เกษตรฯจีบ อินเดีย ขยายตลาดน้ำมันปาล์ม รักษาระดับราคาปาล์มดิบ 5-6 บาท/กก.
กระทรวงเกษตรฯหวั่นราคาปาล์มดิบตกต่ำ หลังปัญหารุม เพิ่มไบโอดีเซลไม่ได้ อินโดนีเซียเริ่มส่งออก กระชับมิตรอินเดีย กระตุ้นการส่งออก รักษาเสถียรภาพราคาปาล์มดิบ ที่ 5-6บาท/กก.
นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร( สศก. )เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ตระหนักและเร่งแก้ไข ปัญหาราคาปาล์มน้ำมัน มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตั้งแต่ปลายปี 2565 ราคาน้ำมันปาล์ม และ ราคาปาล์มน้ำมัน มีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังจากอินโดนีเซีย ยกเลิกมาตรการห้ามส่งออกน้ำมันปาล์ม ประกอบกับการขยายตัวของพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน ทำให้มีปริมาณผลผลิตน้ำมันปาล์มมากกว่าความต้องการใช้ในประเทศ
รวมถึงผลกระทบจากการปรับมาตรฐานน้ำมันเชื้อเพลิงของประเทศไทยเป็น ยูโร 5 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ที่ทำให้ปัจจุบันเกิดข้อกำจัดทางเทคนิค ไม่สามารถเพิ่มส่วนผสมไบโอดีเซลเกินกว่า บี7 ได้ ส่งผลให้ปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มเพื่อผลิตไบโอดีเซลลดลง ตลอดจนข้อตกลงของรัสเซียและยูเครนในการส่งออกน้ำมันดอกทานตะวันที่คลี่คลายลง ทั้งหมดส่งผลกระทบต่อการส่งออกและราคาปาล์มน้ำมันในประเทศ
เร่งส่งออกน้ำมันปาล์ม
ที่ผ่านคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ได้ร่วมมือกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม ผลักดันให้มีการส่งออกน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้น โดยมีมาตรการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน ประกอบกับสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกอยู่ในระดับที่ไทยสามารถแข่งขันในการส่งออกได้
ส่งผลให้นับตั้งแต่ปี 2565 ประเทศไทยส่งออกน้ำมันปาล์มได้ถึง 1 ล้านตัน และปี 2566 สามารถส่งออกได้มากกว่า 9 แสนตัน จากเดิมที่ไทยเคยส่งออกน้ำมันปาล์มได้ประมาณ 2 - 3 แสนตัน
นอกจากนี้ ยังมีคณะอนุกรรมการบริหารจัดการสมดุลน้ำมันปาล์ม เพื่อติดตามสถานการณ์ปาล์มน้ำมัน และน้ำมันปาล์มอย่างใกล้ชิด เพื่อให้บริหารจัดการให้ปริมาณการผลิต การใช้ การส่งออก และปริมาณสต็อก น้ำมันปาล์มอยู่ในระดับที่เหมาะสม และมีเพียงพอต่อความต้องการใช้ในประเทศ
รวมทั้งเพื่อรักษาเสถียรภาพราคาปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มในประเทศเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มและจากการคาดการณ์ว่า ในปี 2567 ปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มในประเทศลดลง ทำให้มีน้ำมันปาล์มส่วนเกิน ซึ่งควรจะเร่งผลักดันให้มีการส่งออกน้ำมันมากขึ้น
จับมืออินเดีย ผู้ใช้รายใหญ่
เพื่อเป็นการขยายตลาดส่งออกดังกล่าว กระทรวงเกษตร ฯ ได้ร่วมกับ สมาคมผู้สกัดน้ำมันพืชแห่งอินเดีย จัดสัมมนาใหญ่ของภูมิภาคเอเชียใต้ “ Globoil Asia 2024 & South Asia Agri Summit” ณ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน กรุงเทพฯ โดยมีผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมและการค้าน้ำมันพืชจากทั่วโลก เข้าร่วมงานกว่า 700 คน
ถือเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินมาตรการเชื่อมความสัมพันธ์กับผู้ค้าน้ำมันพืชอินเดียที่เป็นตลาดส่งออกน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของไทย โดยการส่งออกน้ำมันปาล์มไปยังอินเดีย จะช่วยแก้ปัญหาน้ำมันปาล์มล้นตลาดในอนาคตและช่วยให้ราคาผลปาล์มทะลายมีแนวโน้มตามราคาตลาดโลกได้
รับมือสถานการณ์ปี 67
ปัจจุบัน ไทยสามารถรักษาระดับราคาผลปาล์มไว้ได้ในช่วง 5 - 6 บาทต่อกิโลกรัม อย่างไรก็ตาม การบริหารจัดการราคาปาล์มทะลาย นับจากนี้ มีความท้าทายอย่างมาก เนื่องจากคาดว่าผลผลิตปาล์มน้ำมันจะออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นในช่วงเดือน มีนาคม 2567 จึงต้องเตรียมเพิ่มการส่งออกอย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันราคาตกต่ำที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่เดือนนี้”