พาณิชย์ เดินหน้าเชื่อมโยงเศรษฐกิจท้องถิ่นสู่เศรษฐกิจสากล
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ดันสินค้าคุณภาพท้องถิ่น ขึ้นขายออนไลน์ข้ามประเทศผ่านแพลตฟอร์มชั้นนำระดับโลก Amazon, Alibaba, JD.com, Tmall และ Klangthai.com
กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน โดยเฉพาะปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลให้การค้าระหว่างประเทศมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง บนช่องทางการค้าในโลกออนไลน์ที่มีกําลังซื้อจากทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จึงมีนโยบายผลักดันเศรษฐกิจด้วยตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ประกอบการในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายเล็กที่อยู่ในภูมิภาคต่างๆ ให้มีโอกาสขยายการส่งออกไปสู่เวทีการค้าในตลาดโลกผ่านช่องทางสมัยใหม่ได้
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้จัดโครงการส่งเสริมการค้าออนไลน์สู่ตลาดโลก (Cross-Border e-Commerce) และจัดกิจกรรมภายใต้ชื่อ “Cross Border e-Commerce ขายสนุก บุกตลาดโลก” จำนวน 4 ครั้ง ตลอดปีงบประมาณ 2567 แบ่งเป็นกิจกรรมออฟไลน์ 3 ครั้ง ใน 3 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ และกิจกรรมออนไลน์ 1 ครั้ง ซึ่งถือเป็นกิจกรรมที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจในส่วนของท้องถิ่นให้สู่เศรษฐกิจในระดับสากล
วัตถุประสงค์หลักก็เพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าของผู้ประกอบการ SMEs ไทยที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มอาหารแปรรูป สุขภาพและความงาม แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ อัญมณีและเครื่องประดับ รวมไปถึงสินค้าประเภทอื่นๆ ที่มีศักยภาพในแต่ละภูมิภาคให้สามารถขยายตลาดผ่านร้าน TOPTHAI ที่อยู่ในแพลตฟอร์มชั้นนำต่างๆ อาทิ Amazon, Tmall China, Bigbasket, Klangthai.com, Blibli.com, PChome Thai, Shopee, Lazada ซึ่งเป็นช่องทางออนไลน์ไปสู่ตลาดต่างประเทศได้
นายพรวิช ศิลาอ่อน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า กรมได้จัดกิจกรรมครั้งที่ 1ในภาคเหนือ ณ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2567 โดยได้ร่วมกับ 5 แพลตฟอร์มพันธมิตรอีคอมเมิร์ซชั้นนำ ได้แก่ Amazon แพลตฟอร์มอันดับ 1 ในตลาดอเมริกา Alibaba.com Tmall และ JD.com 3 แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่จากจีน และ Pinkoi แพลตฟอร์มชั้นนำในกลุ่มสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นจากไต้หวัน มาร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับเทรนด์สินค้า แนะนำโมเดลธุรกิจ รวมทั้งให้คำปรึกษาและเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการโดยตรง เพื่อนำสินค้าขึ้นขายบนแพลตฟอร์ม
นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานพันธมิตรที่สำคัญ อาทิ Exim Bank, Payoneer และ Fastship เป็นต้น เข้าร่วมให้คำปรึกษาเชิงลึกทั้งในด้านการเงิน การลงทุน และการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และให้บริการแก่ผู้ประกอบการที่ต้องการส่งออกสู่ต่างประเทศอย่างครบวงจรอีกด้วย โดยมีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมกว่า 218 ราย มีการจับคู่ธุรกิจในกลุ่มสินค้าต่างๆ รวมกันกว่า 139 คู่
“คาดว่าจะมีมูลค่าการส่งออกผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้ง 5 แพลตฟอร์มที่เข้าร่วมกว่า 274 ล้านบาท ภายใน 1 ปี”นายพรวิช ระบุ
โดยมีแผนการจัดกิจกรรมครั้งต่อไปในภาคอีสาน ณ จังหวัดขอนแก่น ในวันจันทร์ที่ 29 เม.ย. 2567 โรงแรม Pullman Khon Kaen Raja Orchid และภาคใต้ ณ จังหวัดสงขลา ช่วงเดือนมิ.ย. 2567
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ต้องการขยายโอกาสในการส่งออกผ่านช่องทางออนไลน์ สามารถเข้าร่วมงาน “Cross Border e-Commerce : ขายสนุกบุกตลาดโลก” ครั้งต่อไปในเดือนเม.ย. 2567 ณ จังหวัดขอนแก่น โดยสามารถติดตามรายละเอียดข้อมูลกิจกรรม ได้ทาง Facebook : Thaitrade.com และwww.thaitrade.com/topthai หรือโทร 1169