กบน. คงราคา LPG ต่ออีก 1 เดือน รอรับนโยบายรมว.ท่านใหม่

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.)เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2566 ได้พิจารณาแนวทางการรักษาเสถียรภาพระดับราคาขายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ต่อไปอีกเป็นระยะเวลา 1 เดือน อยู่ที่ 423 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 1 – 30 ก.ย. 2566 จากเดิมจะสิ้นสุดวันที่ 31 ส.ค. 2566

ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2562 ในการรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศในอยู่ในระดับที่เหมาะสม โดย LPG มีราคาสูงกว่า 363 บาทซึ่งเกินกว่าระดับราคาที่เหมาะสมสำหรับถัง 15 กิโลกรัมตามแผนรองรับวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิง ถือเป็นวิกฤตการณ์ด้านน้ำมันเชื้อเพลิงที่ยังต้องเข้าไปรักษาเสถียรภาพด้านราคาตามแผนรองรับวิกฤตอยู่ กบน.จึงใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงรักษาเสถียรภาพราคา LPG ให้เป็นไปตามกรอบเป้าหมายราคาขายปลีก LPG ที่คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) กำหนด

สำหรับสถานการณ์ราคา LPG Cargo ในตลาดโลกยังคงปรับตัวสูงขึ้น โดยในช่วงเดือนก.ค. 2566 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 442.93 ดอลลาร์ฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 26.98 ดอลลาร์ต่อตัน จากเดือนมิ.ย. 2566 และราคาเฉลี่ยช่วงวันที่ 7 – 18 ส.ค. 2566 อยู่ที่ 561.72 ดอลลาร์ต่อตัน

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบกับราคาก๊าซ LPG ยังคงเป็นในเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว การตึงตัวของราคาน้ำมัน และการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อังกฤษ สหภาพยุโรป เพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีก LPG ในประเทศ ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการดำรงชีพของประชาชนจนมากเกินไป กบน.จึงเห็นควรให้กำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุน อัตราเงินชดเชย อัตราเงินคืนจากกองทุน และอัตราเงินชดเชยคืนกองทุน สำหรับก๊าซ LPG เพื่อคงราคาขายปลีกก๊าซ LPG ต่ออีก 1 เดือน รวมเป็น 7 เดือนติดต่อกัน

“การประชุม กบน. ครั้งที่ผ่านมา มองว่ามองว่า จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จก่อนเดือนส.ค. 2566 จึงคงราคา LPG ไว้ถึงสิ้นเดือน ส.ค. 2566 และเมื่อยังไม่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานท่านใหม่มา กบน. จึงพิจารณาคงราคาไว้ก่อนอีก 1 เดือน ซึ่งตอนนี้กเราเก็บเงินเข้าบัญชี LPG ที่ วันละ 9.1 แสนบาท เรายังเป็นบวกอยู่ แต่ใกล้จะเข้าสู่หน้าหนาว จึงขอดูอีกครั้งในเดือนก.ย. อีก 1 เดือน อีกทั้ง กรอบวงเงินชดเชย LPG กองทุนอยู่ที่ 4.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งตอนนี้ยังพอชดเชยได้”

นายวิศักดิ์ กล่าวว่า ในส่วนของมาตรการช่วยเหลือราคาน้ำมันดีเซลนั้น หากจะให้ลดราคาลงโดยไม่กระทบเงินกองบทุนน้ำมันฯ นั้น สิ่งแรกคือลดภาษีน้ำมันดีเซล เพราะราคาน้ำมันดิบตลาดโลกยังคงผันผวน ซัพพลายยังตรึงตัวซึ่งปรับขึ้นมากกว่าที่ประมาณการณ์ไว้เดิม 115 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ที่ปัจจุบันอุดหนุนลิตรละ 6.43 บาท เฉลี่ยเดือนละ 1 หมื่นล้านบาท หากเทียบกับเดือนมิ.ย. 2565 ที่เคยอุดหนุนเดือนละ 2 หมื่นล้านบาท แม้จะลดการชดเชยลง แต่ก็ยังคงมีความน่ากังวลอยู่

อย่างไรก็ตาม การลดราคาทั้งดีเซลและ LPG โดยกลไกกองทุนน้ำมันฯ สามารถบริหารจัดการราคาตามาตรา 6 คือ เพิ่มเงินกู้เข้าระบบ ใช้งบอุดหนุนจากภาครัฐ และเงินบริจาค ซึ่งตัวมากสุดคือ การปรับอัตราเงินเก็บเข้ากองทุนหรือเงินชดเชย จะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้กองทุนน้ำมันฯ บริหารจัดการได้

ทั้งนี้ สิ่งที่จะเสนอรัฐมนตรีท่านใหม่ คือ เรื่องภาษี งบประมาณ เงินกู้ และราคาประกอบกัน กองทุนน้ำมันฯ ยังคงกังวลว่าอีก 2 เดือนจะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ราคาพลังงานจะสวิงขึ้นอีก ซึ่งรมว.ท่านใหม่ ที่จะมาดูแลถือเป็นพรรคการเมืองเดิม จึงน่าจะเข้าใจว่าฐานข้อมูลที่ดำเนินการตามรมว.ท่านก่อนก็น่าจะรู้เรื่องกลไกกองทุนน้ำมันฯ ว่ามีศักยภาพขนาดไหน

“ตอนนี้วงเงินที่สามารถกู้ได้ทั้งหมด 1.1 กู้ไปแล้ว 5.5 หมื่นล้านบาท โดยจ่ายดอเบี้ยเฉลี่ยเดือนละ 200 ล้านบาท ส่วนอีก 5.5 หมื่นล้านบาท อยู่ระหว่างทยอยกู้ จากสภาพคล่องที่กองทุนน้ำมันฯ มีอยู่ปัจจุบันยังไม่จำเป็นต้องกู้เพิ่มตามกรอบ 1.5 แสนล้านบาท แต่ทั้งหมดจะขอรับนโยบายจากรมว.ท่านใหม่ ตอนนี้ เราทราบว่ารัฐบาลตั้งใจจะลดราคาทั้งดีเซลและ LPG ซึ่งเราก็เตรียมสมมติฐานไว้แล้ว ซึ่งวิธีการ รายละเอียดจะต้องรอดูว่าจะใช้วิธีไหน”

สำหรับฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสุทธิ ณ วันที่ 27 สิงหาคม 2566 ติดลบอยู่ที่ 55,091 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชี LPG ติดลบ 44,716 ล้านบาท ส่วนบัญชีน้ำมันติดลบ 10,375 ล้านบาท ทั้งนี้ ส่วนตัวในฐานะผอ. กองทุนน้ำมันฯ ยังหวังว่า ก่อนที่ตนจะหมดวาระการทำงานในช่วง 1 ปี ต่อจากนี้ จะสามารถบรหารจัดการกองทุนน้ำมันฯ ไม่ให้มีบัญชีติดลบ