ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสร่วง เหตุดอลล์แข็ง-ความวิตกศก.จีนฉุดตลาด
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันจันทร์(14ส.ค.)ปรับตัวร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่อ่อนกว่าคาดของจีนและสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนก.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลบ 68 เซนต์ ปิดที่ 82.51 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 60 เซนต์ ปิดที่ 86.21 ดอลลาร์/บาร์เรล
วันดานา ฮารี ผู้ก่อตั้งผู้ให้บริการบทวิเคราะห์ตลาดน้ำมันแวนดา อินไซต์ กล่าวว่า ราคาน้ำมันดิบยังคงสูงเกินคาดทั้งที่ราคาควรจะปรับลดลงมาตั้งนานแล้ว โดยตลาดมุ่งแต่สนใจเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐและมองข้ามปัญหาเศรษฐกิจที่รุนแรงขึ้นในยูโรโซนและจีน
ด้านทีน่า เต็ง นักวิเคราะห์จากซีเอ็มซี มาร์เก็ตส์ กล่าวว่า ราคาน้ำมันอาจทรงตัวในสัปดาห์นี้ โดยถึงแม้เศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวช้าและเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นอาจเป็นปัจจัยกดราคาน้ำมัน แต่โอเปกพลัส (OPEC+) ให้คำมั่นว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อคุมเข้มซัพพลายและรักษาเสถียรภาพของตลาด
ทั้งนี้ สกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้สัญญาน้ำมันดิบมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ถือเงินสกุลอื่น
ด้านสำนักงานพลังงานสากล (ไออีเอ) ออกรายงานประจำเดือนเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (11 ส.ค.) ว่า การปรับลดการผลิตน้ำมันจากซาอุดีอาระเบียและรัสเซียจะทำให้สต็อกน้ำมันลดลงอย่างรุนแรงในช่วงที่เหลือของปีนี้ และอาจดันราคาน้ำมันขึ้นอีก
ทาร์มัส วาร์กา จาก PVM ระบุว่า การคาดการณ์ดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ซัพพลายของโอเปกที่ลดลง สต็อกน้ำมันที่ลดลง และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลง สัญญาณเชิงบวกต่อตลาดน้ำมันเหล่านี้อาจต้องเผชิญอุปสรรค หากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของจีนไม่ดีขึ้น