‘ไทย’ ประกาศแผน ‘ฮับท่องเที่ยว’ ‘สิงคโปร์’ เดินหน้าแผน ‘ฮับAI’
ส่องแผนสิงคโปร์ดันประเทศสู่การเป็นฮับ AI ประกาศแผน AI แห่งชาติ ก่อนจัดสรรงบประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์สิงคโปร์ อนุมัติแผนแจกเงินอัพสกริล รีสกิล คนละ 1 แสนบาทใช้อัพสกิล รีสกิล ขณะที่ไทยยังมีองค์กรแต่ 20% ที่พร้อมเข้าสู่การเปลี่ยนแปลง AI สศช.จี้ทำแผนอัพสกิล - รีสกิล แรงงาน
ความใกล้เคียงกับระหว่าง “ซอฟต์พาวเวอร์” และการเป็น “ศูนย์กลาง” หรือ “ฮับ” ก็คือการได้รับการยอมรับจากโลก “ภายนอก” มากกว่าเราบอกกันเองว่า “เรามี” หรือ “เราเป็น”
ข้อเท็จจริงดังกล่าวเป็นเรื่องที่ตอกย้ำ แม้ว่าประเทศไทยจะประกาศนโยบายทั้งซอฟต์พาวเวอร์ และการเป็นศูนย์กลางหลายด้านทั้งการบิน การท่องเที่ยว การเงิน ฯลฯ ตามแผนของนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” ซึ่งมีการกำหนดเป้าหมายไว้ในงาน “Ignite Thailand” เมื่อต้นเดือน มี.ค.แต่การจะไปสู่เป้าหมายได้ยังต้องอาศัยแผนงานที่ดี การติดตามงานที่เข้มข้น งบประมาณที่พร้อม และความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย
พูดง่ายๆคือทั้งประเทศต้องเห็นภาพเดียวกัน และมีเป้าหมายไปสู่เส้นชัยด้วยกันถึงจะสำเร็จได้
ที่จริงแล้วการประกาศเป้าหมายการเป็น “ฮับ” หลายด้านรวมทั้งฮับท่องเที่ยวนั้นไม่ได้ผิด เพราะเป็นการใช้จุดแข็งของประเทศให้เป็นประโยชน์ แต่ทุกครั้งที่เราประกาศความเป็นฮับ สิ่งที่ควรจะตามมาคือแผนปฏิบัติการ หรือ Action Plan ที่ชัดเจน ไม่เช่นนั้นเวลาก็จะผ่านไป โดยไม่ได้เกิดความก้าวหน้าที่จับต้องได้แต่อย่างใด
เมื่อไม่นานมานี้มีประเทศหนึ่งที่มีการประกาศแผนที่จะเป็นฮับทางเศรษฐกิจเช่นกัน แต่ตั้งเป้าว่าจะเป็นฮับด้านนวัตกรรมของโลก ประเทศที่ว่านี้คือประเทศสิงคโปร์ โดยเริ่มจากการประกาศแผนยุทธศาสตร์ปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติ (Singapore National AI Strategy) หรือ “NAIS” เมื่อเดือน ธ.ค.ปีก่อน
โดยแผนนี้เป็นการเปลี่ยนมุมมองต่อ AI จาก “สิ่งที่ประเทศควรมี” มาเป็น “สิ่งที่จำเป็นของประเทศ” หลังจากประกาศแผนนี้ไม่นาน นาย Lawrence Wong รองนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ก็ประกาศแผนจัดสรรงบประมาณ 1 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ โดยมีเป้าหมายให้สิงคโปร์เป็นผู้นำปัญหาประดิษฐ์ในอีก 5 ปี
แผนนี้ครอบคลุมการแจกเงินให้ประชาชนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปเข้าโครงการ “Skills Future” ได้รับเครดิตคนละ 4 พันดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 1 แสนบาท ภายในเดือน พ.ค.นี้ ทำให้แรงงานที่เข้าสู่วัยกลางคน และทำงานมาระยะหนึ่งสามารถเข้าสู่การรีสกิล และอัพสกิลให้มีความพร้อมรับยุค AI ที่จะมาถึง เมื่อแรงงานมีทักษะ AI พร้อม อนาคตการลงทุนด้านนี้ในสิงคโปร์ก็จะเติบโตขึ้นอย่างก้าวกระโดด
หันกลับมามองที่ประเทศไทยนั้นการเปลี่ยนผ่านทักษะแรงงานไปสู่การมีทักษะ AI นั้นยังเป็นคำถามขนาดใหญ่ว่าจะเริ่มอย่างไร และใครเป็นเจ้าภาพ แม้ข้อมูลจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) คาดการณ์ว่า ภายในปี 2569 องค์กรมากกว่า 80% จะมีการนำ AI มาปรับใช้ ขณะเดียวกัน ผลสำรวจ AI Readiness Index ที่จัดทำโดย Cisco พบว่า มีเพียง 20% ขององค์กรในประเทศไทย ที่มีการเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ในการปรับใช้และใช้ประโยชน์จาก AI ช่องว่างที่สำคัญ คือ ด้านบุคลากร ที่ยังไม่เปิดรับการใช้ AI เท่าที่ควร และยังมีปัญหาการขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะด้าน AI อีกมาก
ข้อเสนอจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่าประเทศไทยควรส่งเสริมการอัพสกิล – รีสกิล และสอนทักษะด้าน AI ให้แก่แรงงานในตลาด เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการที่มากขึ้น รวมถึงควรมีการสนับสนุนการผลิตแรงงานรุ่นใหม่ให้มีทักษะด้าน AI และทักษะที่เกี่ยวข้องเพื่อรองรับทิศทางการเติบโตของภาคธุรกิจในอนาคต
โลกในวันข้างหน้าจะเปลี่ยนแปลงในอัตราเร่ง และ AI เป็นปัจจัยหนึ่งที่แบ่งแยกแรงงานที่มีทักษะ AI กับที่ไม่มีทักษะ AI ออกจากกัน ดังนั้นไม่ว่าประเทศไทยจะประกาศแผนว่าจะเป็นฮับด้านใด ก็หนีไม่พ้นต้องเพิ่มทักษะด้านนี้ให้แรงงานในที่สุด
การอัพสกิล รีสกิลจึงต้องเริ่มได้แล้วในเวลานี้ และความจำเป็นจะมากขึ้นเนื่องจากไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแล้ว วัยแรงงานกำลังลดลง เราต้องเสริมอาวุธทางปัญญา (ประดิษฐ์) ให้กับแรงงานเราให้เพียงพอรอรับการเปลี่ยนแปลงของโลก