'มนพร' เบรกแผนพัฒนาท่าเรือคลองเตย หลังนายกฯ สั่งย้ายท่าเรือแก้ฝุ่น
“มนพร” ชะลอแผนพัฒนาสมาร์ทคอมมูนิตี้ท่าเรือคลองเตย 2,353 ไร่ มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท หลังนายกฯ สั่งย้ายพื้นที่หวังแก้ปัญหาฝุ่น ระบุอยู่ระหว่างรอหนังสือคำสั่งอย่างเป็นทางการ ก่อนตั้งคณะทำงานทบทวน ยันเป้าหมายพัฒนาต้องไม่กระทบประชาชนและชุมชนในพื้นที่
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยในฐานะกำกับดูแลการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) โดยระบุว่า ขณะนี้กระทรวงฯ อยู่ระหว่างรอหนังสือคำสั่งการย้ายท่าเรือออกจากคลองเตยอย่างเป็นทางการ เพราะเบื้องต้นทราบว่าเป็นแนวคิดของทางนายกรัฐมนตรี ที่ได้หารือในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ยังไม่ได้บอกว่าจะให้ย้ายท่าเรือออกไปทั้งหมด ดังนั้นกระทรวงฯ จึงขอพิจารณาหนังสือคำสั่งที่จะส่งมาอย่างเป็นทางการก่อน เพื่อตีความและนำนโยบายไปปฏิบัติ
อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน กทท.มีแผนแม่บทพัฒนาท่าเรือกรุงเทพในพื้นที่ย่านคลองเตย ซึ่งเป็นแผนที่ศึกษาตั้งแต่ปี 2562 โดยจะมีการพัฒนาที่ดินรวม 2,353 ไร่ เป้าหมายพัฒนาโครงการแบบผสมผสาน (Mixed Use) สร้างที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนในพื้นที่คลองเตยในลักษณะที่อยู่อาศัยแนวสูง พร้อมยกระดับพื้นที่รอบท่าเรือให้เป็นศูนย์กลางการเดินทาง มีสิ่งอำนวยความสะดวก
ซึ่ง กทท.มีแผนจะนำร่องเปิดประมูลที่ดิน 17 ไร่ติดอาคารสำนักงานของ กทท. อยู่นอกรั้วกรมศุลกากร และที่ดิน 15 ไร่ข้างอาคารสำนักงาน กทท.นอกรั้วกรมศุลกากรบริเวณโกดังสเตเดียมเป็นส่วนแรก โดยขณะนี้กระทรวงฯ ได้หารือร่วมกับ กทท.และมีคำสั่งให้ชะลอแผนพัฒนาพื้นที่ออกไปก่อน เพื่อรอคำสั่งของนายกรัฐมนตรีและนำมาทบทวนแผนพัฒนาทั้งหมดให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล
“ตอนนี้กระทรวงฯ ได้สั่งการให้การท่าเรือฯ ชะลอแผนประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ในท่าเรือกรุงเทพออกไปก่อน เพื่อรอพิจารณาคำสั่งของนายกรัฐมนตรี แต่ปัจจุบันยืนยันว่ายังไม่มีคำสั่ง หรือหนังสือคำสั่งมายังกระทรวงฯ ดังนั้นจึงยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะปรับปรุงแผนพัฒนาเป็นอย่างไร แต่เบื้องต้นเชื่อว่าคงไม่มีการย้ายท่าเรือออกไปจากพื้นที่ทั้งหมด น่าจะเป็นการย้ายเฉพาะส่วนของเรือขนส่งสินค้า แต่คงไว้ในส่วนของบริการเรือโดยสารท่องเที่ยว”
นางมนพร กล่าวต่อว่า แผนแม่บทพัฒนาท่าเรือกรุงเทพ เดิมก็มีการระบุถึงแผนพัฒนาท่าเรือเพื่อรองรับการโดยสารและการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งจะพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อรองรับบริการด้านการท่องเที่ยว พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและชุมชนโดยรอบ ดังนั้นเชื่อว่าคงไม่ได้มีการย้ายท่าเรือออกจากพื้นที่นี้ทั้งหมด แต่น่าจะเป็นการพัฒนาพื้นที่เพื่อเกิดประโยชน์สูงสุด นำพื้นที่บางส่วนย้ายออกไปเพื่อพัฒนาเป็นสวนสาธารณะให้คนกรุงเทพฯ มากขึ้น
ส่วนกรณีของการย้ายชุมชนในท่าเรือคลองเตย ยกระดับสู่การพัฒนาที่อยู่อาศัยแนวสูง ปัจจุบันพบว่า กทท.ศึกษาความเหมาะสม และได้สำรวจความเห็นของประชาชนเมื่อก่อนเกิดโควิด-19 ซึ่งขณะนี้ถือว่าไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน อย่างไรก็ดีกระทรวงฯ มีนโยบายให้พิจารณาแนวทางดำเนินการต่างๆ ต้องยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ไม่กระทบประชาชนและชุมชน
รายงานข่าวจากการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เผยว่า แปลงที่ กทท.จะนำร่องมาเปิดประกวดราคาคือ ที่ดิน 17 ไร่ข้างสำนักงาน ก่อนหน้านี้มีการศึกษาความเหมาะสมจะเปิดให้เอกชนร่วมลงทุน เช่าที่ดินดังกล่าวเพื่อพัฒนาโครงการเชิงพาณิช์ต่างๆ สัญญาเช่าไม่ตํ่ากว่า 30 ปี โดย กทท.จะได้รับค่าเช่าพร้อมผลตอบแทนการดำเนินงาน ประเมินเฉพาะค่าเช่า 30 ปีไม่ตํ่ากว่า 1,800-2,000 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ต้องชะลอแผนประมูลไว้ก่อนเพื่อทบทวนให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล
สำหรับผังโครงการแผนแม่บทการพัฒนาพื้นที่ท่าเรือคลองเตยของ กทท. บนที่ดินรวม 2,353 ไร่ มีมูลค่ามากกว่า 1 แสนล้านบาท ก่อนหน้านี้ถูกจัดสรรออกเป็น 5 กลุ่มพัฒนา ประกอบด้วย
กลุ่มพัฒนาพื้นที่ A
อาคารสำนักงานท่าเรือใหม่และอาคารสำนักงานเช่าเอกชน
โครงการที่พักอาศัย
โครงการพัฒนา Medical Hub
อาคารสำนักงาน
Smart Community
อาคารอยู่อาศัยเพื่อสวัสดิการพนักงานการท่าเรือ
อาคารอยู่อาศัยประเภทเช่า
Retail Mixed use
กลุ่มพัฒนาพื้นที่ B
Smart Port (กึ่งอัตโนมัติ)
ท่าเทียบเรือตู้สินค้าฝั่งตะวันออก
ท่าเทียบเรือสินค้าชายฝั่ง
กลุ่มพัฒนาพื้นที่ C
พื้นที่ Cruise Terminal
Retail Mixed use
อาคารสำนักงาน
พื้นที่พาณิชย์ Duty Free
โรงแรม
พื้นที่พาณิชยกรรม
อาคารจอดรถ
ศูนย์ฝึกอบรม
พื้นที่ศูนย์อาคารแสดงสินค้า
อาคารสาธารณูปโภค
พื้นที่รองรับในการพัฒนาอนาคต X
พื้นที่คลังเก็บสินค้า
สำนักงาน E- Commerce
พื้นที่จอดรถบรรทุก
พื้นที่ ปตท.เช่าใช้
กลุ่มพัฒนาพื้นที่ G
Sport Complex
สวนสาธารณะ