คมนาคมยัน 'ซีพี' พร้อมลงทุนพื้นที่ทับซ้อนไฮสปีด ช่วงบางซื่อ - ดอนเมือง
“คมนาคม” เตรียมความพร้อมเจรจาจีนสัปดาห์หน้า ผลักดันรถไฟความเร็วสูงไทย – จีน หลังงานโยธาคืบหน้า 32.31% พร้อมเร่งลงนามอีก 2 สัญญา ยันช่วงทับซ้อนบางซื่อ - ดอนเมือง “ซีพี” เดินหน้าลงทุนให้ มั่นใจเปิดบริการเฟสแรก ช่วงกรุงเทพฯ – โคราช ภายในปี 2571
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารการพัฒนาโครงการความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย - จีน ครั้งที่ 1/2567 เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมคณะกรรมการร่วมเพื่อความร่วมมือด้านรถไฟระหว่างไทย – จีน ครั้งที่ 31 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ 7 - 8 พ.ค. 2567 พร้อมระบุว่า การเข้าร่วมประชุมที่กรุงปักกิ่งครั้งนี้ จะรายงานความก้าวหน้าของโครงการ รวมทั้งยืนยันความพร้อมของรัฐบาลในการผลักดันโครงการระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย
สำหรับประชุมครั้งนี้ได้หารือถึงความก้าวหน้าของโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย - จีน ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพมหานคร – นครราชสีมา ระยะทาง 250 กิโลเมตร โดยมีงานก่อสร้างแล้วเสร็จ 2 สัญญา จากทั้งหมด 14 สัญญา อยู่ระหว่างดำเนินการอีก 10 สัญญา และรอลงนามสัญญาอีก 2 สัญญา ซึ่งมีความก้าวหน้าภาพรวม 32.31% คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ในปี 2571
ขณะที่โครงการฯ ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย สำหรับการเชื่อมต่อโครงการสู่ สปป.ลาว ปัจจุบันฝ่ายไทยพร้อมดำเนินการลงทุน ปัจจุบันได้ดำเนินการออกแบบรายละเอียดของโครงการแล้วเสร็จ อยู่ระหว่างรอเสนอคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (กก.วล.) พิจารณาเห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) เบื้องต้นคาดว่าจะเปิดให้บริการในปี 2573
“โครงการนี้รัฐบาลให้ความสำคัญ จะเดินหน้าให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายเพื่อเชื่อมต่อ สปป.ลาว และจีน ซึ่งส่วนของการพัฒนาระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา - หนองคาย ฝ่ายไทยจะเป็นผู้ลงทุนเอง โดยทางจีนจะเร่งรัดการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้ ผ่านสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน)”
นายสุริยะ กล่าวด้วยว่า ปัญหาเรื่องการส่งมอบพื้นที่สัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ - ดอนเมือง ยังติดปัญหาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนกับโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) เชื่อมต่อสามสนามบิน (ดอนเมือง สุวรรณภูมิ อู่ตะเภา) ขณะนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) อยู่ระหว่างการเจรจากับกลุ่มซีพี ซึ่งเป็นเอกชนคู่สัญญาไฮสปีดสามสนามบิน โดยเอกชนยังคงยืนยันจะรับสร้างพื้นที่ทับซ้อนช่วงบางซื่อ - ดอนเมือง โดยมีความคืบหน้าการเจรจาไปแล้ว 90% คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้
ส่วนสัญญา 4 – 5 ช่วงบ้านโพ - พระแก้ว ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้ลงนามสัญญาจ้างงานโยธา เพราะติดปัญหาก่อสร้างพื้นที่สถานีอยุธยา คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ทางสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) จะส่งรายงานผลกระทบด้านทรัพย์สินทางวัฒนธรรม หรือ HIA ของแหล่งมรดกโลกนครสวรรค์และนครศรีอยุธยา เชื่อมโยงกับสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ไปยังองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) พร้อมสอบถามความเห็น หากสามารถลงนามสัญญาได้ก็จะดำเนินการทันที
ทั้งนี้จึงคาดว่ากระบวนการส่งมอบพื้นที่ที่เหลือ 2 สัญญานี้ จะแล้วเสร็จภายใน 2 – 3 เดือน และนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นความก้าวหน้าอย่างเป็นรูปธรรมของโครงการรถไฟความเร็วสูงระหว่างสองประเทศ ยกระดับความร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เสริมสร้างเศรษฐกิจและความมั่นคงในภูมิภาค รวมทั้งเชื่อมโยงการค้าการลงทุนระหว่างกัน ตลอดจนขยายเครือข่ายเชื่อมโยงเส้นทางรถไฟสู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว เพื่อเพิ่มศักยภาพการขนส่งและการเชื่อมโยงในภูมิภาคต่อไป