‘ซีอีโอชไนเดอร์’ ประกาศศักยภาพนวัตกรรมหนุน ‘ไทย’ ศูนย์กลางฮับยั่งยืน

‘ซีอีโอชไนเดอร์’ ประกาศศักยภาพนวัตกรรมหนุน ‘ไทย’ ศูนย์กลางฮับยั่งยืน

“สเตฟาน นูสส์” เผยนวัตกรรมสร้างสมการความยั่งยืนในแบบฉบับชไนเดอร์ อิเล็คทริค มุ่งใช้นวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพสูง ทำงานร่วมกับการใช้พลังงานไฟฟ้า ช่วยลดคาร์บอน สนับสนุนไทยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลนี้ สู่ความเป็นศูนย์กลางความยั่งยืนในภูมิภาค

“สเตฟาน นูสส์” ประธานกลุ่มคลัสเตอร์ดูแลประเทศไทย ลาว และเมียนมา ของชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าวเปิดงาน Innovation Summit Bangkok 2023 : Innovations for a Sustainable Thailand จัดขึ้นที่ไบเทค บางนาในวันนี้ว่า ผู้คนนับพันล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นผู้นำนวัตกรรมยั่งยืนได้มารวมตัวกันในเวทีนี้ ซึ่งเป็นทั้งผู้ใช้นวัตกรรมและลูกค้า ผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ปรึกษา ผู้รับเหมา หน่วยงานรัฐ พันธมิตร รวมถึงลูกค้าจากเมียนมาและลาว เป็นอะไรที่น่าตื่นต้นและจงใช้พลังให้เต็มที่กับเรา

อันที่จริง เราคงไม่คิดว่าจะชนะการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศได้โดยลำพัง แน่นอนเราต้องรวมพลังและทำงานร่วมกันสร้างชุมชนที่ยั่งยืน ตลอดจนแบ่งปันการดำเนินงานที่นำไปสู่เป้าหมายที่สูงขึ้นและทิศทางเดียวกัน

นั่นคือเป็นเหตุผลที่จัดงาน Innovation Summit ในวันนี้ เพื่อให้ทุกคนได้รวมพลังและเอาชนะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเกี่ยวข้องกับแรงบันดาลใจ ประสบการณ์และความรู้จากผู้เชี่ยวชาญมากมาย 

สิ่งที่น่าอัศจรรย์ในวันนี้ ชไนเดอร์ อิเล็คทริคมีนวัตกรรม การเชื่อมต่อเทคโนโลยี อินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (ไอโอที) ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ซอฟต์แวร์อนาไลติกส์ บริการคลาวด์ และรูปแบบธุรกิจใหม่ด้านพลังงานไฟฟ้า ดิจิทัลเพื่อความยั่งยืน ล้วนช่วยการปล่อยคาร์บอนและประหยัดพลังงาน

 

‘ซีอีโอชไนเดอร์’ ประกาศศักยภาพนวัตกรรมหนุน ‘ไทย’ ศูนย์กลางฮับยั่งยืน

อันที่จริง สิ่งสำคัญ 2 ประการที่ช่วยเปลี่ยนแปลงตลาดคือ อันดับแรกการยอมรับและนำดิจิทัลมาใช้กำลังแพร่หลายมากในตอนนี้ ตั้งแต่ชีวิตส่วนตัว การทำงาน อีคอมเมิร์ซ ไอแบงก์กิ้ง จีพีเอส แชทบอต ซึ่งนวัตกรรมเหล่านี้จะเป็นตัวเร่งการเปลี่ยนแปลงในทศวรรษหน้า นั้นรวมถึงเกิดการใช้อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่งและมีการใช้นวัตกรรมเหล่านี้มากขึ้นทั่วโลก

ประการที่สอง การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากการใช้พลังงานฟอสซิสมาเป็นพลังงานไฟฟ้า สู่การใช้พลังงานไฟฟ้าในบ้านเรือน อาคาร โรงแรม โรงงาน ระบบขนส่งและรถยนต์ ซึ่งศูนย์ข้อมูลชไนเดอร์ได้เก็บข้อมูลต่อเนื่อง 20 ปีชี้ว่าการใช้ได้เพิ่มเร็วขึ้นในทศวรรษต่อๆไป 

“เมื่อคุณนำดิจิทัล บิ๊กดาด้า และเอไอที่มีประสิทธิภาพมาทำงานร่วมกับพลังงานไฟฟ้า จะทำให้มีการคัดแยกคาร์บอนมากขึ้น เพราะอย่าลืมว่า ไฟฟ้าเป็นพลังงานที่ปล่อยคาร์บอนมากที่สุด นี่เป็นวิธีที่สมบูรณ์แบบที่สุดในการสร้างสมการความยั่งยืนของชไนเดอร์ อิเล็คทริคได้ทำอยู่ตอนนี้” สเตฟานกล่าว

ชไนเดอร์ อิเล็คทริคเป็นบริษัทเทคโนโลยีในภาคอุตสาหกรรมระดับโลกและผู้นำระดับท้องถิ่นในประเทศไทย ในด้านการจัดการพลังงานและระบบอัตโนมัติในอุตสาหกรรม ซึ่งบริษัทสร้างรายได้ 3.5 หมื่นล้านยูโรทุกปี ขณะที่มีพนักงานมากกว่า 1,500 คนในไทย และอีก 1.3 แสนคนทั่วโลก