เบี้ยประกัน 'วินาศภัย' จ่อทะลุ 3 แสนล้าน
คาดการณ์ว่าแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจประกันวินาศภัย ปี 2567 จะเติบโตราว 5-6% เบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวม 301,050-303,900 ล้านบาท
นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย สมพร สืบถวิลกุล ระบุ คาดการณ์ว่าแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจประกันวินาศภัย ปี 2567 จะเติบโตราว 5-6% เบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวม 301,050-303,900 ล้านบาท จากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากแรงสนับสนุนของภาครัฐ อาจทำให้ยอดขายทะลุ 100,000 คัน บวกกับประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการทำประกันภัยสุขภาพ เนื่องมาจากแนวโน้มค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มสูงขึ้น และจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นถึง 2 เท่า ส่งผลให้ในปีหน้ามีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับปี 2566 คาดการณ์ว่าจะเติบโตราว 4-5% มีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวม 285,080-287,800 ล้านบาท โดยการประกันภัยแทบทุกประเภทมีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ยอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการท่องเที่ยวทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศที่กลับมาคึกคัก ซึ่งทั้งหมดนี้ส่งผลดีต่อการประกันภัย
กองทุนฯ อ่วมแบกหนี้ 8 หมื่นล้าน
ส่วนกรณีหลังจากศาลล้มละลายกลางได้ยกเลิกคำสั่งการฟื้นฟูกิจการของ บมจ. สินมั่นคงประกันภัย ส่งผลทำให้อำนาจการควบคุมกลับมาสู่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ซึ่งหลังจากนี้ทางบริษัทมีเวลาอีก 60 วันในการทำแผนเพิ่มทุนตามที่ คปภ.กำหนด ขณะนี้ บมจ.สินมั่นคงประกันภัย พยายามหาทางแก้ไขปัญหา เช่น ผ่องถ่ายพนักงานไปยังบริษัทประกันบางแห่ง ต่อไปอาจจะเห็นการนำพอร์ตประกันภัยบางส่วนไปให้บริษัทประกันอื่นบริหารต่อ
อย่างไรก็ตาม หากสินมั่นคงฯ ไม่สามารถเพิ่มทุนได้ต้องถูกเพิกถอนใบอนุญาต จะส่งผลให้หนี้ค้างของสินมั่นคงฯ ซึ่งมีอยู่ประมาณ 30,000 ล้านบาท ต้องถูกย้ายไปที่กองทุนประกันวินาศภัยแทน และจะส่งผลให้กองทุนฯ มีภาระหนี้เพิ่มขึ้นจาก 50,000 ล้านบาท เป็น 80,000 ล้านบาท อาจจะกลายเป็นปัญหาในการชำระแก่เจ้าหนี้หรือผู้เคลมประกันในอนาคต เนื่องจากปัจจุบันกองทุนฯ เหลือสภาพคล่องเพียงแค่ 1,500 ล้านบาทเท่านั้น
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา บริษัทสมาชิกฯ ได้เข้าไปช่วยเหลือบ้างแล้ว อาทิ การเพิ่มเงินนำส่งเข้ากองทุนฯ จาก 0.25% เป็น 0.5% ซึ่งทำให้กองทุนมีรายได้เพิ่มจากปีละ 700 ล้านบาท เป็น 1,400 ล้านบาท แต่ก็มองว่าไม่น่าพอเมื่อเทียบกับภาระหนี้ที่อยู่ทั้งหมด
ส่วนแนวคิดที่อาจจะแก้กฎหมายเพื่อขอให้สมาชิกบริษัทประกันวินาศภัยต้องส่ง เงินเข้ากองทุนเพิ่มเป็น 2% นั้น มองว่าเป็นอัตราที่สูงเกินไปอาจจะทำให้เกิดวิกฤติในอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยได้ เพราะปัจจุบันบริษัทต่างๆ ก็มีกำไรอยู่ในระดับไม่ถึง 5%