ม.หอการค้าไทย คาดสงกรานต์ ปี 67 เงินสะพัด 1.28 แสนล้านบาท
ม.หอการค้าไทย เผยผลสำรวจสงกรานต์ ปี 67 คึกคักกว่าปี 66 คนไทยท่องเที่ยวมากขึ้น เงินสะพัด 1.28 แสนล้านบาท เผยต่างชาติเที่ยวมหาสงกรานต์ไทย 21 วัน ใช้จ่ายรวม 1.9 หมื่นล้านบาท หนุนสงกรานต์ไทยคึกคักมากขึ้น คาดเงินสะพัดรวมเกือบ 2 แสนล้านบาท
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี และที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยในวันนี้ (5 เม.ย.) ว่า การสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในช่วงสงกรานต์ โดยสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1,280 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 25-30 มี.ค.2567 พบว่า ปีนี้ประชาชน ตั้งใจจะไปเล่นน้ำสงกรานต์ 45.2% โดยกิจกรรมที่นิยมมากที่สุดคือทำบุญ 66.0% รองลงมาไปรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่และไปเยี่ยมญาติ 42.0% และไปเล่นน้ำสงกรานต์ 41.6%
สำหรับการวางแผนเดินทางในช่วงเทศกาลสงกรานต์ อันดับหนึ่ง ไปเที่ยว ทำกิจกรรมในจังหวัดที่ตนอยู่ 51.2% รองลงมา พักผ่อนอยู่บ้าน 26.0% และไปเที่ยวในประเทศ 10.6% ซึ่งจังหวัดที่คนนิยมไปท่องเที่ยวมากที่สุดได้แก่ ภาคกลาง 40.2% ได้แก่ ชลบุรี อยุธยา กาญจนบุรี และระยอง
“ประเมินเงินจะสะพัดช่วงสงกรานต์อยู่ที่ 128,834.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับปี 2566 เงินสะพัดอยู่ที่ 125,203.29 ล้านบาท ถือเป็นการใช้จ่ายสูงสุดในรอบ 5 ปี นับจากปี 2563 แต่ยังไม่สามารถทำลายสถิติช่วงปี 2562 ที่มีเงินสะพัดอยู่ที่ 135,837.56 ล้านบาท” นายธนวรรธน์ กล่าว
ขณะที่ผลสำรวจภาคเอกชนต่อเทศกาลสงกรานต์ปี 2567 พบว่า มีการจัดงานรื่นเริงช่วงเทศกาลสงกรานต์เพิ่มขึ้น 50.5% และมองว่าบรรยากาศของเทศกาลสงกรานต์โดยรวมของประเทศคึกคักกว่าปี 2566 อยู่ที่ 45.9%
นอกจากนี้ นายธนวรรธน์ยังประเมินว่า ในส่วนของรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ช่วงระหว่างวันที่ 1-21 เม.ย. รวม 21 วัน ที่รัฐบาลสนับสนุนให้เป็นซอฟต์พาวเวอร์ ให้สงกรานต์เป็นเทศกาลระดับโลก คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยว 1,954,607 คน จะมีรายได้ 69,397.20 ล้านบาท ซึ่งมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจึงมองว่านักท่องเที่ยวต่างประเทศ จะทำให้สงกรานต์ของไทยในปีนี้คึกคักมากยิ่งขึ้น และหากรวมเงินหมุนเวียนในช่วงเทศกาลทั้งหมด ประเมินว่าเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ จะมีเงินสะพัดเฉียด 2 แสนล้านบาท ส่งผลให้จีดีพีเพิ่มขึ้น 1.11%