ครม.ชี้ชะตาต่ออายุอุ้มดีเซล 'คลัง' ยื้อลดภาษีทางออกสุดท้าย

ครม.ชี้ชะตาต่ออายุอุ้มดีเซล 'คลัง' ยื้อลดภาษีทางออกสุดท้าย

ครม.ชี้ชะตาอุดหนุนราคาดีเซล หลังลดภาษีสิ้นสุด 19 มิ.ย.นี้ “คลัง” ห่วงผลกระทบรายได้ “พลังงาน" ลุ้นเคาะงบกลางช่วย หลังต้องทยอยขยับเพดานราคา เหตุกองทุนน้ำมันติดลบ 1 แสนล้าน เตรียมความพร้อมน้ำมันเชื้อเพลิง รับมือสงครามตะวันออกกลาง ชี้ไทยมีปริมาณสำรองน้ำมันดิบ 70 วัน

สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางกระทบราคาน้ำมันอย่างมีนัยยะสำคัญ ล่าสุดสหรัฐประกาศจะคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่เพื่อตัดขีดความสามารถในการส่งออกน้ำมัน ซึ่งจะทำราคาน้ำมันผันผวนและอาจขึ้นไปที่บาร์เรลละ 100 ดอลลาร์ อีกครั้ง 

ทั้งนี้ ไทยมีกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ดูแลราคาน้ำมันและแอลพีจี แต่ปัจจุบันติดลบทะลุ 1 แสนล้านบาท อีกครั้งในรอบ 1 ปีนี้ รัฐบาลจะต้องบริหารจัดการอย่างเข้มขึ้นขึ้น

นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า กรมธุรกิจพลังงาน ได้ติดตามความเคลื่อนไหวของสงครามตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด และกำชับผู้ค้าน้ำมันสต๊อกน้ำมันเชื้อเพลิงทุกวัน เพื่อเตรียมความพร้อมและให้ปฏิบัติตามระเบียบตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า หากสถานการณ์อิหร่านและอิสราเอลบานปลายจะทำให้ทั่วโลกรวมทั้งไทยได้รับผลกระทบ โดยปัจจุบันไทยนำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางสัดส่วน 57% และนำเข้า LNG จากต่างประเทศ 33% จากหลากหลายแหล่ง

นอกจากนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลตรึงราคาดีเซล 30 บาทต่อลิตร มาตั้งแต่เดือน ก.ย.2566 ทำให้ฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงติดลบ 1 แสนบาทแล้ว ดังนั้น เพื่อไม่ให้กองทุนน้ำมันฯ มีภาระหนี้มากเกินไป และรักษาสภาพคล่องและความเชื่อมั่นของกองทุนน้ำมันฯ กระทรวงพลังงาน จะเสนอหารือในคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 18 เม.ย.2567 เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือประชาชนไป และลดภาระหนี้กองทุนน้ำมันฯ 

ทั้งนี้ การใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ พยุงราคาดีเซลมานานส่งผลให้คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) วันที่ 27 มี.ค. 2567 เห็นชอบปรับอัตราเงินกองทุนน้ำมันฯ ประเภทดีเซลเพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศเกิน 30 บาทต่อลิตร ได้ตั้งแต่เดือน เม.ย. 2567 ดังนั้น กบน.จึงขยับราคาขายปลีกดีเซล 50 สตางค์ต่อลิตร เป็น 30.44 บาทต่อลิตร ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.2567 ถือเป็นครั้งแรกของปีนี้

4 แนวทางพยุงราคาน้ำมัน

สำหรับแผนรับมือราคาพลังงานโดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งกระทรวงการคลังได้ลดภาษีดีเซล 1 บาท ต่อลิตรจะสิ้นสุด 19 เม.ย. 2567 นี้ นั้น วันที่ 18 เม.ย. 2567 จะต้องดูว่า กระทรวงพลังงานจะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงมาตรการดังกล่าวหรือไม่ ดังนั้น แนวทางต่อจากนี้จะแบ่งเป็น 

