ไทย-จีน เว้นวีซ่าถาวร เริ่ม 1 มี.ค.นี้ 'เศรษฐา' ชี้เพิ่มอำนาจพาสปอร์ตไทย
“เศรษฐา” ประกาศข่าวดี ไทย–จีน เว้นวีซ่าถาวรเริ่ม 1 มี.ค.67 เป็นต้นไป ชี้เป็นไปตามนโยบายเพิ่มอำนาจพาสปอร์ตไทย โอ่ที่จีนยังไม่อนุมัติให้ไทยใน 5 ประเทศแรกเพราะอยู่ระหว่างการเจรจา ททท.ตั้งเป้าปีนี้ดึงนักท่องเที่ยวจีน 8 ล้านคน
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 2 ม.ค.2567 ว่าประเทศไทยและประเทศจีนมีข้อตกลงในการยกเว้นวีซ่าให้กับสองประเทศที่จะเดินทางเข้าออกระหว่างกันเป็นการถาวรตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.นี้เป็นต้นไป
ถือเป็นการยกระดับความสำคัญของพาสปอร์ตไทยในการเดินทางทั้งสองประเทศ และขอให้มีการประชาสัมพันธ์ว่าเราพร้อมแล้วจะมีการเปิดประเทศและดูแลนักท่องเที่ยวของกันและกันเป็นอย่างดีซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รัฐบาลบอกว่าจะยกระดับพาสปอร์ตไทย ซึ่งจะให้ดีต้องเป็นการยกเลิกวีซ่าทั้งสองประเทศ เมื่อประมาณ 1 เดือนนี่ผ่านมาจีนก็มีการยกเว้นวีซ่าให้กับ 5 ประเทศซึ่งเป็นเรื่องชั่วคราว แต่เหตุผลจริงๆคือเรากำลังคุยกับทางจีนอยู่ว่าจะให้มีการยกเลิกวีซ่าถาวร เริ่มต้นวันที่1 มี.ค.นี้ซึ่งหมายความว่าไปกลับทั้งสองประเทศไม่ต้องมีการขอวีซ่าซึ่งกันและกัน”
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ไทยยกเว้นวีซ่าให้กับจีนในการพำนัก 30 วัน เป็นเวลา 5 เดือนตั้งแต่ 25 ก.ย.66– 9 ก.พ.2567 โดยให้สามารถเข้ามาพำนักในประเทศไทยได้ 30 วันก่อนจะมีการประกาศว่าจะมีการยกเลิกวีซ่าถาวรให้กับทั้งสองประเทศในวันนี้เริ่ม 1 มี.ค.เป็นต้นไป
ทั้งนี้ที่ผ่านมาในปี 2562 นักท่องเที่ยวจีนเคยเข้าไทยสูงสุด 10 ล้านคนในขณะที่ปีที่ผ่านมา 3,519,735 คน ซึ่งยังน้อยกว่าที่นยังน้อยกว่าที่ยังตั้งเป้าไว้ว่านักท่องเที่ยวจีนจะเข้าไทยประมาณ 5–8 ล้านคน
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าว่า ในช่วงกลางเดือน ม.ค.นี้ จะเดินทางพร้อมคณะไปยังประเทศจีนเพื่อลงนามในบันทึกข้อตกลงระหว่างสองประเทศในการยกเว้นวีซ่าระหว่างกันต่อไป
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ตลอดปี 2566 มีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทย 3,519,735 คน จากนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด 28,042,131 คน
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.ตั้งเป้าหมายดึงนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทยตลอดปี 2567 ไม่น้อยกว่า 8 ล้านคน จากเป้าหมายภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติในกรณีดีที่สุด (Best Case Scenario) จำนวน 35 ล้านคน เท่ากับว่าจะต้องเร่งทำการตลาดดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้าเพิ่มอีก 4.5 ล้านคน เพิ่มจากปี 2566 ซึ่งปิดที่ตัวเลข 3.5 ล้านคน
ทิศทางการทำตลาดนักท่องเที่ยวจีน จะมุ่งฟื้นความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัย ให้นักท่องเที่ยวจีนมองประเทศไทยด้วยภาพลักษณ์เชิงบวก โดยเมื่อปลายเดือน ธ.ค. 2566 ททท.ได้จัดแฟมทริปนำคณะสื่อมวลชนและอินฟลูเอนเซอร์จีนจำนวน 100 รายเดินทางมาสำรวจสินค้าท่องเที่ยวและบริการในประเทศไทย
ขณะเดียวกัน ททท. จะดึงกลุ่มคุณภาพมากขึ้น หลังเห็นพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนเปลี่ยนไป นิยมเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) เป็นกลุ่มขนาดเล็กชัดเจนมากขึ้น รวมถึงกลุ่มนักเดินทางไมซ์ (MICE: การประชุม เดินทางเพื่อเป็นรางวัล สัมมนา และแสดงสินค้า)