ปัจจัยชี้ชะตาธุรกิจปี67 “เทคโนโลยี-เจนใหม่-สิ่งแวดล้อม ซอฟต์พาวเวอร์ “

ปัจจัยชี้ชะตาธุรกิจปี67 “เทคโนโลยี-เจนใหม่-สิ่งแวดล้อม ซอฟต์พาวเวอร์ “

ม.หอการค้าไทย ชี้ อีคอมเมิร์ซ ทำคอนเทนต์ Youtuber รีวิวสินค้า Influencer ธุรกิจดาวรุ่งปี 67 ขณะสายมู ซอฟต์พาวเวอร์ พุ่งแรงหลังปี66 ธุรกิจเด่นแต่รั้งท้าย

ปัจจัยที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจในปี 2567 มีทั้งด้านบวกและด้านลบ และปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจต่างๆทำให้ปี 2567 มีทั้งธุรกิจที่ได้รับทั้งโอกาสและบางธุรกิจอาจอยู่ในช่วงขาลงด้วย 

นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้า เปิดเผยว่า ม.หอการค้าได้การจัดอันดับ10ธุรกิจดาวรุ่งดาวร่วงปี2567 พบว่า 10 ธุรกิจดาวรุ่งในปี 2567 ได้แก่

1.ธุรกิจที่ทำการซื้อขายผ่านอิเล็คทรอนิกส์ ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ ธุรกิจ Youtuber การรีวิวสินค้าและ Influencer มาแรงเป็นอันดับ 1 เนื่องจากผู้บริโภคมีพฤติกรรมปรับลดการใช้จ่ายผ่านหน้าร้าน เช่น ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ซุปเปอร์มาร์เก็ต มาเป็นการใช้จ่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้นเนื่องจากมีความสะดวกสบายและสามารถเปรียบเทียบราคาและบริการของแต่ละร้านค้าออนไลน์ได้

2. ธุรกิจการแพทย์และความงาม ธุรกิจโฆษณาและสื่อออนไลน์ ธุรกิจโทรคมนาคมสื่อสาร เช่น การให้บริการอินเตอร์เน็ตหรือสัญญาณสื่อสารต่างๆ 

3 . ธุรกิจ Social Media และ Online Entertainment ธุรกิจด้านการเงินธนาคาร Fintech และการชำระเงินผ่านระบบเทคโนโลยี ธุรกิจ Cloud Service และธุรกิจบริการ Cyber Security

“สายมู”ขยับติดท็อปไฟว์ปีหน้า

4 .ธุรกิจงานคอนเสิร์ต มหกรรมจัดแสดงสินค้า ธุรกิจ Event ธุรกิจความเชื่อ (สายมู,หมอดู,ฮวงจุ้ย) ทั้งนี้ถือว่าธุรกิจสายมูกำลังมาแรงเนื่องจากในปี2566อยู่อันดับ 10 แต่กำลังจะขยับขึ้นมาเป็นดาวรุ่งอันดับ 4 ในปีหน้า

5 .ธุรกิจประกันภัย ประกันชีวิ ธุรกิจอีวี และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ธุรกิจ Soft Power ไทย เช่น ซีรีส์ ภาพยนตร์ เพราะไทยมีวัฒนธรมที่เป็นเอกลักษณ์ ทั้งประวัติศาสตร์ ศิลปะ ดนตรี และอาหาร, กระแสความนิยมที่มีมากขึ้นของอาหารไทย ดนตรีไทย ภาพยนตร์ไทย

ปัจจัยชี้ชะตาธุรกิจปี67 “เทคโนโลยี-เจนใหม่-สิ่งแวดล้อม ซอฟต์พาวเวอร์ “

6.ธุรกิจอาหารเสริม ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม(ที่ไม่มีแอลกอฮอล์)ธุรกิจเกี่ยวกับน้ำตาล

  7. ธุรกิจร้านค้าปลีกสมัยใหม่(Modern Trade) ธุรกิจโลจิสติกส์ Delivery และคลังสินค้า ธุรกิจเงินด่วน โรงรับจำนำ 

8. ธุรกิจสัตว์เลี้ยง ธุรกิจบันเทิงยามค่ำคืน ผับ บาร์ คาราโอเกะ ธุรกิจอี สปอร์ต เกมส์ และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง  

9. ธุรกิจตลาดเพื่อการท่องเที่ยว ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ทัวร์ และธุรกิจเกี่ยวเนื่อง  

10. ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจยานยนต์ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง

