จับตา 'ภูมิธรรม' ตรวจสอบข้าวเก็บ 10 ปี 'การันตีข้าวดี' เตรียมประมูลขาย

เมื่อช่วงเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ จ.สุรินทร์เพื่อตรวจสอบข้าวในสต๊อกที่เก็บรักษาไว้ในโครงการรับจำนำข้าวเป็นเวลา 10 ปี ที่ถูกร้องเรียนว่าเป็นข้าวเน่า

โดยลงไปตรวจสอบโกดังที่เก็บข้าวในโครงการรับจำนำข้าว 2 แห่ง คือ บจก.พูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 อ.เมือง และคลังกิตติชัย หลัง 2 อ.ปราสาท ตามที่มีการร้องเรียน มีข้าวรวมกันประมาณ 1.2 แสนกระสอบ

จากการตรวจสอบ นายภูมิธรรม  ยืนยันว่า ข้าวแต่ละกระสอบพบว่ายังมีปลายจมูกข้าว ส่วนเม็ดข้าวมีสีเหลืองบ้างเล็กน้อย ได้นำข้าวดังกล่าวไปทดลองหุง ยังมีกลิ่นหอม ข้าวยังมียางเป็นข้าวชั้นดี สามารถนำมารับประทานได้

จึงสรุปได้ว่า การตรวจสอบทั้งหมดไม่ตรงกับที่มีการร้องเรียน ซึ่งภายหลังจากการลงพื้นที่เกิดข้อกังขาจากหลายฝ่าย ว่า  ข้าว  10 ปีที่อยู่ในโกดังยังมีคุณภาพ และนำไปหุงเพื่อรับประทานได้หรือไม่   

อย่างไรก็ตามหลังการลงพื้นที่ในครั้งนั้น เกิดข้อครหา และตั้งข้อสงสัยว่า ข้าวที่เก็บไว้ 10 ปี เหตุใดยังคงมีคุณภาพดี สามารถรับประทานได้ โดยเฉพาะนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ที่โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “ภูมิธรรมจะฟอกขาวให้ยิ่งลักษณ์หรือไม่” และเป็นการเล่นละครหรือไม่

เพราะการเก็บข้าวสารนานเป็น 10 ปี มอดจะกินหมดแม้จะรมยา แสดงว่าข้าวต้องมีปัญหา จึงขายไม่ได้หรือข้าวถูกล้อมกองยัดไส้ ถ้าข้าวดีจริง ทำไมต้องเก็บไว้ ยิ่งมาบอกว่า “ข้าวดังกล่าวไปทดลองหุง ยังมีกลิ่นหอม ข้าวยังมียาง เป็นข้าวชั้นดี สามารถนำมารับประทานได้” ถ้าข้าวดังกล่าวดีจริง เขาควรขายไปนานแล้ว

จนเป็นเกิดวาทะกรรมตอบโต้กันไปมา  โดยนาย"ภูมิธรรม" ต้องออกมาโต้ข้อกล่าวหา ยืนยันว่าข้าวที่ลงไปตรวจสอบ ผนึกเก็บไว้อย่างดี และทุกเดือนจะมาเปิดโกดังตรวจสอบ โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มีการรมยาทุกเดือนเพื่อรักษาสภาพข้าวไว้

"ถ้ามีปัญหา ถ้าใครสงสัยหรือมีปัญหาขอให้มาแถลง และเดินทางไปกับผมเพื่อตรวจสอบ จะหุงข้าวให้กินและผัดกะเพราไข่ดาวไว้รอ ผมยินดีให้ตรวจสอบ อย่าหยิบแค่ประเด็นบางส่วนที่คุย หรือคิดหรือทำ ที่ไม่คำนึงต่อสภาพแวดล้อม แล้วมาพูดอย่างนี้ไม่แฟร์กับความเป็นจริง” นายภูมิธรรม กล่าว

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คาใจนายภูมิธรรม ซึ่งในช่วงที่ผ่านมานายภูมิธรรมได้ตอกย้ำแสมอว่า ข้าวดังกล่าวเป็นข้าวคุณภาพดี และเพื่อเป็นการพิสูจน์ ข้อเท็จจริง นายภูมิธรรมจะนำคณะผู้บริหาร สื่อมวลชน ผู้ที่สนใจจะเข้าร่วมประมูลข้าวในโครงการรับจำนำข้าว ไปตรวจสอบข้าวใน 2 โกดังของคดีรับจำนำข้าว ที่จ.สุรินทร์ อีกครั้ง  ในวันที่ 6 พ.ค.นี้

"เพื่อสร้างความมั่นใจและพิสูจน์ว่าข้าวดังกล่าวยังมีคุณภาพ และใช้บริโภคได้ จึงอยากเชิญชวนผู้ที่สนใจและมีความเห็นต่างลงพื้นที่จ.สุรินทร์ ไปร่วมพิสูจน์ด้วยกันว่า ข้าวในโกดังสามารถนำมาใช้เพื่อการบริโภคได้ ซึ่งผมจะเป็นผู้กินนำ แบบไม่ต้องกลัวมีปัญหา เพื่อให้สิ้นข้อสงสัยของทุกฝ่าย"

โดยโกดังแรกมีปริมาณ 1 แสนกระสอบ และอีกโกดังมีอยู่ 32,000 กระสอบว่าเสียหายหรือไม่ เพื่อร่วมกันประเมินและตรวจสอบคุณภาพของข้าวใน 2 โกดังของคดีรับจำนำข้าว ที่ จ.สุรินทร์

โกดังแรกมีปริมาณ 1 แสนกระสอบ และอีกโกดังมีอยู่ 32,000 กระสอบว่าเสียหายหรือไม่ ซึ่งจะตรวจสอบในส่วนของตรงกลางกองข้าวด้วย จากนั้นคาดว่าจะนำข้าวดังกล่าวมาเปิดประมูลข้าวได้เร็วที่สุดภายในเดือนพ.ค.2567

ทั้งนี้การลงพื้นที่ของนายภูมิธรรมครั้งก็เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่า ข้าวในโครงการรับจำนำข้าวที่เก็บไว้ในโกดังเป็นเวลา 10 ปีเป็นข้าวที่มีคุณภาพ ไม่ใช่ข้าวเน่า ข้าวเสีย ก็สามารถเปิดประมูลข้าวที่คนสามารถทานได้ ไม่ใช่อาหารสัตว์หรือโรงงาน ซึ่งหากเป็นจริงก็สามารถที่จะนำออกไปประมูลขายได้ โดยจะมีการนำข้าวที่เก็บไว้มาหุงข้าวและรับประทานต่อหน้าสื่อมวลชนและผู้เกี่ยวข้องเพื่อเป็นการตรวจสอบด้วย

การลงพื้นที่ตรวจสอบครั้งข้าวในโกดัง รอบ 2 ก็เพื่อเป็นการยืนยันว่า ข้าวในโครงการรับจำนำข้าว ที่เก็บมา 10 ปี เป็นข้าวที่มีคุณภาพ ขายได้ กินได้ หรือไม่ 

สำหรับคลังสินค้าที่จัดเก็บข้าวในโครงรับจำนำข้าว บจก.พูนผลเทรดดิ้งหลัง 4 อ.เมือง ปัจจุบันมีข้าวคงเหลือ 32,879 กระสอบ และคลังกิตติชัยหลัง 2 อ.ปราสาท จังหวัดสุรินทร์ ปัจจุบันมีข้าวคงเหลือ 112,711 กระสอบ