ทอท.รับโจทย์ดันฮับการบิน นำร่องประมูลขยาย 'สุวรรณภูมิ' มิ.ย.นี้
ทอท.รับโจทย์ดัน “สุวรรณภูมิ” ขึ้นแท่น 1 ใน 20 สนามบินดีที่สุดในโลก เดินหน้าลงทุนขยายขีดความสามารถรับผู้โดยสาร 150 ล้านคน นำร่อง มิ.ย.นี้เปิดประมูล “ขยายอาคารด้านทิศตะวันออก” 9 พันล้านบาท พร้อมเขย่าแผนดึงพื้นที่ด้านทิศเหนือ จ่อสร้างไพรเวทเจ็ท - ศูนย์ซ่อม
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า จากนโยบายของนายกรัฐมนตรีบนเป้าหมายการผลักดันท่าอากาศยานไทยให้ติดอันดับ 1 ใน 50 สนามบินที่ดีที่สุดในโลกภายใน 1 ปีนับจากนี้ โจทย์แรกที่ ทอท.ต้องเร่งดำเนินการ คือ พัฒนาบริการผู้โดยสารให้ได้มาตรฐานและรองรับการเดินทางที่ดีที่สุด ซึ่งเบื้องต้นได้หารือร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ 100 คน ให้บริการช่องทางตรวจคนเข้าเมือง
และในส่วนของ ทอท. ได้เพิ่มกำลังบุคลากร 800 คน เพื่ออำนวยความสะดวก และแนะนำบริการ เส้นทางการเดินทางภายในสนามบิน เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับการบริการที่ดีที่สุด เพราะขณะนี้ขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีศักยภาพอยู่ที่ 60 ล้านคนต่อปี ดังนั้นต้องบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ ก็จะสามารถผลักดันเป้าหมาย 1 ใน 50 สนามบินที่ดีที่สุดในโลกได้
ขณะที่เป้าหมายระยะยาวอีก 5 ปี สู่การเป็น 1 ใน 20 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก ต้องเดินหน้าโครงการลงทุนเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของสนามบินสุวรรณภูมิ โดยปัจจุบัน ทอท.อยู่ระหว่างทบทวนแผนแม่บทในการพัฒนา คาดว่าจะแล้วเสร็จ ภายใน 6 เดือนข้างหน้า หรือราว พ.ย.นี้ เบื้องต้นจะมีการศึกษาความเหมาะสมของการพัฒนาอาคารผู้โดยสาร และทางวิ่ง (รันเวย์) ตลอดจนการพัฒนาระบบขนส่งภายในสนามบิน ศูนย์ซ่อมอากาศยาน และคลังสินค้า เป็นต้น
อย่างไรก็ดี แผนลงทุนพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิขณะนี้มีความชัดเจนแล้วว่า โครงการแรกที่ต้องผลักดันคือการเพิ่มพื้นที่อาคารผู้โดยสารหลังเดิม เพื่อรองรับปริมาณผู้โดยสาร ลดความแออัดที่เกิดขึ้น ซึ่ง ทอท.อยู่ระหว่างปรับปรุงแบบก่อสร้างโครงการส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออกของอาคารผู้โดยสาร (East Expansion) มูลค่า 9,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มพื้นที่อีกไม่น้อยกว่า 60,000 ตารางเมตร รองรับผู้โดยสาร 15 ล้านคนต่อปี คาดว่าจะเปิดประมูลในเดือน มิ.ย.นี้ ก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2570
ส่วนโครงการที่เหลือจะทยอยดำเนินการปลายปี 2568 เป็นต้นไป ประกอบด้วย โครงการส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันตก (West Expansion) เพิ่มพื้นที่รองรับผู้โดยสารอีก 15 ล้านคนต่อปี โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) รองรับผู้โดยสารได้เพิ่มอีก 60 ล้านคนต่อปี โครงการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 2 (SAT-2) รองรับการขนส่งสินค้า และการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 4 เพื่อเพิ่มศักยภาพรองรับเที่ยวบินได้ถึง 120 เที่ยวบินต่อชั่วโมง
“ตอนนี้โครงการที่จะเห็นการลงทุนนำร่องในสนามบินสุวรรณภูมิ คือ การขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก หลังจากนั้น ทอท.จะรอผลการทบทวนแผนแม่บทที่จะแล้วเสร็จในปีนี้ เพื่อผลักดันส่วนของการขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันตก อาคารด้านทิศใต้ และอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 2 โดยโครงการเหล่านี้จะเปิดประมูลในระยะเวลาใกล้เคียงกัน ราวปลายปี 2568 - ต้นปี 2569 สร้างแล้วเสร็จเปิดบริการในปี 2572 – 2573”
นายกีรติ กล่าวด้วยว่า หากการลงทุนพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิแล้วเสร็จตามแผนในปี 2573 จะทำให้สนามบินแห่งนี้ขึ้นอันดับ 1 ใน 20 สนามบินที่ดีที่สุดในโลกตามเป้าหมายรัฐบาล เพราะจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 150 ล้านคนต่อปี และเป็นสนามบินที่ใหญ่ติด 1 ใน 5 ของโลก
นอกจากนี้ ทอท.ยังอยู่ระหว่างทบทวนพื้นที่ของการพัฒนาส่วนต่อขยายอาคารด้านทิศเหนือ (North Expansion) ซึ่งพบว่าเป็นพื้นที่ศักยภาพสูง และอาจจะนำมาพัฒนาเป็นอาคารผู้โดยสารอากาศยานส่วนบุคคล (Private Jet Terminal) รวมไปถึงศูนย์ซ่อมอากาศยาน (MRO) ซึ่งนับเป็นโครงการลงทุนส่วนหนึ่งที่รัฐบาลให้โจทย์ไว้ ทั้งนี้ ทอท.จะตัดสินใจวางแผนพัฒนาพื้นที่แปลงนี้เมื่อผลการทบทวนแผนแม่บทแล้วเสร็จ