ชาวไร่อ้อยเฮ! ครม.ไฟเขียวงบฯ 8,000 ล้านบาท จ่ายค่าตัดอ้อยสด 120 บาท/ตัน

ชาวไร่อ้อยเฮ! ครม.ไฟเขียวงบฯ 8,000 ล้านบาท จ่ายค่าตัดอ้อยสด 120 บาท/ตัน

ครม.สัญจรหนองบัวลำภูไฟเขียวงบฯ 8,000 ล้านบาท จ่ายค่าตัดอ้อยสดชาวไร่อ้อยตันละ 120 บาท แก้ปัญหา PM2.5 และช่วยต้นทุนเกษตรกรชาวไร่อ้อย ชาวไร่อ้อยได้ประโยชน์ 1.4 แสนราย

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) จ.หนองบัวลำภู ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง เป็นประธาน วันนี้ (4 ธ.ค.) เห็นชอบโครงการสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อย ตัดอ้อยสดคุณภาพดี เพื่อ ลดฝุ่น PM 2.5 วงเงินงบประมาณ 8,000 ล้านบาท โดยจะใช้งบประมาณในส่วนของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของชาวไร่อ้อย ในขณะที่ต้นทุนการผลิตอ้อยปรับตัวสูงขึ้น 

โดยชาวไร่อ้อยจะได้รับเงินสนับสนุนตัดอ้อยสดตันละ 120 บาท คาดว่าจะมีชาวไร่อ้อยเข้าร่วมโครงการประมาณ 140,000 ราย ทั้งนี้โครงการดังกล่าวไม่ขัดต่อหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือขององค์กรการค้าโลก (WTO)

โดยก่อนหน้านี้นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยระหว่างการลงพื้นที่พบปะเกษตรกรชาวไร่อ้อย ณ สมาคมกลุ่มชาวไร่อ้อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดอุดรธานี ระหว่างการลงพื้นที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ราคาอ้อยและน้ำตาลทราย ล่าสุดราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานกิโลกรัมละ 21-22 บาท จากเดิมที่กิโลกรัมละ 19-20 บาท โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆ จะใช้เป็นองค์ประกอบในการคำนวณราคาอ้อยขั้นต้น จะทำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยและโรงงานมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น

ชาวไร่อ้อยเฮ! ครม.ไฟเขียวงบฯ 8,000 ล้านบาท จ่ายค่าตัดอ้อยสด 120 บาท/ตัน

นอกจากนี้ ยังได้มีการผลักดันให้มีการกำหนดราคาอ้อยขั้นต้น ฤดูการผลิตปี 2566/67 ในอัตรา 1,400 บาท/ตันอ้อย เพิ่มขึ้นจากราคาอ้อยขั้นสุดท้ายฤดูการผลิตปี 2565/66 ซึ่งอยู่ที่ 1,080 บาท/ตันอ้อย  เนื่องจากต้นทุนการผลิตอ้อยของชาวไร่สูงขึ้นและความต้องการน้ำตาลทรายในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ (4 ธันวาคม 2566) คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติโครงการสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยตัดอ้อยสดคุณภาพดีเพื่อลดฝุ่น PM2.5 (โครงการฯ) กรอบวงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 7,990.60 ล้านบาท ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอโดยงบประมาณส่วนนี้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) รับภาระก่อนแล้วรัฐบาลจะจ่ายคืนให้ภายหลัง โดยมีสาระสำคัญคือ 

1. อัตราการจ่ายเงินสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยตามโครงการฯ ในอัตราไม่เกิน 120 บาทต่อตัน เพื่อให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยสามารถดำเนินการเก็บเกี่ยวอ้อยสดคุณภาพดี1 และนำไปแก้ไขปัญหาในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดที่ทำให้เกิดการลักลอบเผาอ้อย ทั้งนี้ หลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสนับสนุนดังกล่าวจะเป็นแนวทางในการสนับสนุนเกษตรกรชาวไร่อ้อยให้สามารถดำเนินการเก็บเกี่ยวอ้อยสดและนำไปแก้ไขปัญหาในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดในการเก็บเกี่ยวอ้อยสด

2. ค่าใช้จ่ายโครงการฯ ในอัตราไม่เกิน 120 บาทต่อตัน เป็นจำนวนเงิน 7,775.01 ล้านบาท โดยใช้แหล่งเงินทุนของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

3. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการของ ธ.ก.ส. รวมจำนวนเงิน 215.59 ล้านบาท

 

ยันไม่ขัดหลักการ WTO

ทั้งนี้การขอรับเงินอุดหนุนโครงการฯ ไม่ขัดต่อพันธกรณีภายใต้ WTO เนื่องจากมาตรการดังกล่าวเป็นการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยเพื่อส่งเสริมการตัดอ้อยสด ลดปัญหามลพิษทางอากาศและฝุ่น PM2.5 ซึ่งเป็นไปตามพันธกรณีภายใต้ WTO ในข้อกำหนดด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (Green box) ด้านการเกษตร โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตและราคาสินค้า