1.กระทรวงการคลังขยายมาตรการลดภาษีน้ำมันดีเซล 1 บาทต่อลิตร (เฉลี่ยเดือนละ 2,000 ล้านบาท) 2.ครม.อนุมัติงบประมาณกลางเพื่อนำเงินมาช่วยเป็นส่วนลดน้ำมันดีเซล 3.ปล่อยให้ราคาดีเซลทยอยปรับขึ้นราคาจตามกลไกตลาดโลก 4.กองทุนน้ำมันฯ กู้เงินเพิ่มอีก 20,000 ล้านบาท ตาม พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันที่ยังสามารถกู้เงินได้ตามกรอบวงเงิน

ทั้งนี้ จากกรณีที่ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกยังคงผันผวน รัฐบาลใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ และการลดภาษีน้ำดีเซล รวมแล้วชดเชยราคาดีเซลลิตรละ 4 บาท เศษ ทำให้กองทุนน้ำมันฯ ต้องจ่ายเดือนละ 8,000-10,000 ล้านบาท และทำให้กองทุนน้ำมันฯ ณ วันที่ 14 เม.ย.2567 ติดลบ 103,620 ล้านบาท แบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 56,407 ล้านบาท ส่วนบัญชีแอลพีจี ติดลบ 47,213 ล้านบาท

จ่อขยับราคาดีเซล 31 บาทต่อลิตร

“ต้องรอดูความชัดเจนของรัฐบาลวันที่ 18 เม.ย.นี้ว่า จะออกมารูปแบบไหน เพราะหากรัฐบาลไม่ช่วยเหลืออะไรอีก กองทุนน้ำมันฯ จะรับภาระเต็มๆ ซึ่งดูท่าจะไม่ไหวแล้ว ก็อาจจะต้องขยับราคาน้ำมันดีเซลอีก 50 สตางค์ เป็นอย่างน้อย เพื่อให้ราคาน้ำมันขยับเป็น 30.94 บาทต่อลิตร เพราะเชื่อว่าราคาน้ำมันตลาดโลกจะยังคงมีความผันผวนแน่นอน” แหล่งข่าว กล่าว

ทั้งนี้ ภายหลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรน่าจะมีผลต่อราคาน้ำมันตลาดโลก เพราะวัน 2 วัน ที่ผ่านมามีทั้งปรับขึ้นและลงแม้จะไม่มาก โดยดีเซลตลาดโลกอยู่ที่บาร์เรลละ 106 ดอลลาร์ ส่วนน้ำมันดิบดูไบบาร์เรลละ 90 ดอลลาร์ เมื่อรวมกับเงินบาทอ่อนค่าทำให้กองทุนน้ำมันฯ ต้องควักเงินเพิ่มลิตรละ 4 บาท ซึ่งทุกฝ่ายทราบว่าฐานะกองทุนน้ำมันฯ ไม่ไหวแล้ว เพราะต้องจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้เดือนละ 250 ล้านบาท

เตรียมความพร้อมปริมาณน้ำมันสำรอง

อย่างไรก็ตาม เพื่อประเมินและเตรียมความพร้อมหากเกิดสถานการณ์ที่รุนแรงขึ้น เบื้องต้นกระทรวงพลังงานได้เตรียมความพร้อมด้านปริมาณสำรองพลังงาน โดยปัจจุบันไทยมีปริมาณสำรองน้ำมันดิบราว 3,910 ล้านลิตร ปริมาณสำรองน้ำมันดิบที่อยู่ระหว่างขนส่งอีกราว 1,637 ล้านลิตร น้ำมันสำเร็จรูปราว 2,180 ล้านลิตร ทำให้มีน้ำมันเชื้อเพลิงสำรองใช้ได้กว่า 2 เดือน แบ่งเป็น น้ำมันดิบเฉลี่ย 33 วัน อยู่ระหว่างขนส่งอีก 14 วัน และน้ำมันสำเร็จรูป 20 วัน ส่วนก๊าซหุงต้ม (LPG) สำหรับในภาคครัวเรือนใช้ได้ 21 วัน

อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงาน ได้มีการเฝ้าระวังราคาน้ำมันและราคาเชื้อเพลิงประเภทต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อบริหารราคาและดูแลประชาชนให้ดีที่สุด ดังนั้น ขอประชาชนไม่ต้องกังวลว่าน้ำมันขาดแคลนเพราะปัจจุบันไทยมีปริมาณสำรองน้ำมันดิบ 70 วัน แบ่งเป็นสำรองในประเทศ 45 วัน ปริมาณ 3,910 ล้านลิตร และปริมาณสำรองน้ำมันดิบที่อยู่ระหว่างขนส่งอีก 25 วัน ปริมาณ 2,180 ล้านลิตร

“คลัง”ขอลดภาษีเป็นทางเลือกสุดท้าย

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า แนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกอาจปรับตัวเพิ่มขึ้นความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ โดยรัฐบาลต้องมีมาตรการลดค่าครองชีพ แต่คงไม่ใช่มาตรการตรึงราคา โดยจะกำหนดให้อยู่ในช่วงราคาที่เหมาะสม โดยถ้าหากกระทรวงพลังงานเสนอต่อมาตรการลดภาษีดีเซลจะพิจารณาตามความเหมาะสม ซึ่งปัจจุบันการจัดเก็บรายได้รัฐยังเป็นไปตามเป้า

แหล่งข่าวจากกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่มีการหารือว่าจะต่ออายุมาตรการลดภาษีสรรพสามิตดีเซลลิตรละ 1 บาท ซึ่งจะสิ้นสุดวันที่ 19 เม.ย.นี้ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ ที่ยังมีกรอบวงเงินเพียงพอ

ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตหวังว่ามาตรการลดภาษีสรรพสามิตดีเซลจะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่จะเป็นเครื่องมือตรึงราคาดีเซลไม่เกิน 30.50 บาท เพราะมาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บรายได้ของรัฐไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งจะส่งผลต่อการตั้งงบประมาณในปีถัดไปด้วย

รวมทั้งเมื่อลดภาษีดีเซล 1 บาทต่อลิตร จะทำให้รัฐสูญเสียรายได้ 2,000 ล้านบาทต่อเดือน ขณะที่ลดภาษีเบนซิน 1 บาทต่อลิตร ทำให้รัสูญเสียรายได้ 900 ล้านบาทต่อเดือน

รายงานจากกระทรวงการคลัง ระบุว่า กรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ในช่วง 5 เดือนแรก ปีงบประมาณ 2567 (ต.ค.2566-ก.พ.2567) ต่ำกว่าประมาณการ 32,841 ล้านบาท 13.3% อยู่ที่ 213,864 ล้านบาท แต่สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 7.9%

สศค.ชี้ราคาน้ำมันดิบเริ่มลดลง

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า สศค.ประเมินผลกระทบจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่านอย่างใกล้ชิดตั้งแต่สถานการณ์ความขัดแย้งเริ่มเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2567 โดยประเมินว่าความขัดแย้งจะกระทบเศรษฐกิจไทยไม่มาก ภายใต้สถานการณ์ความขัดแย้งในวงจำกัดและการหาทางออกของความขัดแย้งของประเทศต่างๆ

สำหรับประเด็นราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยพบว่าราคาน้ำมันดิบและราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นหลังเหตุการณ์ความขัดแย้ง โดยหลังสถานการณ์เริ่มคลี่คลายทำให้ราคาน้ำมันดิบลดลงอยู่ช่วงบาร์เรลละ 85-90 ดอลลาร์ เท่าช่วงก่อนเหตุการณ์ความขัดแย้ง

ทั้งนี้ ประเมินว่าประเทศอิหร่านมีสัดส่วนส่งออกน้ำมันดิบเพียง 1.5% ของการส่งออกน้ำมันดิบในตลาดโลก จึงประเมินว่าหากสถานการณ์ความขัดแย้งไม่ลุกลามจะไม่เป็นปัจจัยที่จะทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