บอร์ดพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ เคาะแผนขับเคลื่อน 11 สาขาอุตสาหกรรมเป้าหมาย

บอร์ดพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ เคาะแผนขับเคลื่อน 11 สาขาอุตสาหกรรมเป้าหมาย

“แพทองธาร” นั่งหัวโต๊ะประชุมกก.พัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาตินัดแรก เคาะแผนปฏิบัติงาน 11 สาขา พร้อมเห็นชอบการจัดงาน Colorful Bangkok ทั้งลอยกระทง แสงสี วิ่งมาราธอน เคานต์ดาวน์ปีใหม่ จัดทำแอปพลิเคชั่นลงทะเบียนเข้าร่วม OFOS ยกร่าง พ.ร.บ.THACCA การจัดงานซอฟต์พาวเวอร์ ฟอรัม

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ ได้นัดประชุมเป็นครั้งแรก และเห็นชอบแนวทางการการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติงาน (Action Plan) และจะจัดประชุมชุดนี้ทุกเดือน พร้อมตั้งคณะอนุกรรมการ 11 ด้าน 12 คณะ ได้แก่ แฟชั่น หนังสือ ภาพยนตร์ ละครและซีรีส์ เฟสติวัล อาหาร ออกแบบ ท่องเที่ยว เกม ดนตรี ศิลปะ และกีฬา ซึ่งแต่ละคณะได้เสนอแผนการดำเนินการเร่งด่วนภายใน 100 วัน การดำเนินการภายใน 6 เดือน และภายใน 1 ปี เพื่อขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ของไทยให้เป็นที่รู้จักและสร้างรายได้เข้าประเทศเพิ่มมากขึ้น และคณะกรรมการชุดนี้จะมีกำหนดจัดประชุมเป็นประจำทุกเดือน โดยครั้งต่อไปจะเป็นวันพฤหัสบดีที่ 30 พฤศจิกายน 2566

โดยในด้านเฟสติวัล นางชฎาทิพ จูตระกูล ได้เสนอสร้างการรับรู้งานเฟสติวัลของไทยสู่สายตาชาวโลก ดึงงานระดับโลกมาจัดในไทย จัดอีเวนต์และงานเฟสติวัล ไม่ต่ำกว่า 10,000 กิจกรรมโดยรัฐและเอกชนทั่วประเทศ จัดอีเวนต์ระดับโลกไม่ต่ำกว่า 20 กิจกรรม โดยมีเป้าหมายผลักดันให้ไทยติด 1 ใน 10 ประเทศสุดยอดเฟสติวัลโลก

สาขาการท่องเที่ยว นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี ได้เสนอให้มีการทำแพลตฟอร์มเชื่อม Talent กับผู้ประกอบการ จัดทำโปรแกรมการท่องเที่ยว จัดทำคอนเทนต์เพื่อดึงดูดการท่องเที่ยว ดึงงานแสดงสินค้าด้านการท่องเที่ยวมาจัดในไทย ดันเมืองท่องเที่ยวไทยเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน และผลักดันให้ไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์

สาขาอาหาร นายชุมพล แจ้งไพร ได้นำเสนอให้มีการผลักดันหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเซฟอาหารไทย ร้านอาหารเซฟชุมชน ทั้งอาหารไทยและอาหารถิ่น จัดทำช่องรายการอาหารไทย จัดงาน Thai Food World Congress Bangkok 2024 จัดตั้งศูนย์ Thailand Food Intelligence Center (TFIC) ผลักดันตั้งโรงงานนวัตกรรมอาหารภูมิภาคของชุมชน จัดทำ Best Thai Guide และทำซีรีส์อาหารไทย

สาขาศิลปะ นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ เสนอให้มีการจัดทำแพลตฟอร์ม Thailand Art Move ผลักดันหอศิลป์แห่งชาติแห่งใหม่ มีกองทุนช่วยเหลือ ส่งเสริมให้เกิดงานแสดงศิลปะนานาชาติ

สาขาออกแบบ นายดวงฤทธิ์ บุนนาค เสนอให้มีการค้นหาและสนับสนุนอัจฉริยะท้องถิ่น 100 คน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ จัดทำกองทุนร่วมรัฐ-เอกชน เพื่อส่งเสริมธุรกิจ ลดอุปสรรคทางกฎหมายด้านการพัฒนาเมือง

สาขากีฬา นายพิมล ศรีวิกรม์ ได้เสนอให้มีการรวมรวบองค์ความรู้เกี่ยวกับมวยไทย เพิ่มจำนวนและประสิทธิภาพของบุคคลในวงการกีฬามวยไทย ส่งเสริมสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬามวยไทยทุกระดับ ประชาสัมพันธ์มวยไทยทั้งในและต่างประเทศ

สาขาดนตรี นายพิเชียร ฤกษ์ไพศาล ได้เสนอผลักดันให้มีเกิด Talent ด้านดนตรีในทุก ๆ ที่ สร้างเครือข่ายให้ดนตรีไทยอยู่ในกระแสโลก ตั้ง Music Export Office ทำพีอาร์และมาร์เก็ตติ้ง เป็นเจ้าภาพจัด Global Music Exchange & Conference 2024 ดันศิลปินไทยไปแสดงงานในต่างประเทศ ส่งเสริมการสร้างผลงานร่วมกับศิลปินต่างประเทศ และจัดงาน Music Expo

