ทั่วโลก ตุนทองคำเพิ่ม พบจ่อลดใช้ดอลลาร์ แม้ยังไม่มีใครแทนได้ตอนนี้

Key Points

•  “Invesco” บริษัทจัดการ การลงทุนสัญชาติอเมริกัน เผย ธนาคารกลางและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติทั่วโลกตุนทองคำเพิ่มมากขึ้น
• กระแสลดการใช้เงินดอลลาร์ หรือ De-dollarization เพิ่มมากขึ้น 
• นักวิเคราะห์เผยดอลลาร์ยังเป็นสกุลเงินสำรองอันดับหนึ่ง แต่หลายประเทศก็กลัวว่าจะถูกสหรัฐคว่ำบาตรทางการเงินเหมือนที่ทำกับรัสเซีย 

ตามการสำรวจของอินเวสโค (Invesco) บริษัทจัดการการลงทุนสัญชาติอเมริกัน พบว่า บรรดาธนาคารกลางและกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติทยอยเก็บสะสมทองคำมากขึ้น ท่ามกลางความกังวลว่าสินทรัพย์ในต่างประเทศอาจถูกแช่แข็งเหมือนที่สหรัฐทำกับรัสเซีย

โดยประมาณ 41% ของผู้ตอบแบบสำรวจ คาดว่า พวกเขาตั้งใจจะเพิ่มการจัดสรรทองคำในพอร์ตการลงทุนในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยสำรวจมาจากนักลงทุนรายใหญ่ 85 รายและธนาคารกลาง 57 แห่งระหว่างเดือนม.ค. ถึง มี.ค. นอกจากนี้ 2 ใน 5 ของผู้ตอบแบบสอบถาม กล่าวว่าเป็นเพราะพวกเขากังวลว่าทรัพย์สินของพวกเขาจะถูกอายัด ซึ่งแสดงให้เห็นได้จากมาตรการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกต่อรัสเซียช่วงที่ผ่านมา

ขณะที่สภาทองคําโลก กล่าวในรายงานเดือนก.พ. ว่า ธนาคารกลางทั่วโลกซื้อทองคำเพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ที่ 1,136 เมตริกตัน ในปีที่แล้ว ซึ่งนับเป็นการซื้อทองคำที่เพิ่มขึ้นเป็นปีที่ 12 ติดต่อกัน 

 

อย่างไรก็ดี บรรดาธนาคารกลางอาจไม่เต็มใจที่จะเก็บทองคำแท่งไว้ในต่างประเทศ ขณะที่มีจำนวนต่ำกว่า 70% ของ ผู้ตอบแบบสอบถาม ที่ตอนนี้เก็บทองคำแท่งไว้ที่ในประเทศตัวเอง ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 50% ในปี 2563

ด้านธนาคารกลางซึ่งไม่ประสงค์ออกนามในตะวันตก เปิดเผยกับอินเวสโค ว่าได้เพิ่มการถือครองทองคำเมื่อ 8 ถึง 10 ปีที่แล้ว และเคยถือครองไว้ในลอนดอน "แต่ตอนนี้โอน ทองคำสำรอง กลับไปยังประเทศเพื่อรักษาความปลอดภัยแล้ว  ที่สำคัญบทบาทของทองคำในตอนนี้คือ การเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย"

ธนาคารกลางส่วนใหญ่ไม่คิดว่าเงินหยวนของจีนจะเป็น “สกุลเงินสำรองได้อย่างแท้จริง”ในอีก 5 ปีข้างหน้า

บรรดาธนาคารกลางทั่วโลกเริ่มซื้อทองคำมากขึ้นเนื่องจาก กระแสลดการพึ่งพิงดอลลาร์ (De-dollarization) ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ดอลลาร์เป็นสกุลเงินสำรองของโลกตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง โดยมีบทบาทสำคัญในระบบการค้าและการเงินของโลก แต่การคว่ำบาตรอย่างรุนแรงต่อรัสเซียผ่าน การขับออกจากระบบการเงินโลกที่ใช้เงินดอลลาร์เป็นหลัก ทำให้หลายประเทศตื่นตระหนกจนพยายามหาสกุลเงินสำรองอื่นมาใช้ควบคู่กับดอลลาร์ไป

ถึงอย่างนั้น จากการสำรวจของอินเวสโค พบว่า ธนาคารกลางโดยทั่วไปเห็นพ้องกันว่าไม่มีทางเลือกอื่นที่ชัดเจนที่สามารถแทนสกุลเงินดอลลาร์ในฐานะสกุลเงินสำรองที่สำคัญของโลกได้

นอกจากนี้ จากผลสำรวจในประเด็นเงินดอลลาร์ ระบุว่า มีเพียง 18% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่คิดว่าเงินหยวนจะกลายเป็น "สกุลเงินสำรองที่แท้จริงในอีก 5 ปี" ซึ่งลดลงจาก 29% ในปีที่แล้วที่เห็นด้วยกับท่าทีดังกล่าว

“ผู้คนมองหาทางเลือกอื่นแทนเงินดอลลาร์และยูโรมานานแล้ว และหลายประเทศคงหันไปใช้สกุลเงินอื่นมากขึ้นหากมีทางเลือกที่เหมาะสม”ธนาคารกลางซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม ระบุกับอินเวสโค 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์