“ภูมิธรรม” แสดงจุดยืนไทยป้องกันไม่ให้นำสินค้าไปใช้ขยายอาวุธทำลายล้างสูง
“ภูมิธรรม” หารือคณะผู้บริหารระดับสูงของสหรัฐฯ ร่วมมือผลักดันมาตรการป้องกันการแพร่ขยายอาวุธ ที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงไทย รวมถึงสินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-Use Items: DUI) รับระเบียบการค้ายุคใหม่ ทำลายล้างที่คำนึงถึงความสันติสุขและสันติภาพของโลก
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังการเข้าเยี่ยมคารวะของนาย แฟรงค์ เอ. โรส Principal Deputy Administrator สำนักความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์แห่งชาติ กระทรวงพลังงานแห่งสหรัฐฯ และ นาย โรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ว่า การหารือในครั้งนี้ ผู้แทนสหรัฐฯ ได้เสนอให้ไทยพิจารณายกระดับมาตรการทางการค้าเพื่อควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง (Weapons of Mass Destruction: WMD) และสินค้า DUI
โดยได้เน้นย้ำความสำคัญของการดำเนินมาตรการฯ เพื่อความสงบสุขของประชาคมโลก พร้อมกล่าวว่าขณะนี้ ประเทศในภูมิภาคอาเซียนหลายประเทศได้มีมาตรการดังกล่าวแล้ว อาทิ มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ทั้งนี้ สปป. ลาว กำลังจะประกาศใช้มาตรการเพื่อควบคุมสินค้า DUI ในเร็วนี้
"ได้แสดงจุดยืนว่าไทยพร้อมที่จะดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าของไทยถูกนำไปใช้ในทางที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยาย WMD ตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1540 อย่างเต็มที่"นายภูมิธรรม กล่าว
โดยเมื่อปี 2563 กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการออกพระราชบัญญัติการควบคุมสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ 2562 มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 ซึ่ง พ.ร.บ. ดังกล่าวได้ให้อำนาจกระทรวงพาณิชย์ในการพิจารณากำหนดมาตรการเพื่อควบคุมสินค้า DUI รวมถึงมาตรการอนุญาต (Licensing) และมาตรการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่ด้วยวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกทั่วโลก กระทรวงพาณิชย์จึงได้ชะลอการใช้มาตรการ Licensing ออกไป
อย่างไรก็ดี กระทรวงพาณิชย์ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการทำการค้าที่ปลอดภัย ไม่นำไปสู่ความขัดแย้งหรือการก่อการร้าย และมีความรับผิดชอบต่อสังคมโลก ดังนั้น ไทยจึงพร้อมร่วมมือกับนานาชาติในการดำเนินมาตรการควบคุมสินค้า DUI โดยอยู่บนพื้นฐานของการรักษาสมดุลระหว่างความมั่นคงปลอดภัย และการอำนวยความสะดวกทางการค้าการลงทุน
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ผู้แทนกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ แจ้งว่า สหรัฐฯ ยินดีให้การสนับสนุนกับไทยในทุกมิติ เพื่อให้ไทยสามารถดำเนินมาตรการควบคุมสินค้า DUI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมาตรการดังกล่าวไม่เพียงแต่จะช่วยลดความเสี่ยงในการแพร่ขยาย WMD แต่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในเวทีโลกอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันสหรัฐฯ อยู่ระหว่างการพิจารณาขยายฐานการผลิตสินค้ากลุ่มเซมิคอนดักเตอร์มายังภูมิภาคอาเซียน
ทั้งนี้การที่ไทยมีระบบควบคุมสินค้า DUI จะถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ช่วยดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment: FDI) โดยเฉพาะสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูงที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายรัฐบาลไทย เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรที่ทันสมัย เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะมีมาตรการที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการกำกับดูแลสินค้า เทคโนโลยี และเงินทุน อันจะนำมาซึ่งการลงทุนจากต่างชาติ การสร้างงาน สร้างรายได้ และการถ่ายทอดความรู้เชิงเทคนิคการผลิตซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มและต่อยอดให้อุตสาหกรรมภายในประเทศได้ต่อไป
ทั้งนี้ ไทยและสหรัฐฯ เป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญและมีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันมายาวนานกว่า 190 ปี โดยสหรัฐฯ ได้แสดงความยินดีและกล่าวชื่นชมไทยที่ให้ความสำคัญในดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันการแพร่ขยาย WMD และสหรัฐฯ พร้อมบูรณาการความร่วมมือกับไทยเพื่อให้มาตรการดังกล่าวบรรลุผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป