ททท.ดึงนักท่องเที่ยว 'กระเป๋าหนัก' ชูเส้นทางเชื่อมภูเก็ต–ระนอง–ชุมพร 

Key point:

• จังหวัดระนองเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นหลายด้าน ททท.มีเป้าหมายเพิ่มรายได้แตะ 7,000 ล้านบาทในปี 67
• กลยุทธ์หนึ่งที่ใช้คือการเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวจากจังหวัดภูเก็ตมายังระนอง หรือจากระนองไปยังชุมพร 
• กลุ่มหนึ่งที่เป็นเป้าหมายคือนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง โดยเฉพาะซาอุดีอาระเบียที่มีการใช้จ่ายต่อคนต่อทริปสูงถึง 99,000 บาท และมีระยะเวลาพำนักในไทย 15 - 20 วัน

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ในปี 2567 ททท.วางเป้าหมายเพิ่มรายได้ท่องเที่ยวจ.ระนอง ซึ่งเป็นเมืองรอง ให้ได้ 7,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีรายได้อยู่ที่ 6,727 ล้านบาท โดยใช้จุดขายและเสน่ห์ที่มีของระนองเป็นจุดขาย รวมถึงการทำกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย เพื่อให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวและใช้จ่ายในจังหวัดระนองเพิ่มขึ้น

  

  

ในปีนี้ ททท.ใช้แคมเปญ “สุขทันทีที่เที่ยวระนอง” มุ่งกระตุ้นการใช้จ่ายด้วยการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวเข้าสู่พื้นที่ ผ่านการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในภูมิภาค (ใต้เที่ยวใต้) และเที่ยวข้ามภูมิภาค รวมถึงการกระจายนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าพื้นที่ ทั้งช่วงไฮต์ซีชั่น และโลว์ซีซั่นควบคู่กับกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวด้วยการนำเสนอประสบการณ์ท่องเที่ยวและสินค้าท่องเที่ยวกลุ่มศักยภาพ 

โดยสิ่งที่ ททท.จะมีการส่งเสริมให้มีการเดินทางมาท่องเที่ยวยังระนองมากขึ้นคือการทำเส้นทางเชื่อมโยงการท่องเที่ยว จาก จ.ภูเก็ต มายังจ.ระนอง และ จ.ระนองขึ้นไปถึง จ.ชุมพร ซึ่งสามารถเดินทางท่องเที่ยวโดยรถยนต์ รถตู้ หรือรถบัสได้

ทั้งนี้เส้นทางจากภูเก็ตมายังระนองนั้นถือเป็นเส้นทางที่เป็นจุดขายที่จะใช้รองรับ "นักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง" ที่ชอบการท่องเที่ยวแบบ "กรีน ซีซั่น" ซึ่งเหมาะกับจ.ระนองเป็นเมืองที่มีฝน 8 เดือน แดด 4 เดือน โดยเฉพาะซาอุดิอาระเบีย ที่กำลังจะมีการเพิ่มเที่ยวบินมายังภูเก็ต 2 สายการบิน คือ ซาอุเดียแอร์ไลน์ และริยาร์ด แอร์

 

“ปัจจุบันกลุ่มนักท่องเที่ยวจากซาอุฯมีกำลังซื้อสูงสุด และมีระยะเวลาพำนักนาน 19-20 วัน และมีค่าใช้จ่ายต่อทริปสูงที่สุด 99,000 บาทต่อคนต่อทริป การที่มีสายการบินจากซาอุฯมาที่ภูเก็ตเพิ่ม จะสามารถเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มาเที่ยวระนองได้มากขึ้น”          

สำหรับเส้นทางแนะนำการท่องเที่ยวจาก ระนองกับจังหวัดอื่นๆ ได้แก่

1.เส้นทางชุมพร-ระนอง (บ้านน้อยกลางป่าใหญ่-จุดชมวิวเขาออง-ป่าต้นน้ำบ้านคลองเรือ-น้ำตกหงาว-น้ำตกเหวโหลม-ภูเขาหญ้า-บ่อน้ำแร่ร้อนพระรั้ง-ธาริน ฮอทสปา-พระราชวังรัตนรังสรรค์-บ่อ น้ำร้อนรักษะวาริน) โดยใช้เส้นทางจากโครงการขยายช่องจราจร (หมายเลข 4006 ซึ่งทำให้การเดินทาง ระหว่างอ.หลังสวน จ.ชุมพร และ อ.เมือง จ.ระนอง ลดเวลาการเดินทางเหลือเพียง 30-40 นาที จากเดิม 1 ชั่วโมง

2. เส้นทาง ระนอง-พังงา (เขาพ่อตาโชงโดง-คลองลัดโนด-อุทยานแห่งชาติแหลมสน-บ้านไร้ไออรุณ- ชุมชนบ้านแหลมนาว-ชุมชนทะเลนอก-ชุมชนบ้านไร่ใน) จากโครงการขยายช่องจราจร ถนนเพชร เกษม (หมายเลข 4 ซึ่งทำให้การเดินทางระหว่างจ.ระนองและพังงา ลดเวลาการเดินทางเหลือ เพียง 1-1.30 ชั่วโมง จาก 3.30 -3.45 ชั่วโมง

โดยเส้นทางนี้คือเส้นทางที่รองรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังจ.ภูเก็ตโดยทางเครื่องบิน และเดินทางท่องเที่ยวต่อมาที่จ.ระนอง

ขับรถเที่ยวระนองเส้นทาง 3 วัน 2 คืน

นอกจากนี้ยังมีเส้นทางแนะนำที่ ททท.แนะนำไว้ กับเส้นทาง “ระนองต้องลองไปแล้วล่ะ” เป็น เส้นทาง 3 วัน 2 คืน “สุขทันที ที่เที่ยวระนอง” ทริปที่คุณสามารถเที่ยวได้ทุกฟีล ทั้งชมวิวภูเขาหญ้า แช่น้ำพุร้อนบำบัด ชิมอาหารถิ่นรสเลิศจนพุงกาง เที่ยวชิลริมเล นอนชายหาด และไหว้พระขอพรได้ตลอดปี

เส้นทางการท่องเที่ยวภาพรวม

วันที่ 1 : วัดบ้านหงาว – ภูเขาหญ้า

วันที่ 2 : พระราชวังรัตนรังสรรค์ – ค่ายเจ้าเมืองระนอง – บ้านร้อยปีเทียนสือ – น้ำตกปุญญบาล

วันที่ 3 : อุทยานแห่งชาติแหลมสน

 

วันที่ 1 : วัดบ้านหงาว – ภูเขาหญ้า

ช่วงเช้า

07.00 น. ออกเดินทางสู่จังหวัดระนอง (ระยะทาง 583 กิโลเมตร)

ช่วงบ่าย

16.00 น. เดินทางถึงจังหวัดระนอง

16.30 น. แวะเยี่ยมชม วัดบ้านหงาว พร้อมเข้ากราบสักการะขอพร “หลวงพ่อดีบุก ที่ใหญ่ที่สุดในโลก” วัดแห่งนี้จึงได้สร้างพระพุทธรูปที่หลอมจากแร่ดีบุกบริสุทธิ์ที่งดงามขนาดใหญ่เป็นพระประธานในอุโบสถ อีกทั้งส่วนพระพุทธรูปที่ประดิษฐานเหนือผนังด้านในตรงข้ามองค์พระประธานก็สร้างด้วยดีบุกที่ไม่ผ่านการถลุงคัดแยกสิ่งเจือปนออก จึงได้องค์พระเป็นสีดำ ชาวบ้านเรียกกันว่าหลวงพ่อดำ

17.00 น. แวะเยี่ยมชม ภูเขาหญ้า ร่วมเก็บภาพถ่ายแสงยามเย็น ภูเขาหญ้าหรือภูเขาหัวล้านที่สลับทับซ้อน กันไป ตามแนวเขาและสีของหญ้าจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล เช่น ช่วงฤดูฝนจะเป็นสีเขียวและฤดูร้อนจะเป็นสีน้ำตาล

17.30 น. รับประทานอาหารเย็น

19.00 น. เดินทางกลับเข้าที่พัก / Check-In / พักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่ 2 : พระราชวังรัตนรังสรรค์ – ค่ายเจ้าเมืองระนอง – บ้านร้อยปีเทียนสือ – น้ำตกปุญญบาล

ช่วงเช้า

08.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

09.00 น. เยี่ยมเยี่ยมชมความงดงามของความวิจิตของพระราชวังซึ่งเคยเป็นที่ประทับของกษัตริย์แห่งราชวงค์จักรี 3 พระองค์ได้แก่ รัชกาลที่ 5 , 6 และรัชกาลที่ 7 ณ พระราชวังรัตนรังสรรค์

