ทอท.พร้อมเปิดอาคาร 'แซทเทิลไลท์' ก.ย.นี้ รับผู้โดยสารเพิ่ม 15 ล้านคน
ทอท.ยันความพร้อมเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ก.ย.นี้ เพิ่มขีดความสามารถรับผู้โดยสาร 15 ล้านคนต่อปี พร้อมเร่งก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 คาดเปิดใช้งานกรกฎาคม 2567
วันนี้ (7 สิงหาคม 2566) เวลา 14.00 น. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตรวจความพร้อมการเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการพัฒนา ทสภ. ระยะที่ 2 ปัจจุบันอยู่ในช่วงเตรียมความพร้อมเปิดให้บริการแบบ Soft opening ในเดือนกันยายนนี้ โดย ทสภ. จะให้บริการอาคาร SAT-1 ควบคู่ไปกับอาคารผู้โดยสารหลัก (Main Terminal Building) เพิ่มขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นอีก 15 ล้านคนต่อปี รวมศักยภาพของ ทสภ.จะรองรับผู้โดยสารได้สูงสุดเป็น 60 ล้านคนต่อปี จากปัจจุบันที่รองรับได้ 45 ล้านคนต่อปี
สำหรับอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 มีการออกแบบสถาปัตยกรรมของตัวอาคารให้เข้ากับอาคารผู้โดยสารหลัก (Main Terminal Building) ซึ่งใช้เป็นระบบ Modular ที่ก่อสร้างได้รวดเร็วและใช้วัสดุที่ดูแลรักษาได้ง่าย อีกทั้งยังคำนึงถึงการออกแบบอาคารที่ยั่งยืน (Sustainable Design) เพื่อช่วยให้ประหยัดพลังงาน โดยอาคาร SAT-1 มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 216,000 ตารางเมตร ตัวอาคารมีความสูง 4 ชั้น และมีชั้นใต้ดิน 2 ชั้น แบ่งเป็น
- ชั้น B2 เป็นพื้นที่สำหรับสถานีขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Mover Station: APM Station)
- ชั้น B1 เป็นพื้นที่ห้องงานระบบ ชั้น G เป็นพื้นที่สำหรับระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ และพื้นที่สำนักงาน
- ชั้น 2 เป็นพื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาเข้าและพื้นที่สำหรับผู้โดยสารเชื่อมต่อเที่ยวบิน
- ชั้น 3 เป็นพื้นที่สำหรับผู้โดยสารขาออก มีพื้นที่พักคอยสำหรับผู้โดยสารรอขึ้นเครื่องเป็นแบบ Open Gate และมีร้านค้าตลอดแนวทางเดิน
- ชั้น 4 เป็นพื้นที่สำหรับห้องรับรองสายการบิน
โดยอาคาร SAT - 1 มีหลุมจอดประชิดอาคารทั้งหมด 28 หลุมจอด สามารถจอดอากาศยานขนาด Code F (เช่น A380 และ B747-8 เป็นต้น) ได้ 8 หลุมจอด และอากาศยานขนาด Code E (เช่น B747 และ A340 เป็นต้น) ได้ 20 หลุมจอด
นอกจากนี้อาคาร SAT-1 ยังเชื่อมต่อกับอาคารผู้โดยสารหลัก โดยให้บริการรถไฟฟ้า APM ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าระบบล้อยางแบบไร้คนขับในการรับ - ส่งผู้โดยสาร ใช้ระยะเวลาในการโดยสารรวมถึงระยะเวลาที่ผู้โดยสารรอรับบริการที่สถานีประมาณ 3 นาทีและสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 210 คนต่อขบวน
ขณะเดียวกัน ปัจจุบัน ทสภ.ยังอยู่ระหว่างก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 ซึ่งเป็นทางวิ่งที่มีความยาว 4,000 เมตร อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของ ทสภ. โดยขณะนี้มีความคืบหน้าในการก่อสร้างไปแล้วกว่า 73% คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2566 และมีแผนจะเปิดใช้งานในเดือนกรกฎาคม 2567 ซึ่งจะทำให้ ทสภ. มีประสิทธิภาพในการรองรับปริมาณการจราจรทางอากาศเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน 68 เที่ยวบิน
ต่อชั่วโมง เป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง
ทั้งนี้ การเปิดให้บริการอาคาร SAT-1 จะรองรับรูปแบบการเดินทางวิถีใหม่ (Transport New Normal) โดยให้ความสำคัญในเรื่องระดับการให้บริการ (Level of Service) เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับความสะดวกสบาย ปลอดภัย ประทับใจเมื่อใช้บริการและเมื่ออาคาร SAT-1 เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ จะเกิดประโยชน์แก่ทุกภาคส่วน ทั้งผู้ใช้บริการ ภาคประชาชน และภาคอุตสาหกรรมการบิน โดยนอกจากจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจแล้วยังเป็นการเพิ่มขีดความสามารถของ ทสภ. เพื่อมุ่งสู่การเป็นสนามบินชั้นนำระดับโลกอย่างยั่งยืน