'พิมพ์ภัทรา' จัดทัพซี 10 ดันคนรุ่นใหม่ขับเคลื่อนอุตสาหกรรม
“พิมพ์ภัทรา” จัดทัพครั้งใหญ่ ดันคนขึ้นใหม่ขึ้นเป็นผู้บริหารระดับสูง คุมงาน กพร.-สอน.-กสอ. สร้างทีมขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเป้าหมาย
นางพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หญิงคนที่ 2 ของกระทรวงอุตสาหกรรม เข้ารับตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2566 โดยมีนโยบายผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV)
รวมถึงเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) การขยายผลระเบียงเศรษฐกิจ 4 ภาค เร่งอำนวยความสะดวกดึงลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย
แหล่งข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ในช่วงที่เข้ารับตำแหน่งได้มีการเสนอแต่งตั้งโยกข้าราชการระดับ 10 รวม 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 3 ต.ค.2566 เป็นการสลับตำแหน่งและเพื่อทดแทนผู้เกษียณราชการ 4 ราย ดังนี้
1.นายวันชัย พนมชัย รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)
2.นายบรรจง สุกรีฑา เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เป็นรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
3.นายใบน้อย สุวรรณชาตรี อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
4.นายภาสกร ชัยรัตน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.)
นอกจากนี้ ได้มีการเสนอ ครม.ให้ความเห็นชอบแต่งตั้งโยกย้ายครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 31 ต.ค.2566 รวม 4 ตำแหน่ง ดังนี้
1.นายศุภกิจ บุญศิริ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม
2.นายเอกนิติ รมยานนท์ รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม
3.นายอดิทัต วะสีนนท์ รองอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) เป็นอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.)
4.นายวิฤทธิ์ วิเศษสินธุ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เป็นเลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.)
แหล่งข่าว กล่าวว่า การแต่งตั้งโยกย้ายทั้ง 2 ครั้ง เป็นการจัดทีมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงอุตสาหกรรมครั้งใหญ่ถึง 8 ตำแหน่ง เพื่อจัดทีมบริหารรองรับการทำงานของกระทรวงอุตสาหกรรมในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเป้าหมาย
รวมทั้งเป็นการผลักดันคนรุ่นใหม่ขึ้นมาที่มีอายุระหว่าง 50-52 ปี ไม่ว่าจะเป็นกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ซึ่งมีประสบการณ์ในตำแหน่งรองอธิบดีมามากกว่า 5 ปี
โดยนายวิฤทธิ์ เป็นรองอธิบดีมา 2 กรม ผ่านการทำงานการพัฒนาผู้ประกอบการและการบริหารอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล ในขณะที่นายอดิทัต ผ่านงานสำคัญในการแก้ปัญหาเหมืองทองอัคราที่ต้องมีการเจรจากับต่างประเทศ
รวมถึงนายภาสกร ที่โยกจากผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม มาเป็นอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ก็เป็นผู้บริหารรุ่นใหม่
ในขณะที่ผู้ตรวจรายการกระทรวงอุตสาหกรรมที่ขึ้นมาใหม่ก็เป็นคนรุ่นใหม่ โดยนายศุภกิจ ถือเป็นลูกหม้อของกรมโรงงานอุตสาหกรรมที่ผ่านงานด้านการกำกับดูแลโรงงานและงานด้านการส่งเสริมผู้ประกอบการ
“การแต่งตั้งโยกย้ายทั้ง 2 รอบ ให้ความสำคัญกับการพิจารณาบุคคลที่มีประสบการณ์ตรงกับตำแหน่ง และบุคคลที่อยู่ในระดับรองอธิบดีตามระยะเวลาที่เพียงพอที่จะเป็นตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงขึ้น”
แหล่งข่าว กล่าวว่า สำหรับตำแหน่งอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมที่มีข่าวว่าจะมีการโยกย้าย ซึ่งเห็นแล้วว่าไม่ได้มีการปรับตำแหน่งนี้ตามที่เป็นข่าว โดยจะให้นายจุลพงษ์ ทวีศรี ทำหน้าที่ต่อ