กรมการค้าภายใน เผย สอบตรวจหัวจ่ายน้ำมัน พบผิด 11 ราย 63 หัวจ่าย สั่งแก้ไขแล้ว

กรมการค้าภายใน เผย สอบตรวจหัวจ่ายน้ำมัน พบผิด 11 ราย 63 หัวจ่าย สั่งแก้ไขแล้ว

กรมการค้าภายในเผยตรวจสอบ 1,542 ปั๊ม รวม 34,589 หัวจ่าย พบผิด 11 ราย 63 หัวจ่าย อึ้งเจอ 7 หัวจ่าย เติมไม่ขาด แต่เติมเกิน สั่งแก้ไขแล้ว ส่วนราคาสินค้าอื่น อาทิ ปุ๋ยเคมีขยับเล็กน้อย ราคาภาพรวมยังลด 50% ข้าวสารถุงทรงตัว ในห้างยังมีแข่งลดราคา ผลไม้ภาคใต้ยังราคาดี ผักสดราคาทรงตัว

ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมัน (ปั๊มน้ำมัน) จำนวน 10 ราย ได้แก่ บางจาก ซัสโก้ พีโอ ออยล์ ทีพีไอ เซฟรอน โออาร์ เซลล์ พีที เอสโซ่ และปตท. ได้รายงานผลการตรวจหัวจ่ายน้ำมัน 4.5 แสนหัวจ่าย ในปั๊มน้ำมัน 24,711 แห่งเข้ามายังกรมเกือบ 100% แล้ว และที่ตรวจสอบพบไม่อยู่ในสภาพปกติ ทางปั๊มแจ้งว่าได้มีการปรับปรุงแก้ไขแล้ว และกรมเองได้จัดส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจสอบซ้ำรวม 80 ชุด ตั้งแต่วันที่ 8-17 ส.ค.2566 จำนวน 1,542 ปั๊ม รวม 34,589 หัวจ่าย พบผิด 11 ราย จำนวน 63 หัวจ่าย ซึ่งได้ดำเนินการตามกฎหมายแล้ว

ทั้งนี้ ใน 11 ราย แยกเป็น 5 ราย จำนวน 7 หัวจ่าย มีความคลาดเคลื่อนในการเติมน้ำมัน คือ มีการเติมน้ำมันเกินไปกว่าปริมาณที่กำหนด ซึ่งถือว่ามีความคาดเคลื่อน ได้ทำการผูกบัตรห้ามใช้ และสั่งให้แก้ไขให้ถูกต้อง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ และให้กลับมาใช้ได้ ส่วนอีก 6 ราย จำนวน 56 หัวจ่าย ได้ดำเนินคดีหัวจ่ายไม่มีคำรับรอง 4 ราย และจ่ายน้ำมันไม่เที่ยงตรง 1 ราย 2 หัวจ่าย

สำหรับมาตรการต่อไป ได้ขอให้ปั๊มน้ำมันรายงานผลการตรวจสอบหัวจ่ายน้ำมันทุกวันที่ 10 ของเดือนถัดไป ถ้าพบการกระทำความผิด หัวจ่ายคาดเคลื่อน ไม่เที่ยงตรง หรือไม่มีคำรับรอง จะมีมาตรการลงโทษเจ้าของปั๊ม หรือปั๊มแฟรนไชส์ อย่างเด็ดขาด

ร.ต.จักรา กล่าวว่า สถานการณ์ราคาปุ๋ยเคมี มีการปรับขึ้นเล็กน้อย ตามต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวสูงขึ้น แต่เมื่อเทียบกับช่วงที่เคยขึ้นไปสูงสุดเมื่อกลางปี 2565 ราคายังต่ำกว่าถึง 50% เช่น ยูเรีย โดยกรมได้มีการติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งราคาตลาดโลก ราคาจำหน่ายในประเทศ และได้ขอความร่วมมือให้ผู้ประกอบการตรึงราคาจำหน่ายไปก่อน เพราะทุนไม่ได้ขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น เช่น ข้าวสารบรรจุถุง จากการสำรวจราคา พบว่า

ข้าวหอมมะลิถุง 5 กิโลกรัม (กก.) มีราคาเฉลี่ยถุงละ 210 บาท เทียบปีก่อนเฉลี่ย 209 บาท ข้าวขาว 100% ราคาเฉลี่ย 117.94 บาท ปีก่อน 119 บาท ถือว่าราคายังเป็นปกติ แต่บางห้างมีการจัดโปรโมชัน เช่น ข้าวหอมมะลิที่บิ๊กซี เริ่มต้น 159 บาท ข้าวขาว ที่แม็คโคร 98 บาท บิ๊กซี 99 บาท เป็นต้น และสมาคมผู้ประกอบการข้าวถุงไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย ก็ยืนยันว่าจะตรึงราคาให้นานที่สุด และปริมาณมีเพียงพอ ส่วนนมสดพาสเจอร์ไรซ์ ที่มีผลกระทบจากการพักรีดน้ำนม จากการหารือกับห้าง สินค้ามีเพียงพอ และบนชั้นวางอาจลดลงบ้าง แต่จะเร่งเติมสินค้าโดยเร็ว  

นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ขณะนี้ผลผลิตผลไม้ภาคใต้กำลังออกสู่ตลาด โดยทุเรียนออกแล้ว 60% จากนี้จะเป็นช่วงของ 3 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งสถานการณ์ราคายังอยู่ในเกณฑ์ดี เกรด AB กก.ละ 145-150 บาท เกรด C กก.ละ 105-110 บาท เกรด D กก.ละ 90-95 บาท มังคุด ออกแล้ว 65% และจากนี้จะเป็นผลผลิตมังคุดของนครศรีธรรมราชและ 3 จังหวัดภาคใต้ โดยราคาปรับลดลงบ้าง จากปริมาณผลผลิตที่ออกมามาก แต่กรมได้เข้าไปช่วยเหลือโดยประสานผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้ออย่างต่อเนื่ง ล่าสุดเกรดมันรวมราคา 55-60 บาท/กก. กากลาย 30-37 บาท/กก. เกรดคละ 30-40 บาท/กก. และเกรดดำ 23-25 บาท/กก. และกำลังประสานผู้ประกอบการเข้าไปรับซื้อ เพื่อนำไปกระจายผ่านช่องทางต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอีก

ทางด้านราคาลำไยภาคเหนือ ผลผลิตออกแล้ว 55% เกรดสดช่อ AA ราคา 35-40 บาท/กก. เกรด A ราคา 30-35 บาท/กก. เกรดรูดล่วง AA ราคา 23-32 บาท/กก. A ราคา 14-17 บาท/กก. และ B ราคา 5-9 บาท/กก. ซึ่งเกรด B กรมได้ประสานผู้ประกอบการและโรงอบเข้าไปรับซื้อแล้ว ปริมาณ 4.5 หมื่นตัน ราคา 5-6 บาท

ขณะที่สถานการณ์ราคาผักสด ส่วนใหญ่ทรงตัวและลดลง โดยถั่วฝักยาว ราคา 44 บาท/กก. กะหล่ำปลี 31 บาท/กก. มะนาวลูกละ 2.70 บาท กวางตุ้ง 30 บาท/กก. ผักกาดขาว 34-35 บาท/กก. ต้นหอม 88-90 บาท/กก. และผักชีเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 137 บาท/กก. เพราะได้รับผลกระทบจากฝนตก ทำให้ใบหัก