อยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบสองปี สำหรับตลาดรอง (The Second Market)

หากอ้างอิงตาม ดัชนี Subdial Watch ของบลูมเบิร์ก ซึ่งติดตามการซื้อขายนาฬิกามือสอง 50 เรือนที่มีการซื้อขายมากที่สุด พบว่า ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ดัชนีฯ ปรับตัวลดลง 19% รวมทั้ง ราคาสำหรับนาฬิกาที่มีความต้องการสูงสุดยังคงลดลงประมาณ 1% ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา แต่ก็ยังเป็นอัตราการลดลงที่ช้าเมื่อเทียบกับเดือน ส.ค. และก.ย. ปีที่แล้ว

ยกตัวอย่างเช่น ในปี 2565 ราคาของ “Audemars Piguet Royal Oak Jumbo Ultra Thin” ลดลงมากกว่า 35% จนมาซื้อขายอยู่ที่ 71,692 ดอลลาร์ (ประมาณ 2,365,835 บาท) ขณะเดียวกัน ราคาของ Patek Philippe Nautilus Travel Time และ Rolex Daytona 116506 ลดลง  28% และ 25% ตามลำดับ 

ด้าน ธนาคารกลางหลายแห่งทั่วโลกปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสอดคล้องกับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จนนำไปสู่ต้นทุนการกู้ยืมที่สูงขึ้นสำหรับธุรกิจและบุคคลทั่วไป โดยอัตราเงินเฟ้อในเฟดก็ยังส่งสัญญาณว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีความจำเป็นต่อเนื่องเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อให้เข้าสู่กรอบเป้าหมายที่ 2%

โดยในการอภิปรายกับธนาคารกลางคนหลายแห่งในวันพุธที่ผ่านมา เจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ประธานเฟด กล่าวว่า เขาไม่คิดว่าสหรัฐจะบรรลุเป้าหมายดังกล่าวได้จนถึงปี 2568

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่าการปรับตัวลดลงของความต้องการซื้อและราคาของนาฬิกาหรูดังกล่าวนับเป็นสัญญาณว่าประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคและการใช้เงินให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่ากำลังซื้อของประชาชนอาจลดลง

อ้างอิง

Business Insider