สื่อ-เทคโนโลยีเก่าติดธุรกิจดาวร่วง 

ส่วน10 อันดับธุรกิจดาวร่วงในปี 2567 ได้แก่ 1. ธุรกิจโทรศัพท์พื้นฐาน ธุรกิจร้านเช่าหนังสือ ซีดี หรือ วีดีโอ ธุรกิจสื่อสิ่งพิมพ์ที่ไม่มีแพลตฟอร์ม ออนไลน์ 2. ธุรกิจผลิตซีดี ดีวีดี ที่จัดเก็บข้อมูลฮาร์ดไดร์ฟ หรือ เมมโมรี่ การ์ด ธุรกิจบริการส่งหนังสือพิมพ์ 3. ธุรกิจคนกลาง ธุรกิจเครื่องปั้นและเซรามิค 

4. ธุรกิจผลิตสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม 5. ธุรกิจผลิตสารเคมี 6 .ธุรกิจร้านถ่ายภาพ 7. ธุรกิจร้านขายเครื่องเล่นเกม แผ่นเกม ตลับเกม ธุรกิจการทอผ้าจากธรรมชาติ 8. ธุรกิจถ่ายเอกสาร 9.ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ไม้ และ 10.ธุรกิจร้านโชห่วยและธุรกิจผลิตกระดาษ

ปัจจัยชี้ชะตาธุรกิจปี67 “เทคโนโลยี-เจนใหม่-สิ่งแวดล้อม ซอฟต์พาวเวอร์ “

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจม.หอการค้าไทย กล่าวว่า ปัจจัยที่มีผลกระทบต่ออันดับธุรกิจ คือ 1.เทคโนโลยีสู่ดิจิทัลเป็นรูปธรรมและเด่นชัดมากขึ้นทั้งการซื้อของผ่านเพลตฟอร์มออนไลน์ การทำธุรกรรมออนไลน์ โซเซียล มีเดีย หลังจากที่ผ่านยุคโควิด-19 ทำให้ธุรกิจดาวรุ่งคือ การซื้อขายผ่านอิเล็คทรอนิกส์ ธุรกิจจัดทำคอนเทนต์ ธุรกิจ Youtuber การรีวิวสินค้าและ Influencer มาแรงเป็นอันดับหนึ่ง

เจนYเจนZปัจจัยชี้ทิศทางธุรกิจ

2.โซเชียลและเจเนอเรชั่น โดยกลุ่มGen YและGen Zเข้ามามีบทบาทในการกำหนดทิศทางธุรกิจในปัจจุบันมากขึ้น โดยกลุ่มนี้มีถึง 25-30 ล้านคนจากคนไทย 70 ล้าน ซึ่งจะกำหนดทิศทางการจับจ่ายใช้สอย เน้นความคุ้มค่าของราคาและดูแลสิ่งแวดล้อม 3.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งธุรกิจที่ดูแลสิ่งแวดล้อมมีความโดดเด่นขึ้นในปีหน้า 4.การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก และ 5.การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและภูมิรัฐศาสตร์ ขณะที่ธุรกิจดาวร่วง10 อันดับส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่ไม่สไตล์

“ธุรกิจความเชื่อและธุรกิจซอฟต์เพาเวอร์ที่ติดดาวรุ่งอันดับ 10 ในปี 2566 ดีดแรงเป็นดาวรุ่งอันดับ 4 และ 5 ถือว่าเป็น 2 ธุรกิจที่ขยายตัวได้แรงสุด และจะสร้างเงินเข้าระบบเศรษฐกิจจำนวนมากอย่างสายมู ประเมินว่าปี 2567 จะมีมูลค่าเพิ่มเป็น 1.8-2.0 หมื่นล้านบาท จากปี 2566 ประเมินไว้ 1.0-1.5 หมื่นล้านบาท ขยายตัวไม่น้อยกว่า 20-30% ต่อปี ส่วนซอฟต์เพาเวอร์ที่รัฐบาลให้การสนับสนุน เบื้องต้น 11 กลุ่มที่ต้องการผลักดัน น่าจะสร้างเงินสะพัดในระบบเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี”

ปี67จีดีพีโต3%ท่องเที่ยว-ส่งออกหนุน

ทั้งนี้ หอการค้าไทยประเมินจากทิศทางเศรษฐกิจปี2567 คาดว่าจะขยายตัว 3-3.5% และหากมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ความชัดเจนเรื่องดิจิทัลวอลเลตมีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะโตได้ถึง 4% นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยในเรื่องของการท่องเที่ยวที่จะเติบโต ส่วนการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวเป็นบวก 2-3% จากปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลในเรื่องของการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคมาก และเศรษฐกิจไทยจะค่อยฟื้นตัวได้ในปลายไตรมาส 2 ขณะที่ในปี 2566 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 2.4-2.6%