เปิดแผน ‘พาณิชย์’ ดันซอฟต์พาวเวอร์  เร่งเป้าหมายส่งออก ‘สินค้า-บริการ’

กระทรวงพาณิชย์ โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย Soft power(ซอฟพาวเวอร์) เพื่อตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ซึ่งในช่วงที่ผ่านได้ดำเนินการในหลายโครงการ โดยเฉพาะการผลักดันสินค้าและบริการของไทยทั้งในและต่างประเทศ 

ทั้งนี้การส่งออก ถือเป็นเครื่องจักรที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่ง 1 ใน 7 นโยบายหลักของกระทรวงพาณิชย์ คือ การสร้างกระแสการใช้ประโยชน์จากซอฟพาวเวอร์ของไทย และสร้าง Story ให้กับให้สินค้าและบริการไทยเชื่อมโยงกับภาคบริการ เช่น ร้านอาหาร วัฒนธรรม ภาพยนตร์ แอนิเมชั่นและการท่องเที่ยว 

สำหรับจุดแข็งของกระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานเดียวในประเทศไทยที่มีสำนักงานพาณิชย์จังหวัด 76 แห่ง มีหน่วยงานระหว่างประเทศ 98 แห่งทั่วโลก และให้ความสำคัญมากในการเชื่อมโยงการค้าภายในและภายนอกประเทศเพื่อผลักดันสินค้าไทย ทั้งนี้ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ได้รับมอบหมายเป็นเลขานุการร่วมคณะกรรมการพัฒนาซอฟพาวเวอร์แห่งชาติ

รวมทั้งทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานหลัก (FocalPoint) โดยจะมีผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยไปทั่วโลก ได้แก่ อาหารไทย ภาพยนตร์เกม หนังสือ แฟชั่น และงานออกแบบ วงเงิน 654.13 ล้านบาท เป้าหมาย 201 กิจกรรม ผู้ประกอบการได้รับประโยชน์ 2,949 ราย สร้างมูลค่าการค้าผ่านกิจกรรม 8,876 ล้านบาท

การขับเคลื่อนนโยบายซอฟพาวเวอร์ เริ่มด้วยการ Kick Off Soft Power สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ปรับตัวสู่การค้ายุคใหม่ ด้วยจัดงานสัมมนา “ติดปีกทางการค้าให้ผู้ประกอบการไทยด้วย Soft Power x ทรัพย์สินทางปัญญา” มีผู้ประกอบการเข้าร่วม 598 ราย จาก 11 อุตสาหกรรม เป็นการเตรียมความพร้อมการดำเนินธุรกิจในตลาดต่างประเทศด้วยการนำ Soft Power ของไทยมาสอดแทรกเพิ่มมูลค่าให้สินค้า/บริการ และเสริมความรู้ด้านการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาในต่างประเทศ 

รวมทั้งการส่งออกดิจิทัลคอนเทนต์ ภาพยนตร์ ซีรีส์ไปยังตลาดต่างประเทศ ผ่านงานแสดงสินค้าสำคัญ และกิจกรรมส่งเสริมธุรกิจบันเทิงไทย (Thai Night) อาทิ งาน TIFFCOM 2023 โตเกียว American Film Market สหรัฐอเมริกา 

รวมถึงงาน Asia TV Forum & Market ณ ประเทศสิงคโปร์ และล่าสุด งาน Hong Kong International Film & TV Market 2024 (FILMART 2024) ณ เมืองฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน วันที่ 11-14 เม.ย.2567

ส่วนการผลักดันซอฟพาวเวอร์ ที่เห็นเด่นชัดและเป็นความภาคภูมิใจของนายภูมิธรรม คือ การจับมือซีรีส์วาย และซีรีส์ยูริ ดันสินค้าไทยเจาะตลาดโลก ทำ MOU และ MOI กับภาคเอกชนไทยผลักดันสินค้าและบริการไทยสู่ผ่านอินฟลูเอ็นเซอร์ มาย และอาโป 

ในซีรีส์เรื่องใหม่ “ชาย” หรือ “Shine” จากบริษัท BE ON CLOUD จำกัด และยูริ ฟรีน สโรช เบ็คกี้ รีเบคค้า ในซีรีส์หญิงรักหญิงเรื่องใหม่ คือ“ปิ่นภักดิ์”จากบริษัทไอดอลแฟคทอรี่ จำกัด (Idol Factory)เพื่อผลักดันสินค้าชุมชนสู่สากล

โดยทั้งบีโอซี และไอดีเอฟ จะเดินทางไปคัดเลือกสินค้าของผู้ประกอบการทั่วประเทศ ทั้งอาหาร ขนม ผ้าไทย ยาดม ฯลฯ แล้วนำมาใส่ไว้ในฉากของซีรีส์เรื่องชาย และปิ่นภักดิ์ เพื่อสร้างการรับรู้ จดจำสินค้าไทย ทำให้ผู้ชมในต่างประเทศ อยากซื้อ อยากใช้สินค้าไทย โดยบีโอซี คัดเลือกสินค้าจากผู้ผลิตในกรุงเทพฯ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ 

ส่วนไอดีเอฟ เริ่มต้นจากกรุงเทพฯ หัวหิน เป็นต้น เมื่อซีรีส์ออกฉาย ผู้คนทั่วโลกก็จะเห็นสินค้าไทยอยู่ในฉากด้วย กระทรวงตั้งเป้าหมายสร้างรายได้เข้าประเทศจากการดำเนินการลักษณะนี้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท

ด้านมวยไทย ได้จัดงาน “Muaythai Global Power”เมื่อวันที่ 3-5 ธ.ค. 66ณ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และสมาพันธ์มวยไทยนานาชาติ (IFMA) มีวัตถุประสงค์เพื่อนำพลังสร้างสรรค์เชิงวัฒนธรรมซอฟพาวเวอร์มาต่อยอดในเชิงธุรกิจต่างๆ เช่น ยิม แฟชั่น ภาพยนตร์ แอนิเมชั่น โรงเรียน เป็นต้น 

ภายในงาน มีการจัดแสดงสินค้าและบริการในกลุ่มธุรกิจมวยไทย ประกอบด้วย ค่ายมวย ยิมมวย โรงเรียนสอนมวย อุปกรณ์กีฬา รวมถึงสินค้าคาแรคเตอร์ที่นำมวยไทยมารวมออกแบบ 19 บริษัท

ด้านอาหารไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายซอฟพาวเวอร์ของรัฐบาลที่ผลักดัน โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ตอบสนองนโยบายของรัฐบาลจึงได้ใช้ตราสัญลักษณ์ Thai Select ซึ่งเครื่องหมายรับรองร้านอาหารไทยที่ให้บริการและจำหน่ายอาหารไทยรสชาติไทยแท้ ผ่านกระบวนการขั้นตอนของการปรุงอาหารด้วยส่วนผสมตามตำรับอาหารไทย

ทั้งนี้ที่ผ่านมาได้ใช้ร้านอาหารได้รับตราสัญลักษณ์Thai SELECT โปรโมทอาหารไทยให้กับชาวไทยและต่างประเทศ เช่น จีน สหรัฐ เป็นต้น และในระยะถัดไปจะพิจารณาเรื่องการRe-Brandingเพื่อให้ยกระดับตราสัญลักษณ์Thai SELECT

ด้านหนังสือ เข้าร่วมงานแสดงสินค้า Taipei International Book Exhibition 2024 (TIBE) ณ เมืองไทเป สาธารณรัฐประชาชนจีนในช่วงเดือนก.พ.ที่ผ่าน เป็นงานแสดงสินค้านานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียและเป็นอันดับ 4 ของโลก ดำเนินการร่วมกับสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) มีผู้ประกอบการไทยที่เข้าร่วมงาน 23 งาน เกิดการเจรจาการค้า 153 คู่ คาดการณ์มูลค่าการเจรจาการค้า 5 ล้านบาท

ด้านเกม โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) และสมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์เกมไทย (TGA) นำบริษัทผู้พัฒนาเกมไทย 10 ราย เข้าร่วมงานแสดงสินค้า Gamescom Asia 2023 (19-20/10/66) ณ ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นการเข้าร่วมงานครั้งแรกในรูปแบบ Thailand Pavilion สร้างโอกาสในการพัฒนาศักยภาพ ต่อยอดและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเกมสู่สากล สร้างมูลค่าเจรจาการค้ากว่า 1,358 ล้านบาท

ด้านแฟชั่น ร่วมกับภาคเอกชนจัดงานแสดงสินค้าด้านไลฟ์สไตล์และแฟชั่น 2 งาน คือ Bangkok Gems andJewelry Fair งานแสดงสินค้าด้านอัญมณีและเครื่องประดับ ครั้งที่ 69 เมื่อวันที่ 21-25 ก.พ.67 มีผู้เข้าร่วมงาน 1,125 ราย 2,483 คูหา มูลค่าการสั่งซื้อ 3,850 ล้านบาท และSTYLE Bangkok 2024มหกรรมสินค้าดีไซน์สไตล์ยั่งยืน เมื่อวันที่ 20-24 มี.ค.67 ชูสินค้าไลฟ์สไตล์อัตลักษณ์ท้องถิ่นสู่เวทีโลก และเป็นเวทีสำหรับผู้ประกอบการ SMEs หน้าใหม่ และนักออกแบบสร้างสรรค์ที่มีนวัตกรรม สร้างมูลค่าการค้ารวม 1,756 ล้านบาท

ด้านการออกแบบ ได้ดำเนินการส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าบริการไทยที่มีการออกแบบที่ดี ผ่านกิจกรรมการมอบรางวัลผู้ประกอบธุรกิจส่งออกดีเด่น (PM Award) การส่งเสริมสินค้าไทยที่มีการออกแบบดีสู่ตลาดโลก (Demark) และตราสัญลักษณ์ Thailand Trust Mark หรือ T Mark แบบครบวงจรขณะเดียว 

ยังได้ จับมือ “สยามพิวรรธน์” นำผลงานของนักออกแบบไทย ไปจำหน่ายในร้าน “Festive Shop” ช่วงจัดงานเทศกาลมหาสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 8–28 เม.ย.67 เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับสินค้าไทย และยังเป็นการขับเคลื่อน Soft Power ในด้านการออกแบบและแฟชั่นของไทยให้เป็นที่ประจักษ์ในวงกว้าง

นอกจากนี้ สำนักส่งเสริมมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า และสำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมิลาน กำหนดจัดนิทรรศการด้านการออกแบบ Slow Hand Design by DITP ในเทศกาล Milan Design Week 2024 ณ บริเวณ Center Point อาคาร Superstudio ถนน Tortona ระหว่างวันที่ 15-24 เม.ย.2567 ภายใต้แนวคิด “Speak softly Thai, Speak softly Love”ณ เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี 

โดยนำผลงานออกแบบของผู้ประกอบการแบรนด์ไทย 45 ราย ที่มีการสร้างสรรค์ผลงานสอดรับกับแนวทางส่งเสริม Soft Power ของประเทศไทย มีการต่อยอดภูมิปัญญาไทยหรือค่านิยมแบบไทยสู่สินค้าเชิงพาณิชย์ อาทิ เฟอร์นิเจอร์ ไลฟ์สไตล์และแฟชั่น บรรจุภัณฑ์ กราฟิกดีไซน์ และผลงานออกแบบตกแต่งภายใน รวมทั้งอาหารไทย/สมุนไพรไทยที่มีนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมการออกแบบเพื่อขับเคลื่อน Soft Power ของประเทศไทยในเวทีโลก นำไปสู่โอกาสทางการค้าใหม่ ๆ ได้ในอนาคต

ขณะที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เปิดตัวแคมเปญ “เที่ยว ฟิน กินThai SELECT” ตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค.-15 พ.ค.2567 ชูร้านอาหาร Thai SELECT ให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักมากขึ้นเป็นSoft Power ของประเทศที่เชื่อมโยงกับธุรกิจบริการและการท่องเที่ยว โดยใช้สัญลักษณ์Thai SELECTให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว การันตีในมาตรฐานอาหารไทย ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

กรมทรัพย์สินทางปัญญา เดินหน้าผลักดันสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) หรือสินค้าจีไอ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว อันเป็นผลมาจากสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และภูมิปัญญาของแต่ละท้องถิ่น อีกทั้งยังมีคุณภาพโดดเด่นเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ถือเป็นSoft Powerที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก

ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการค้าต่างประเทศจะร่วมเป็นแม่งาน กับ 3 หน่วยงาน CEA NIA และ TCEB  จัดงานประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power Forum: SPF)ระหว่างวันที่ 28-30 มิ.ย.2567ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC)  เพื่อสร้างการรับรู้แก่ประชาชน บุคคลทั่วไป ให้เกิดแรงบันดาลใจในการต่อยอด Soft Power ไทย ผ่านอุตสาหกรรม 11 สาขา