'การบินไทย' คาดฟรีวีซ่า 'ไทย-จีน' ดันเคบิ้นแฟกเตอร์พุ่ง 80%

นายกรกฎ ชาตะสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้การบินไทยวางแผนตารางบินฤดูร้อนที่จะเริ่มต้นในเดือนมี.ค.นี้ ด้วยการเพิ่มจุดบินใหม่ พร้อมกับขยายความถี่เส้นทางยอดนิยม เพื่อรองรับดีมานด์การเดินทางของนักท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะเส้นทางบินในตลาดจีนที่มีขีดความสามารถในการขยายตัวอีกมาก หากเทียบกับปี 2562 ก่อนเกิดสถานการณ์โควิด -19

นอกจากนี้การบินไทยประเมินว่าจากนโยบายฟรีวีซ่าไทย - จีน เริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1 มี.ค.67 ที่ผ่านมา จะเป็นปัจจัยบวกทำให้ตลาดจีนกลับมาคึกคัก และไม่เพียงการเดินทางของนักท่องเที่ยวขาเข้าจากจีน แต่ยังมีโอกาสจากนักท่องเที่ยวขาออกจากไทย ที่คาดว่าจะเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะเมืองยอดนิยมอย่างปักกิ่ง และเซี่ยงไฮ้

อย่างไรก็ดี เพื่อรองรับดีมานด์การเดินทาง การบินไทยได้วางแผนเพิ่มความถี่เส้นทางยอดนิยมในจีน ประกอบด้วย เส้นทางกรุงเทพฯ - ปักกิ่ง และกรุงเทพฯ - เซี่ยงไฮ้ (จีน) จาก 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เป็น 10 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เส้นทางกรุงเทพฯ - เฉิงตู (จีน) จาก 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เป็น 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และเส้นทางกรุงเทพฯ - คุนหมิง (จีน) จาก 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เป็น 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์

อีกทั้งการบินไทยยังจัดโปรโมชันกระตุ้นการเดินทางใน 5 เส้นทางหลัก เริ่มในเดือนมี.ค.นี้ เป็นต้นไป ประกอบด้วย ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว เฉิงตู และคุนหมิง ชั้นประหยัดไป - กลับ ราคาเริ่มต้นเพียง 9,535 บาท ให้บริการด้วยเครื่องบินลำตัวกว้าง อาหารพร้อมน้ำหนักกระเป๋า 20 กิโลกรัม โดยปัจจุบันยอดจองการเดินทางล่วงหน้า (บุกกิง) สูงเฉลี่ยอยู่ที่ราว 75% และประเมินว่าผลจากนโยบายฟรีวีซ่ามีผลบังคับใช้ จะทำให้อัตราบรรทุกผู้โดยสาร (เคบิ้นแฟกเตอร์) เส้นทางจีนสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 80%

“นโยบายฟรีวีซ่าไม่ได้ส่งผลบวกเฉพาะนักท่องเที่ยวจีนที่จะเข้ามา แต่จะส่งผลบวกถึงนักท่องเที่ยวคนไทยให้นิยมเดินทางไปเที่ยวจีนมากขึ้น การบินไทยจึงมองว่าเส้นทางจีนยังมีโอกาสเติบโตสูง อีกทั้งเรายังโปรโมตให้ไทยเป็นศูนย์กลางการเดินทางเชื่อมต่อเส้นทางบิน ผู้โดยสารสามารถเดินทางจากจีน และต่อไปจุดบินอื่นๆ ทั่วโลก อาทิ ออสเตรเลีย และตุรกี เป็นต้น”

นายกรกฎ ยังกล่าวด้วยว่า นอกจากการเพิ่มความถี่เส้นทางบินจีนแล้ว ตารางบินฤดูร้อนนี้การบินไทยยังเปิดให้บริการจุดบินใหม่ อาทิ เส้นทางกรุงเทพฯ-เพิร์ท (ออสเตรเลีย) เส้นทางกรุงเทพฯ-โคลัมโบ (ศรีลังกา) โดยจะเริ่มทำการบินตั้งแต่ 31 มี.ค.2567 เป็นต้นไป และกรุงเทพฯ-มิลาน (อิตาลี) เส้นทางกรุงเทพฯ-ออสโล (นอร์เวย์) และเส้นทางกรุงเทพฯ-โคชิ (อินเดีย) โดยจะเริ่มทำการบินตั้งแต่ 1 ก.ค.2567 เป็นต้นไป รวมทั้งเพิ่มความถี่เส้นทางกรุงเทพฯ-นาริตะ (ญี่ปุ่น) จาก 2 เที่ยวบินต่อวัน เป็น 3 เที่ยวบินต่อวัน รวมถึงเส้นทางกรุงเทพฯ - ภูเก็ต จาก 8 เที่ยวบินต่อวัน เป็น 10 เที่ยวบินต่อวัน เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้โดยสารเชื่อมต่อจุดบินท่องเที่ยวในประเทศ

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์