‘ครม.’ ไฟเขียว ผูกพันงบฯ 1.6 หมื่นล้าน 'สลน.’ ซื้อ ฮ.- เครื่องบินลำใหม่  

‘ครม.’ ไฟเขียว ผูกพันงบฯ 1.6 หมื่นล้าน 'สลน.’ ซื้อ ฮ.- เครื่องบินลำใหม่  

“ครม.”ไฟเขียว“สำนักเลขาธิการนายกฯ” ของบฯผูกพันซื้อเฮลิคอปเตอร์ – เครื่องบินใหม่วงเงินรวม 1.6 หมื่นล้านบาท ผูกพันงบประมาณ 4 ปี แจงใช้ทดแทนเครื่องเดิมที่ครบอายุประจำการปี69 ใช้ภารกิจรับส่งบุคคลสำคัญ และใช้ในภารกิจที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งใช้อพยพคนไทยจากต่างแดน

แหล่งข่าวจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เปิดเผยว่าที่ประชุม ครม.เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา มีการเห็นชอบการผูกพันงบประมาณผูกพันข้ามปีงบประมาณในส่วนของหน่วยงานราชการที่มีการเสนอโครงการที่ขอใช้งบประมาณตั้งแต่ 1 พันล้านบาทขึ้นไปเพื่อส่งให้กับสำนักงบประมาณพิจารณากลั่นกรองบรรจุไว้ในพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2568  โดยในส่วนของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.)ได้รับการอนุมัติงบประมาณในการจัดซื้อเครื่องบินวงเงินรวม 15,946.7 ล้านบาท โดยผูกพันงบประมาณตั้งแต่ 2568 – 2571

ทั้งนี้มีรายการขอผูกพันการจัดซื้ออากาศยานทั้งในส่วนของเฮลิคอปเตอร์ และเครื่องบิน ของ สลค.ดังนี้

1.ของบประมาณในการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ขนาดกลาง รับ-ส่ง บุคคลสำคัญ จำนวน 2 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ อะไหล่ ระบบ

สนับสนุนการฝึก การฝึกอบรม และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ที่จำเป็น วงเงินรวม 3,424.7 ล้านบาท   โดยขอตั้งงบประมาณในการผูกพันงบประมาณระหว่างปี 2568 – 2571 ดังนี้ ปี 2568 วงเงิน 681.68 ล้านบาท ปี 2569 วงเงิน 688.55 ล้านบาท  ปี 2570 วงเงิน 1,028.12 ล้านบาท

แจงความจำเป็นจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์ขนาดกลาง

ทั้งนี้สลน.ให้เหตุผลความจำเป็นในการจัดหาจัดหาเฮลิคอปเตอร์ขนาดกลาง รับ-ส่ง บุคคลสำคัญ ดังกล่าว เนื่องจากกองทัพอากาศ มีภารกิจที่สำคัญในการปฏิบัติการบินรับ-ส่งบุคคลสำคัญ ซึ่งมีความ จำเป็นต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ขนาดกลางที่มีขีดความสามารถในการลงนอกพื้นที่ที่มิใช่เพียงสนามบิน ได้อย่างปลอดภัย สามารถปฏิบัติภารกิจในการค้นหาช่วยชีวิต และภารกิจการบินบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน เพื่อความปลอดภัยในขบวนติดตาม ประกอบกับในปัจจุบันภารกิจการบินรับ-ส่งบุคคลสำคัญ มีจำนวน เพิ่มสูงขึ้น

รวมทั้งได้รับการประสานขอรับการสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจ ในหลายพื้นที่ ซึ่งกองทัพอากาศ       มีเฮลิคอปเตอร์ขนาดกลางไม่เพียงพอในการรองรับภารกิจดังกล่าว จึงมีความจำเป็นต้องจัดหาเฮลิคอปเตอร์ขนาดกลางเพิ่มเติม เพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ปฏิบัติภารกิจ สำหรับรองรับภารกิจการบินรับส่งบุคคลสำคัญ การบินติดตามในขบวนรับ-ส่งบุคคลสำคัญ การบริการการแพทย์ฉุกเฉิน (Emergency Medical Service) และการบินค้นหาและช่วยชีวิต (Search and Rescue)