10.00 น. เยี่ยมชมศึกษาประวัติศาสตร์เมืองระนอง ณ ค่ายเจ้าเมืองระนอง

11.00 น. เยี่ยมชม บ้านร้อยปีเทียนสือ ที่มีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ของจังหวัดระนอง เช่น ภาพถ่ายเก่าแก่ที่ยืนยันความเป็นมาของบรรพบุรุษ การจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ พร้อมบริการชุดเครื่องแต่งกายบะบ๋า ยาหย๋า ให้แก่นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอีกด้วย

12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน

ช่วงบ่าย

13.00 น. ออกเดินทางไปยังน้ำตกปุญญบาล

13.15 น. เยี่ยมชมน้ำตกปุญญบาล หนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดของจังหวัดระนอง สถานที่ตั้งอยู่ติดริมถนนเพชรเกษมก่อนเข้าเมืองระนอง ที่นี่มีเส้นทางเดินชมน้ำตกและศึกษาระบบนิเวศฯ จากชั้นที่ 1 ถึงชั้นที่ 3 ระยะทางรวม 300 เมตร เป็นอีกจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะถ่ายภาพและดื่มด่ำ บรรยากาศความสดชื่นของจังหวัดระนอง

14.00 น. เยี่ยมชมจุดชมวิวเขาคอม้า อุทยานแห่งชาติลำน้ำกระบุรี เติมพลังความสดชื่นกับบรรยากาศ ความเป็นธรรมชาติของจังหวัดระนอง จากจุดชมวิวสามารถมองเห็นผืนป่าโกงกางและแม่น้ำกระบุรี รวมทั้งสามารถมองเห็นทิวทัศน์ฝั่งประเทศเมียนมาได้อย่างชัดเจน

16.00 น. แวะผ่อนคลายความเมื่อยล้าด้วยกิจกรรมการแช่น้ำแร่ร้อน ด้วยจังหวัดระนองมีความโดดเด่นในเรื่องของการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยมีน้ำแร่เป็นของดีขึ้นชื่อของจังหวัดน้ำแร่ระนองมีคุณสมบัติ ดีคือปราศจากกลิ่นกำมะถัน และอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย จึงได้รับการยกย่อง ให้ เป็นน้ำแร่ที่ดีติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก

18.00 น. รับประทานอาหารเย็น

19.30 น. เดินทางกลับเข้าที่พัก / พักผ่อนตามอัธยาศัย

 

วันที่ 3 : อุทยานแห่งชาติแหลมสน

ช่วงเช้า

07.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

08:00 น. ออกเดินทางไปอุทยานแห่งชาติแหลมสน

09.00 น. เดินทางถึงอุทยานแห่งชาติแหลมสน พร้อมลงเรือหัวโทง มุ่งหน้าสู่เกาะค้างคาว

09.45 น. ถึงจุดดำน้ำแห่งแรกเกาะค้างคาว เกาะที่ยังเป็นธรรมชาติไม่มีสิ่งก่อสร้าง ทรายขาวบริสุทธิ์ น้ำทะเลใสเห็นพื้นทรายและสามารถมองเห็นปะการังได้แม้แต่ยืนอยู่ริมหาด มีปลาแหวกว่ามากมาย และบนเกาะเป็นที่อยู่อาศัยของฝูงค้างคาวแม่ไก่ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเกาะค้างคาว

11.30 น. นั่งเรือต่อไปยังเกาะกำตก (อ่าวเขาควาย) เป็นเกาะที่มีอ่าวเป็นชายหาดโค้งจนเกือบเข้ามาติดกัน ลักษณะคล้ายกับรูปเขาควาย เนื้อทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใส สามารถดำน้ำดูปะการังได้ตลอดแนว รอบ ๆ เกาะ

12.00 น. รับประทานอาหารกลางวันที่เกาะ

ช่วงบ่าย

13.30 น. นั่งเรือต่อมาไปยังเกาะญี่ปุ่น เป็นเกาะที่มีทรายขาวละเอียดอ่อนนุ่มเหมือนแป้ง ซึ่งสมัยก่อนเป็นเกาะที่เลี้ยงหอยมุกของชาวญี่ปุ่น ชาวบ้านจึงเรียกเกาะนี้ว่าเกาะญี่ปุ่น

14.30 น. นั่งเรือออกจากเกาะญี่ปุ่น มุ่งหน้ากลับท่าเรือ ถึงฝั่งท่าเทียบเรือ / อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

16.30 น. เดินทางกลับเข้าเมืองระนอง

17.30 น. รับประทานอาหาร

18.30 น. เดินทางกลับเข้าที่พัก / พักผ่อนตามอัธยาศัย

วันที่ 4

08.00 น. รับประทานอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก

09.00 น. เดินทางกลับกรุงเทพมหานคร / ถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพ