ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสลดกว่า 5 ดอลล์ หลังสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่ง
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปิดวันพุธ(4ต.ค.)ปรับตัวร่วงลงกว่า 5 ดอลลาร์ หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ถึงอุปสงค์น้ำมันที่ซบเซา
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลบ 5.01 ดอลลาร์ หรือ 5.6% ปิดที่ราคา 84.22 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับตัวลง 5.11 ดอลลาร์ หรือ 5.6% ปิดที่ราคา 85.81 ดอลลาร์/บาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 2.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงเพียง 1.4 ล้านบาร์เรล
EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ เพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล
สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 6.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 200,000 บาร์เรล
สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความวิตกที่ว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงเป็นเวลานานจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
คณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัสจัดการประชุมในวันนี้ โดยที่ประชุมมีมติคงนโยบายการผลิตของโอเปกพลัสตามที่มีการบรรลุข้อตกลงในเดือนมิ.ย. ส่งผลให้โอเปกพลัสปรับลดกำลังการผลิตรวม 3.66 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นปี 2567
นอกจากนี้ JMMC มีมติสนับสนุนซาอุดีอาระเบียในการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้ รวมทั้งการที่รัสเซียขยายเวลาปรับลดการส่งออกน้ำมัน 300,000 บาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้เช่นกัน
JMMC จะจัดการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 26 พ.ย.