“นภินทร”หารือเอกชนขยายส่งออกกุ้งแช่แข็ง เล็งดันกุ้งกุลาดำเป็นสินค้าจีไอ
“นภินทร” หารือเอกชนขยายการส่งออกผลิตภัณฑ์กุ้งสดแช่แข็ง ไปจำหน่ายต่างประเทศ พร้อมผลักดันกุ้งกุลาดำเขตพื้นที่ ระนอง พังงา กระบี่ ขึ้นทะเบียนสินค้าจีไอ
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ก่อนมีการประชุม ครม.สัญจร ณ จังหวัดระนอง ตนได้เดินทางไปบริษัท โกลด์เด้นซีฟู้ด อินเตอร์เนชั่นแนล เพื่อหารือกับผู้บริหารของบริษัทในการขยายช่องทางการค้า การส่งออกผลิตภัณฑ์กุ้งสดแช่แข็ง ไปจำหน่ายต่างประเทศ และลดอุปสรรคทางการค้า และเพิ่มมูลค่าการส่งออกให้กับผู้ประกอบการผู้ผลิตกุ้งสดแช่แข็งส่งออกไปยังประเทศปลายทางภายใต้กรอบการค้าเสรี หรือFTA โดยบริษัทมีความต้องการขยายช่องทางการตลาดในตะวันออกกลางโดยเน้นการทำ FTA ไทย-GCC และ ไทย-EU เพื่อเพิ่ม ขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาดยุโรป
นอกจากนี้ ยังหารือเกี่ยวกับการขึ้นทะเบียนกุ้งครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด ระนอง พังงา กระบี่ เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) โดยบริษัทต้องการสร้างเอกลักษณ์นด้วยการขึ้นทะเบียน GI ให้กุ้งกุลาดำในพื้นที่ระนองและจังหวัดใกล้เคียง ทั้งจังหวัด พังงา กระบี่ เนื่องด้วยกุ้งสดของในพื้นที่ดังกล่าวมีเอกลักษณ์ในเรื่องความสวยของสีและรสชาติหวาน ซึ่งเป็นคุณภาพที่กลุ่มผู้บริโภคในสาธารณรัฐประชาชนจีนต้องการ
นายนภินทร กล่าวว่า ทั้งนี้ตนได้มอบหมายกรมทรัพย์สินทางปัญญาศึกษาหลักเกณฑ์ และข้อกำหนดในการขึ้นทะเบียนกุ้งสดและผลิตภัณฑ์กุ้งสดแช่แข็ง (กุ้งที่เพาะเลี้ยงในแหล่งน้ำที่สะอาดจากทะเลอันดามันและบ่อดินที่มีแร่ธาตุและเกลือทะเลที่อุดมสมบูรณ์ อาจแสดงถึงการเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ GI ได้)
โดยวันนี้ได้เชิญเจ้าหน้าที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา เข้าร่วมรับข้อเสนอและได้ส่งแบบฟอร์มให้กับบริษัท เพื่อสำรวจความเป็นไปได้ ว่าสินค้าดังกล่าวที่บริษัทมีความประสงค์มีความเป็นไปได้ว่าสามารถเข้าข่ายเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ไทย ได้หรือไม่ เช่น ลักษณะของสินค้าเป็นอย่างไร ความมีชื่อเสียงหรือประวัติของความเป็นมาของสินค้าเป็นอย่างไรต้องเป็นสินค้าดั้งเดิมของท้องถิ่นที่มีการผลิตมาเป็นเวลายาวนานจนมีชื่อเสียงและเป็นสินค้าประจำชุมชน เพราะสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์เป็นสินค้าของชุมชน สิทธิในการเป็นเจ้าของสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์จึงเป็นของชุมชนต้องมีความเชื่อมโยงหรือความสัมพันธ์กับแหล่งภูมิศาสตร์ของพื้นที่ผลิตอย่างไร กล่าวคือ ลักษณะภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ต้องแสดงถึงภูมิปัญญาของชุมชนในพื้นที่การผลิตสินค้ามีผลอย่างไรต่อสินค้าที่ทาให้สินค้ามีเอกลักษณ์โดดเด่นแตกต่างจากสินค้าชนิดเดียวกันที่ผลิตในพื้นที่อื่น ขอบเขตแหล่งวัตถุดิบและขอบเขตพื้นที่การผลิตเป็นอย่างไร ฯลฯ เป็นต้น