อุตสาหกรรมพืชกัญชง-กัญชา พบสาธารณสุข ถกความชัดเจนนโยบายหนุน
"สมาคมสหอุตสาหกรรมพืชกัญชงและกัญชา" เข้าพบ รมว.สาธารณสุข เพื่อแสดงความยินดีเข้ารับตำแหน่งใหม่ และปรึกษาหารือเพื่อให้ออกนโยบาย กฎหมาย หรือ พ.ร.บ.พืชกัญชงและกัญชาให้ชัดเจน เนื่องจากส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจต่อไม่ได้
สมาคมสหอุตสาหกรรมพืชกัญชงและกัญชา เข้าพบนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อหารือเกี่ยวกับการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมดังกล่าว โดยมีสมาชิกสมาคมฯ 21 บริษัท ทั้งในธุรกิจต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ ที่เป็นบริษัทระดับอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดใหญ่
นายทศพร นิลกำแหง นายกสมาคมสหอุตสาหกรรมพืชกัญชงและกัญชา กล่าวว่า ความไม่ชัดเจนของนโยบายภาครัฐ รวมถึงกฎหมายเกี่ยวกับพืชกัญชงและกัญชาในปัจจุบันทำให้ภาคอุตสาหกรรมหยุดนิ่ง
ทั้งนี้ สมาคมฯ ซึ่งประกอบด้วยบริษัทฯ ที่เป็นอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดใหญ่ทั้งธุรกิจในส่วนต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำได้รับผลกระทบโดยตรง
รวมถึงความเชื่อของประชาชนบางกลุ่มที่ยังมองว่าพืชกัญชงและกัญชามีโทษมากกว่าประโยชน์ แต่ความจริงแล้วพืชกัญชง คือ พืชเศรษฐกิจสามารถใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน เช่น เมล็ด นำไปทำเป็นน้ำมันเพื่อเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอาง อาหารเสริม
ส่วนลำต้นนำเส้นใยไปทำเป็นเสื้อผ้า รองเท้า และส่วนสำคัญ คือ ช่อดอก นำไปสกัดเพื่อให้ได้สาร CBD ซึ่งมีคุณประโยชน์มากมายต่อสุขภาพอีกทั้งยังสามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ โดยในปัจจุบันในระบบของ อย. มีผู้ขอใบอนุญาตและได้รับอนุมัติแล้วเป็นจำนวนมาก
ทั้งใบอนุญาตเพาะปลูกในระบบส่วนกลางและแอพพลิเคชั่นปลูกกัญซึ่งมีจำนวนรวม 38,144 ราย ใบอนุญาตสกัดทั้งภาครัฐและภาคเอกชนรวม 48 ราย และใบอนุญาตเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมกัญชงทั้งเครื่องสำอาง อาหาร เครื่องดื่ม อาหารเสริม และผลิตภัณฑ์สมุนไพร รวมกว่า 1,500 ราย ในส่วนของพืชกัญชาที่จะมีสาร THC อยู่ปริมาณมากนั้นสามารถนำมาใช้ใน ทางการแพทย์รักษาผู้ป่วยได้
นายทศพร กล่าวว่า ทางสมาคมฯต้องการให้รัฐบาลมีนโยบาย และกฎหมายของพืชกัญชงและกัญชาที่ชัดเจน แยกระหว่างพืชกัญชงและพืชกัญชาออกจากกัน
โดยออกกฎหมาย ประกาศ หรือ พ.ร.บ.ให้ชัดเจน ให้พืชกัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ เพื่อสุขภาพและความงาม ส่วนพืชกัญชาใช้ในทางการแพทย์ มีมาตรการควบคุมการจำหน่าย และให้ความรู้เรื่องผลกระทบกับผู้ใช้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ และสตรีมีครรภ์ เป็นต้น
ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการในธุรกิจภาคอุตสาหกรรมได้รับรู้ถึงทิศทางในการดำเนินธุรกิจ และต้องการให้ทางรัฐบาลผลักดันสนับสนุนคุณประโยชน์ที่แท้จริงของพืชกัญชง รวมถึงสารสกัด CBD ว่ามีคุณประโยชน์หลากหลายสามารถนำไปต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างรายได้ และให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจ และเชื่อมั่นในความปลอดภัยของพืชกัญชงได้อีกด้วย