สาขาหนังสือ นายจรัญ หอมเทียนทอง เสนอให้มีการพัฒนาห้องสมุดรูปแบบใหม่ทั่วประเทศ ตั้งสถาบันหนังสือและการอ่านแห่งชาติ สนับสนุนการร่วมงานแสดงสินค้าด้านหนังสือในต่างประเทศ สนับสนุนการจัดงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติและสัปดาห์หนังสือนานาชาติ และการจัดงานหนังสือในไทย

สาขาภาพยนตร์ ละครและซีรีส์ ผู้แทน ม.ร.ว.เฉลิมชาตรี ยุคล เสนอให้มีการปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.ภาพยนตร์และวิดิทัศน์ จัดทำมาตรฐานความปลอดภัยกองถ่าย ผลักดันโครงการ Shot in Thailand ประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์และซีรีส์ไทยทั้งในและต่างประเทศ จัดทำฐานข้อมูลหนังไทย สนับสนุนการแปลเป็นภาษาต่างประเทศ ลดค่าใช้จ่ายในการฉายในโรงภาพยนตร์ ตั้งกองทุนและลดหย่อนภาษี ดันภาพยนตร์และซีรีส์ไทยสู่ 100 เทศกาลทั่วโลก จัดเทศกาลภาพยนตร์ระดับเอเชีย และสนับสนุนการออกบูธตลาดภาพยนตร์และซีรีส์ในต่างประเทศ

 

สาขาแฟชั่น น.ส.กมลนาถ องค์วรรณดี เสนอปรับโครงสร้างองค์กรส่งเสริมแฟชั่น สนับสนุนแหล่งทุนและสิทธิประโยชน์ทางภาษี งบวิจัย ที่ปรึกษาด้านธุรกิจ การสร้างเครือข่าย พัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์เทรนด์ตลาดโลก สร้างกระแสแบรนด์โลคัล และเพิ่มช่องทางจำหน่าย ดันแบรนด์ที่พร้อมสู่เวทีโลก ตั้งกองทุนสำหรับธุรกิจแฟชั่น สนับสนุนการเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ ตั้งศูนย์บ่มเพาะธุรกิจแฟชั่น จัดเจรจาจับคู่ธุรกิจกับแบรนด์สากล

สาขาเกม นายสิทธิชัย เทพไพฑูรย์ เสนอให้ทบทวน พ.ร.บ.เกมและภาพยนตร์ ทำฐานข้อมูลเกมในไทย ประชาสัมพันธ์ส่งเสริมอุตสาหกรรมเกม จัดกิจกรรมเชื่อมโยงคนในอุตสาหกรรม สนับสนุนการจัดงานเกม ดึงงานแสดงสินค้าและการแข่งขันเกมระดับโลกมาไทย ทำปฏิทินแข่งเกมประจำปี มีแพลตฟอร์มระดมทุน 

น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้เห็นชอบการจัดงาน Colorful Bangkok ที่จะมีขึ้นตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค.66 เช่น การจัดงานลอยกระทง ที่คลองผดุงกรุงเกษม คลองโอ่งอ่าง สะพานพระราม 8 ไอคอนสยาม เอเชียทีค การจัดแสงสี ในแลนด์มาร์กสำคัญ เช่น แม่น้ำเจ้าพระยา คลองผดุงกรุงเกษม การผลักดันนักท่องเที่ยวเข้าไปใช้บริการศูนย์การค้า ร้านอาหาร อัญมณี สปา บริการสุขภาพ เอ็นเตอร์เทนเมนต์

การจัดแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก ที่ราชมังคลากีฬาสถาน การจัดงานเคานต์ดาวน์ปีใหม่ ที่วัดอรุณราชวราราม ไอคอนสยาม สยามพารากอน สยามสแควร์ เซ็นทรัลเวิล์ด ถนนรัชดาภิเษก เป็นต้น

พร้อมจัดกิจกรรม Journey 2023 โดยกระทรวงวัฒนธรรมในงานสำคัญต่างๆ อาทิ เทศกาลวรรณกรรมกรุงเทพ การแสดงโขน รามเกียรติ์ ตอนกุมภกรรณทดน้ำ งาน Bangkok ASEAN Film Festival 2023 และงาน Thailand Friendly Design Expo และคาดว่าไตรมาส 4 นี้ จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ 1.5 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่คาดว่าจะเดินทางมา 25-30 ล้านคน

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาติดตามความคืบหน้าการจัดทำการพัฒนาระบบฐานข้อมูลและ Mobile Application และการประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทะเบียนเข้าร่วมศูนย์บ่มเพาะ One Family One Soft Power (OFOS) ภายใต้ยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่จะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ Thailand Soft Power โดยตั้งเป้าหมาย 100 วันมีผู้ลงทะเบียน มากกว่า 1 ล้านคน 1 ล้านครอบครัว และภายใน 2 ปี สามารถลงทะเบียนครบ 20 ล้านคน 20 ล้านครอบครัว

รวมถึงได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการจัดทำร่างกฎหมายว่าด้วยการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์เพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อผลักดัน พ.ร.บ.Thailand Creative Content Agency หรือ พ.ร.บ.THACCA และจัดตั้งคณะอนุกรรมการอำนวยการจัดการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ ในการจัดงาน Soft Power Forum เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงลึก ที่จะนำไปสู่ความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชนในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ของไทย และที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ดำเนินการจัดให้มี One Stop Service ในการประสานงานเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ระหว่างภาคเอกชนและหน่วยงานรัฐต่างๆ