2.ของบประมาณในการจัดหาเครื่องบิน รับ-ส่ง บุคคลสำคัญ ทดแทนเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 19 (บ.ล. 19) จำนวน 1 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ อะไหล่ การฝึกอบรม และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ วงเงินรวม 12,522 ล้านบาท โดยขอตั้งงบประมาณในการผูกพันงบประมาณระหว่างปี 2568 – 2571 ดังนี้ ปี 2568 วงเงิน 2,500.88 ล้านบาท ปี 2569 วงเงิน 2,506.95 ล้านบาท  ปี 2570 วงเงิน 3,756.31 ล้านบาท

สลน. เหตุผลความจำเป็นในการจัดหาเครื่องบินรับ-ส่ง บุคคลสำคัญ ทดแทนเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 19 จำนวน 1 เครื่อง เนื่องจากเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 19 หรือ เครื่องบินแบบ Airbus A340-500 ซึ่งเป็นเครื่องบินลำเลียงที่ใช้เครื่องยนต์เจ็ต จำนวน 4 เครื่องยนต์แบบที่ 2 ของกองทัพอากาศ ต่อจากเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 1หรือ  เป็นเครื่องบินลำเลียงเครื่องเดียวของกองทัพอากาศ ที่มีพิสัย การบินไกล สามารถเดินทางข้ามทวีปในระยะไกลได้ โดยไม่ต้องลงจอดเพื่อเติมเชื้อเพลิง ซึ่งส่งผลให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างต่อเนื่อง

 

และมีประสิทธิภาพหรือการสนับสนุนการบิน กองทัพอากาศกำหนดในภารกิจ การบิน รับ-ส่ง บุคคลสำคัญ ทุกระดับ อาทิ พระบรมวงศานุวงศ์ องคมนตรี นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี ราชอาคันตุกะ หรือแขกของรัฐบาล ตลอดจน การสนับสนุนภารกิจลำเลียงทางอากาศสำหรับการปฏิบัติการ ทางทหารที่มิใช่การรบ ได้แก่ การช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ผู้ประสบภัยทางธรรมชาติ การอพยพคนไทยในต่างแดนและการปฏิบัติการเพื่อรักษาสันติภาพ

ซื้อทดแทนเครื่องบินลำเดิม "พิษณุโลก" ครบอายุปี69

เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 19 เป็นเครื่องบินที่กองทัพอากาศจัดซื้อจากบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2559 ทะเบียน 698 HS-TCL นามพิษณุโลก จำนวน 1 เครื่อง รวมเครื่องยนต์อะไหล่ 1 เครื่องยนต์ จำนวนเงิน 1,755.33 ล้านบาท ปัจจุบันประจำการณ ฝูงบิน 609 กองบิน 6  มีอายุการใช้งานมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 - 2555 (การใช้งานโดย บริษัท การบินไทยฯ) และเข้าประจำการเพื่อปฏิบัติฎารกิจในกองทัพอากาศ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559ซึ่งครบกำหนดวงรอบการประเมินอายุการใช้งานอากาศยาน ภารกิจรับ-ส่ง บุคคลสำคัญ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 (วงรอบการประเมินอายุการใช้งานอากาศยาน รับ - ส่ง บุคคลสำคัญ มีวงรอบ 10 ปี)

ประกอบกับตั้งแต่ พ.ศ. 2555 บริษัท Airbus ได้ยกเลิกสายการผลิตเครื่องบินแบบ A340-500 ส่งผลให้การบำรุงรักษาและการซ่อมบำรุงมีมูลค่าสูงขึ้นตามลำดับ จึงจำเป็นต้องจัดหาเครื่องบิน รับส่ง บุคคลสำคัญทดแทนดังกล่าว

 กองทัพอากาศได้ทำการประเมินความเสี่ยงการทุจริต รายการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ขนาดกลาง รับ-ส่ง บุคคลสำคัญ จำนวน ๒ เครื่อง และเครื่องบิน รับ-ส่ง บุคคลสำคัญ ทดแทนเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 19 (บ.ล. 19) จำนวน 1 เครื่อง ดังกล่าว ตามแผนบริหารความเสี่ยงทุจริต เรียบร้อยแล้ว