วงษ์สยาม ฟ้องประธานบอร์ด กปน.ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ โครงการผลิตน้ำมหาสวัสดิ์
“วงษ์สยาม” ฟ้องประธานบอร์ด กปน.กับพวก 30 คน ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ โครงการโรงผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ศาลอาญาคดีทุจริตฯ นัดฟังคำสั่ง 24 ส.ค.นี้
รายงานข่าวจากศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ระบุว่า เมื่อวันที่ 15 ส.ค.2566 บริษัทวงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ประธานกรรมการการประปานครหลวง (กปน.) เป็นจำเลยที่ 1 กับพวกรวม 30 คน
ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 132/2566 ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91,83,151,157,368 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 172
พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 มาตรา 11 , พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานภาครัฐ พ.ศ.2542 มาตรา 12 และพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 120,121
คำฟ้องระบุว่า ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 1 เป็นประธานกรรมการกปน.จำเลยที่ 2-15 เป็นกรรมการ กปน. จำเลยที่ 16 เป็นผู้ว่าการ กปน. (ตั้งแต่ ก.ย. 2563 - มิ.ย. 2565) จำเลยที่ 17 เป็นผู้ว่าการ กปน. (ตั้งแต่ ก.ค.2565- ปัจจุบัน จำเลยที่ 18 เป็นรองผู้ว่าการ กปน. จำเลยที่ 19 เป็นผู้ช่วยผู้ว่าการ กปน.ได้รับแต่งตั้งจากผู้ว่าการการ กปน.ให้เป็นประธานกรรมการพิจารณาผลประกวดราคาก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ 8 เเสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน
พร้อมงานที่เกี่ยวข้องสัญญา GE-MS5/6-9 ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โดยมีจำเลยที่ 20-28 ร่วมเป็นกรรมการพิจารณาผลประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ จำเลยที่ 29 เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดประกอบกิจการ ซื้อ ขาย ข้อมูลทางด้านกายภาพ ซึ่งมีจำเลยที่ 30 เป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนจำเลยที่ 29
นอกจากนี้ เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยทุจริต จำเลยที่ 20 กปน. ว่าจ้างให้จำเลยที่ 29 เป็นผู้ออกแบบงานก่อสร้าง ขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ขนาด 8 เเสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน กรมบัญชีกลางสรุปข้อมูลการเสนอราคาเบื้องต้น เรื่อง การประกวดราคาจ้างก่อสร้างงานก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ฯ เลขที่โครงการ 64097059448 จำนวนผู้เสนอราคา 5 ราย ราคาต่ำสุดที่เสนอ 6,150 ล้านบาท ปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้ยื่นเสนอราคาต่ำสุดในจำนวนผู้เสนอราคาทั้งสิ้น 5 ราย ดังนี้
1.โจทก์ราคาที่ยื่นเสนอคือ 6,150 ล้านบาท
2.บริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ราคาที่ยื่นคือ 6,195,300,000 บาท
3.ITA Consortium ราคาที่ยื่นเสนอคือ 6,460,560,000
4.บริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) ราคาที่ยื่นเสนอคือ 6,523,800,000 บาท เเละกิจการร่วมค้าสี่แสงเอสจี ราคาที่ยื่นเสนอ 6,525 ล้านบาท
จำเลยที่ 16 และจำเลยที่ 19 -23 กับพวก ทุจริตพิจารณาตัดคุณสมบัติของบริษัทโจทก์ โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรด้วย การแจ้งผลการจัดซื้อจัดจ้างแก่โจทก์ว่า โจทก์ไม่ได้รับการคัดเลือกเนื่องจากไม่ผ่านการตรวจสอบเพราะคุณสมบัติไม่ครบถ้วน โดยแจ้งว่าโจทก์มีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามคุณสมบัติผู้ยื่นข้อเสนอตามที่กำหนดในการประกาศประกวดราคา
ทั้งที่โจทก์มีผลงานการก่อสร้างระบบตกตะกอนและระบบกรองน้ำ สำหรับระบบผลิตน้ำประปาพร้อมงานที่เกี่ยวข้องขนาดไม่น้อยกว่า 1 เเสนลูกบาศก์เมตรต่อวัน ในสัญญาเดียวกันวงเงินไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท
และเป็นสัญญาที่ได้ทำงานแล้วเสร็จตามสัญญา ซึ่งได้มีการส่งมอบงานและตรวจรับเรียบร้อยแล้ว และเป็นผลงานที่เป็นคู่สัญญาโดยตรงกับหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานเอกชนที่การประปานครหลวงเชื่อถือ โดยต้องมีหนังสือรับรองผลงาน สำเนาสัญญา และบัญชี ปริมาณงาน มาแสดงตามที่กำหนดในประกาศประกวดราคาแล้ว
จำเลยที่ 16,19-23 กับพวกได้พิจารณาตัดคุณสมบัติโดยมิได้พิจารณาจากเกณฑ์ราคา และได้ประกาศให้บริษัท ITA Consortium เป็นผู้ชนะการเสนอราคา ซึ่งเป็นผู้เสนอราคาสูงเป็นอันดับ 3 ในจำนวนผู้เสนอราคาทั้งสิ้น 5 ราย สูงกว่าโจทก์ถึง 310,560,000 บาท หลังจากนั้นโจทก์ได้อุทธรณ์ผลการจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าว
