'ผู้ค้าน้ำมัน' แจงไม่คิดตุนน้ำมันกลุ่มเบนซิน ชี้จำกัดสต๊อกลดการขาดทุน

แหล่งข่าวจากจากสถานีบริการน้ำมัน เปิดเผยถึงกรณีที่น้ำมันเบนซินโดยเฉพาะแก็สโซฮอล์ 91 ขาดสต็อกนั้น ในความเป็นจริงปั๊มไม่ได้กักตุนน้ำมัน โดยสาเหตุที่น้ำมันหมด เพราะปั๊มลดสต๊อกน้ำมันมาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2566 เพื่อขายราคาเดิมให้หมดวันที่ 6 พ.ย. 2566 ป้องกันการขาดทุน หลังจากนั้นวันที่ 7 พ.ย. 2566 จึงสั่งน้ำมันในราคาใหม่ที่ลดแล้วมาจำหน่าย

อย่างไรก็ตาม การที่ปั้มน้ำมันหลายแห่งไม่น้ำมันชนิดเบนซินและแก๊สโซฮอล์ จำหน่ายวันที่ 7-8 พ.ย. 2566 เนื่องจาก 

1. ทุกปั้มต้องการลดสต๊อกของปั้มตนเองเพื่อให้เหลือน้อยที่สุด เพราะรัฐบาลไม่ได้ขดเชยส่วนต่างที่ปรับลงอย่างรุนแรงให้

2. เมื่อมีการปรับลดสต๊อกลง บางปั้มคำนวนผิดพลาด อาจทำให้ปั้มข้างเคียงขายมากกว่าปกติ สุดท้ายน้ำมันจึงหมดตามกันไปทุกปั้ม

3. ไม่คุ้มค่าขนส่งที่ต้องจ้างรถขนส่งน้ำมันวิ่งมาส่งน้ำมันมาเพียง 3,000 ลิตร โดยต้องจ้างเป็นคัน 18,000 ลิตร จึงจะคุ้มค่าขนส่ง จึงปล่อยให้น้ำมันหมด เพื่อรอซื้อเพิ่มเช้าวันที่ 7 พ.ย. 2566

ทั้งนี้ ในวันที่ 9 พ.ย. 2566 บางปั๊มน้ำมันก็อาจจะยังไม่มีน้ำมันจำหน่าย อาจมีสาเหตุมาจาก

1. ไม่มีรถขนส่งน้ำมันเป็นของตนเอง ต้องว่าจ้างรถขนส่ง และต้องรอคิวรถจ้างวิ่งที่มีคิวยาวทั่วประเทศที่สั่งน้ำมันพร้อมกันทั้งประเทศ โดยเท่าที่ทราบข้อมูลตอนนี้คิวยาวไปถึงวันที่ 10 พ.ย. 2566

2. ความสามารในการโหลดน้ำมันแต่ละคลังแตกต่างกัน ได้วันละไม่มาก ตามจำนวนปกติจะโหลดได้ทันเพียงพอ แต่มาพร้อมกันทุกปั้มต้องใช้เวลาในการโหลด 2-3 วัน จึงจะหมดคิวรถ

3. คลังมีสต๊อกจำกัดเมื่อโหลดต่อเนื่อง 2 วัน 2 คืน ในสต๊อกก็หมดคลังเช่นกัน ต้องรอเรือเทียบท่าลงก่อนจึงจะจ่ายน้ำมันได้ต่อ ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวนี้ หากเรือไม่เข้า หรือคลังไม่ได้คำนวนน้ำมันเผื่อก็อาจจะหมด 3-5 วันได้ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้บางปั้มยังไม่มีน้ำมันจำหน่าย

อย่างไรก็ตาม จากการที่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR และ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกาศปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ลงอีก 60 สตางค์ต่อลิตร ล่าสุด ซึ่งจะมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันที่ 9 พ.ย. 2566 ส่งผลทำให้ปั้มที่ไม่มีน้ำมันขายที่รอคิวรับน้ำมันวันนี้ ก็ไม่ต้องการรับน้ำมันเข้ามาเพิ่ม โดยจะเลือนไปรับวันที่ 9 พ.ย. 2566 หลังเวลา 05.00 น. ไม่เช่นนั้นก็จะขาดทุนอีกลิตรละ 60 สตางค์

"ปั๊มใดที่มีสต๊อกที่ซื้อก่อนวันที่ 6 พ.ย. 66 เหลือแล้วยังขายไม่หมดถึงวันที่ 9 พ.ย. 2566 จะเท่ากับว่าราคาลงไปอีก 2.50+0.6 = 3.20 บาท ต้องขาดทุนทันที่ลิตรละ 3.20 บาท ดังนั้น หากลองคำนวณโดยใช้ 10,000 ลิตร x3.20 ก็จะเท่ากับขาดทุน 32,000บาท ซึ่งตัวอย่างเป็นเพียงแค่แก๊สโซฮอล์ 91 ชนิดเดียว ซึ่งหากรวมทุกชนิดเบนซินก็จะขาดทุนเกือบแสนบาท หากไม่ลดสต๊อก หรือปล่อยให้หมดตามกันไป"