พาณิชย์ เผยเอฟทีเอไทย-ศรีลังกา คาดช่วยเศรษฐกิจไทยขยายตัวกว่า 4,000 ล้านบาท
‘นภินทร’ เปิดงานสัมมนา เตรียมพร้อมผู้ประกอบการไทยใช้ประโยชน์จาก เอฟทีเอ ไทย-ศรีลังกา ชี้ เอฟทีเอ ช่วยเศรษฐกิจไทยขยายตัว 4,130 ล้านบาท และเป็นประตูสู่ภูมิภาคเอเชียใต้ เผยคืบหน้าเจรจาคาดปิดดีลได้ปีนี้
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนา “เชื่อมโยงห่วงโซ่อุปทาน วางรากฐานการค้าการลงทุน ด้วย FTA ไทย-ศรีลังกา” และกิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) ในช่วงการประชุมเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-ศรีลังกา เมื่อวันที่ 29 พ.ย. 2566 ณ โรงแรมเรเนซองส์ ว่า การจัดงานครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้ร่วมกับกระทรวงการค้า พาณิชย์ และความมั่งคงทางอาหารของศรีลังกา ซึ่งได้รับความสนใจจากภาคเอกชนไทยและศรีลังกากว่า 200 ราย
โดยมีผู้เชี่ยวชาญจากภาครัฐและเอกชนทั้งสองฝ่ายให้ข้อมูลเกี่ยวกับโอกาสทางการค้าและการลงทุน รวมทั้งแบ่งปันประสบการณ์การทำธุรกิจระหว่างไทยกับศรีลังกา ซึ่งช่วยให้ผู้ประกอบการไทยสามารถนำไปวางแผนทางธุรกิจและการลงทุนในศรีลังกา นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมเจรจาธุรกิจสินค้าและอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ ได้แก่ อัญมณีและเครื่องประดับ การท่องเที่ยว การเกษตร สินค้าประมง เทคโนโลยีสารสนเทศ สินค้าและเครื่องดื่มออแกนิก และการดูแลสุขภาพ
“การจัดทำ FTA ไทย-ศรีลังกา ถือเป็นโอกาสในการขยายการค้าและการลงทุนไปตลาดใหม่ในภูมิภาคเอเชียใต้ เนื่องจากศรีลังกาตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์เส้นทางการเดินเรือของมหาสมุทรอินเดีย เชื่อมโยงไปยังเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา รวมทั้งเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในเส้นทางสายไหมทางทะเลของจีน และมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ อาทิ อัญมณี สัตว์น้ำ และสินแร่ ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่อุตสาหกรรมภายในของไทยต้องการ” นายนภินทร กล่าว
สำหรับผลการศึกษา พบว่า FTA ไทย-ศรีลังกา จะทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น 4,130 ล้านบาท การลงทุนของไทยในศรีลังกาเพิ่มขึ้น 1,912 ล้านบาท และขยายมูลค่าการส่งออกของไทยไปศรีลังกา 1,499 ล้านบาท โดยสินค้าไทยที่คาดว่าจะได้ประโยชน์ ได้แก่ สิ่งทอ ยานยนต์และชิ้นส่วน อัญมณี พลาสติกและผลิตภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ ในส่วนของธุรกิจบริการ ได้แก่ บริการคอมพิวเตอร์ บริการโทรคมนาคม บริการเฟรนไชส์ บริการสิ่งแวดล้อม บริการด้านการเงิน บริการโรงแรมและร้านอาหาร บริการด้านการกีฬาและนันทนาการ และบริการขนส่งทางทะเล
นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้า คณะเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี FTA ไทย-ศรีลังกา ได้มีการเจรจาไปแล้วในรอบที่ 7 ระหว่างวันที่ 9-11 ต.ค. 2566 ที่ผ่านมา ณ กรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา โดยการเจรจาครั้งนี้ มีความคืบหน้ากว่า 80% ของภาพรวมการเจรจาทั้งหมด และขณะนี้กำลังมีการเจรจากันในรอบที่ 8 ระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย. 2566 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ จากนั้นจะมีการเจรจากันอีกรอบในช่วงประมาณต้นเดือนธ.ค.นี้ คาดว่า น่าจะสามารถปิดการเจรจาได้ภายในปีนี้ เพื่อเสนอระดับรัฐมนตรีทั้งสองฝ่ายร่วมลงนามความตกลงในช่วงต้นปี 2567
ทั้งนี้การประชุมเจรจาเอฟทีเอจะมีการประชุมคณะทำงานที่เกี่ยวข้อง 6 คณะ ได้แก่ 1. การค้าสินค้า 2. กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า 3. อุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า 4. การค้าบริการ 5. การลงทุน และ 6. กฎหมาย
ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย. 2566) การค้าระหว่างไทยกับศรีลังกา มีมูลค่า 285.06 ล้านดอลลาร์ดอลลาร์ โดยไทยส่งออกไปศรีลังกา มูลค่า 187.69 ล้านดอลลาร์ และไทยนำเข้าจากศรีลังกา มูลค่า 97.37 ล้านดอลลาร์ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ ยางพาราผ้าผืน อัญมณีและเครื่องประดับ เม็ดพลาสติก และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ สินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องเพชรพลอยและอัญมณี เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช และเคมีภัณฑ์