ทั้งนี้ ได้ยืนยันข้อเท็จจริงต่อ กปน.ว่า โจทก์มีคุณสมบัติครบถ้วนถูกต้องตามเงื่อนไขประกาศประกวดราคาแล้ว คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียน กรมบัญชีกลาง (คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ฯ) แจ้งผลการพิจารณาอุทธรณ์โจทก์ให้แก่ กปน. ว่า คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ฯ ได้พิจารณาคำอุทธรณ์ของโจทก์และตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์พิจารณาแล้วเห็นว่าผลงาน คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย เป็นกรณีที่โจทก์ผู้อุทธรณ์ยื่นข้อเสนอเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ข้อกล่าวอ้างของโจทก์ผู้อุทธรณ์ฟังขึ้น จึงให้ กปน. กลับไปดำเนินการในขั้นตอนพิจารณาผลการเสนอราคาของผู้ยื่นข้อเสนอให้ถูกต้องต่อไป
จำเลยที่ 16,19-23,24 กับพวก ทุจริตบังอาจจงใจไม่ปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ฯ โดยมิชอบด้วยกฎหมายขอให้จำเลยที่ 29 ในฐานะผู้ออกแบบงานก่อสร้างตรวจสอบเอกสารผู้ยื่นข้อเสนอประกวดราคาทุกรายอีกครั้งตามความประสงค์ของ ITA Consortium ทั้งที่จำเลยที่ 16 เคยมีหนังสือให้จำเลยที่ 29 ตรวจสอบยืนยันการใช้รายการเครื่องจักรและอุปกรณ์ภาคผนวก “ช” ของโจทก์มาแล้วตามมาตรฐานเดียวกันกับการตรวจสอบ ITA Consortium, บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน)
ที่จำเลยที่ 29 ตรวจสอบก่อนการประกาศให้ ITA Consortium เป็นผู้ชนะการประกวดราคาในครั้งแรก โดยที่จำเลยที่ 16, 20 และ 30 ย่อมทราบดีว่าจำเลยที่ 29 ได้พิจารณาตรวจสอบเอกสารภาคผนวก “ช” ทั้งหมด 3 ครั้ง ในการทดสอบครั้งที่ 1 เป็นการตรวจสอบภาคผนวก “ช” ของผู้ยื่นขอเสนอทั้ง 5 ราย พร้อมเสนอประเด็นข้อสงสัย ครั้งที่ 2 เป็นการตรวจสอบเอกสารภาคผนวก “ช” ของผู้ยื่นข้อเสนอที่มีคุณสมบัติผ่านตามเงื่อนไขในการประกวดราคาจำนวน 2 ราย
ได้แก่ ITA Consortium และบริษัท ช. การช่าง จำกัด (มหาชน) โดยตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นข้อสงสัย และการตรวจสอบครั้งที่ 3 โดยตรวจสอบเอกสารของผู้ยื่นข้อเสนอจำนวน 2 ราย ได้แก่ โจทก์ และบริษัท ชิโน – ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) โดยตรวจสอบประเด็นข้อสงสัย ซึ่งในการตรวจสอบได้ใช้หลักเกณฑ์และมาตรฐานเดียวกันกับการตรวจสอบเอกสารภาคผนวก “ช” ครั้งที่ 2 โดยผ่านประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
และทำหนังสือหารือกรมบัญชีกลางเกี่ยวกับเรื่องประเด็นเรื่องคุณสมบัติของโจทก์ในส่วนที่เป็นรายละเอียดที่ไม่ใช่สาระสำคัญ และไม่มีผลทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบผู้ยื่นข้อเสนอรายอื่น แทนที่จะกลับไปดำเนินการพิจารณาเกณฑ์ราคาต่อไปตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์และข้อร้องเรียนโจทก์มีหนังสือนำส่งถึงจำเลยที่ 17, 1, 2, 4 -10, 12-18 ซึ่งเป็นกรรมการกปน. ขอให้เร่งรัดการพิจารณาให้โจทก์เป็นผู้ชนะการประกวดราคาจ้างก่อสร้างขยายกำลังการผลิตน้ำที่โรงงานผลิตน้ำมหาสวัสดิ์ ลงนามสัญญาเพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐตามที่ได้หารือกรมบัญชีกลาง
จำเลยที่ 1-15 ได้รับหนังสือและทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว เพิกเฉยไม่ดำเนินการทั้งที่เป็นหน้าที่โดยตรง จำเลยที่1-18 มีหน้าที่ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยที่ 1-18 เป็นเจ้าพนักงานมีตำแหน่งหน้าที่ตามฟ้องร่วมกันทำความผิดเป็นเจ้าพนักงาน กปน. เป็นพนักงานของรัฐประเภทและวิสาหกิจมีอำนาจหน้าที่ในการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในทางมิชอบในการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุให้เกิดความเสียหายแก่กปน.ผู้เสียหายโจทก์ รัฐ ผู้อื่นประชาชนหรือการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุโดยทุจริต เป็นเจ้าพนักงานซื้อ ทำจัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจในตำเหน่งหน้าที่โดยทุจริต
สำหรับสาเหตุที่โจทก์ไม่ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษจำเลยทั้ง 30 ต่อพนักงานสอบสวน และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพราะประสงค์ที่จะดำเนินคดีด้วยตนเอง ขอศาลไต่สวนมูลฟ้องแล้วประทับรับฟ้องโจทก์ไว้พิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางรับคดีไว้เพื่อตรวจคำฟ้อง และนัดฟังคำสั่งหรือคำพิพากษา ในวันที่ 29 ส.ค.2566 เวลา 09.30 น.