กรมการค้าภายในไฟเขียวขึ้นราคานมสดพร้อมดื่ม ขนาด 180-225 ซีซี ขึ้น 50 ส.ต.

กรมการค้าภายในไฟเขียวขึ้นราคานมสดพร้อมดื่ม ขนาด 180-225 ซีซี ขึ้น 50 ส.ต.

กรมการค้าภายใน ไฟเขียวขึ้นราคานมสดพร้อมดื่มแล้ว เผย นมกล่องขนาด 180-225 ซีซี ขึ้นเฉลี่ย 50 สตางค์ ขณะที่นมสดขนาด 1 ลิตร ปรับขึ้นเฉลี่ย2.50 บาท ต่อขวดต่อกล่อง

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม ประกาศปรับราคาน้ำนมดิบขึ้นจาก 20.50 บาทต่อกก. เป็น 22.75 บาทต่อกก. หรือเพิ่มขึ้น กก.2.25 บาทเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ซึ่งมีผลกระทบให้ผู้ผลิตนมสดพร้อมดื่มมีต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นไปด้วย และที่ผ่านมาได้แจ้งขอปรับขึ้นราคาขายปลีกผลิตภัณฑ์นมกับกรมการค้าภายในมาตั้งแต่เดือนม.ค.แล้วนั้น

 ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กรมการค้าภายในได้อนุญาตให้มีการขึ้นราคานมสดพร้อมดื่มเป็นที่เรียบร้อยแล้วจำนวน 6 ราย มีทั้งนมยูเอชที นมพลาสเจอร์ไรส์ นมสเตอริไลซ์ โดยการปรับขึ้นราคา ในส่วนนมขนาดเล็กที่ได้รับความนิยม 180-225 ซีซี ให้ขึ้นขวดหรือกล่องเฉลี่ย 50 สตางค์ ขณะที่นมสดขนาด 1 ลิตร ปรับขึ้นเฉลี่ยกล่องหรือขวดละ 2.50 บาท

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้สินค้านมที่ขายปลีกตามห้างสรรพสินค้า หรือร้านสะดวกซื้อจะยังขายราคาเดิมไปก่อน เพราะสต็อกต้นทุนเก่า ยังไม่ปรับขึ้นราคา โดยคาดว่าจะราคาใหม่จะปรับขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ ส่วนผู้ประกอบการที่นอกเหนือจาก 6 รายได้มีการยื่นขอปรับราคามาต่อเนื่อง ซึ่งกรมการค้าภายในอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อมูลรายละเอียด เพื่ออนุญาตให้ปรับขึ้นราคาต่อไป

“เกณฑ์การพิจารณาการขึ้นราคาผลิตภัณฑ์นมสดพร้อมดื่ม กรมการค้าภายใน ได้อนุญาตให้ขึ้นเฉพาะในส่วนของต้นทุนน้ำนมดิบที่เพิ่มเท่านั้น ไม่รวมต้นทุนอื่น เช่น ค่าแรง ค่าไฟฟ้า ค่าขนส่ง แม้ทางผู้ประกอบการจะขอมาก็ตาม เพราะเป้าหมายของกรมการค้าภายใน คือ ต้องการดูแลผู้บริโภคให้ได้รับผลกระทบจากขึ้นราคาให้น้อยที่สุด ขณะเดียวกันผู้ประกอบการต้องอยู่ได้ และเกษตรกรได้ประโยชน์” 

 

ที่สำคัญในการพิจารณาปรับราคา ผู้ประกอบการจะต้องแสดงให้เห็นถึงข้อมูลเอกสารสำคัญใช้ประกอบการขอขึ้นราคา ได้แก่ เอกสารเกี่ยวกับการรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกร ในอัตราที่มีการปรับขึ้นใหม่แล้วที่ กก.ละ 22.75 บาท

และข้อมูลเกี่ยวกับสูตรการผลิต ที่มีสัดส่วนการใช้น้ำนมดิบในการผลิตสินค้านมกล่อง หรือนมขวดของประเภทนั้นๆ ที่แตกต่างกัน เช่น ถ้านมรสจืดที่ผสมนมดิบ 100% จะได้ขึ้นราคามากกว่า แต่ถ้าเป็นนมปรุงแต่งมีส่วนผสมอื่นก็จะขึ้นตามสัดส่วนการใช้นมดิบ ขณะที่สินค้าที่ใช้นมผงจะไม่เกี่ยวข้อง รวมถึงสินค้านมเปรี้ยว และโยเกิร์ตด้วย ซึ่งเป็นสินค้าทางเลือกไม่ต้องขออนุญาต