NEX เร่งฟื้นความเชื่อมั่น ควัก 300 ล้าน ซื้อหุ้นคืน ยันผู้บริหารยังคงเดิม
NEX เร่งฟื้นความเชื่อมั่น ทยอยควักเงิน 300 ล้านบาท เร่งซื้อหุ้นคืนหลังราคาดิ่งหนัก ย้ำ ผู้บริหารยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ยันตั้งเป้าผลิตรถอีวี 5 พันคัน
นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX กล่าวว่า NEX ถือเป็นบริษัทในกลุ่มบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ซึ่งกรณีภายหลังจากวันที่ 13 พฤษภาคม บริษัทประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/2567 มีกำไรสุทธิ 49.30 ล้านบาท ลดลง 68% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 152.08 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาหุ้น NEX ผันผวนต่อเนื่อง
โดยข้อมูล ณ วันนี้ (20 พฤษภาคม) ราคาหุ้นเคลื่อนไหวที่ 4.56 บาท ลดลง 0.64 บาท หรือลดลง 12.31% จากเมื่อวันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม ราคาหุ้นปิดตลาดที่ 5.20 บาท ลดลง 0.10 บาท หรือผันผวน 1.89%
นายคณิสสร์ กล่าวว่า สาเหตุราคาหุ้นผันผวนอาจมาจากเมื่อประกาศผลประกอบการของบริษัทในไตรมาสที่ 1/2567 ได้สร้างความกังวลต่อผู้ลงทุนในตลาดจากตัวเลขที่ออกมาต่ำกว่าเป้าหมายที่ได้วางไว้ ซึ่งการขายสินค้าลดลงก็เป็นไปตามกระแสของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) พอตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาดการณ์จึงเกิดการ Short Sale หรือการยืมหุ้นมาขายเพื่อลงทุนในทิศทางขาลง เมื่อหุ้นมีการปรับตัวลดลงอย่างเฉียบพลัน พอถึงจุดหนึ่งจะส่งผลกระทบต่อนักลงทุน ยอมรับว่าจากสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นเป็นการผิดพลาดทางเทคนิค แต่ยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อการลงทุนธุรกิจในบริษัท
“อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานของบริษัทค่อนข้างดี ซึ่งช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา มีการตั้งวงเงิน 300 กว่าล้าน ในการทยอยซื้อหุ้น NEX คืนด้วยเช่นกัน สะท้อนว่าบริษัท และผู้บริหารยังมั่นใจในพื้นฐานของธุรกิจ เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่ตั้งวงเงินเพื่อซื้อหุ้นคืน” นายคณิสสร์กล่าว
นายคณิสสร์ กล่าวว่า สำหรับการเรียกความเชื่อมั่นคืนเชื่อว่านักลงทุนแนวปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental) ยังมีความเชื่อมั่นจากที่พิจารณางบลงทุน และการดำเนินงานของบริษัทที่สะท้อน ว่าการดำเนินธุรกิจดีต่อเนื่อง เพียงแต่ว่าบริษัทอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ นักลงทุนจึงอ่อนไหวต่อราคาหุ้นที่ผันผวน เชื่อว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดในระยะสั้นและในระยะยาวจะไม่มีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้เป็นปัญหาด้านลบเกิดขึ้น
นอกจากนี้ การดำเนินงานของธุรกิจตั้งเป้ายอดขายอยู่ที่ 5,556 คัน ในส่วนของไตรมาส 1/2567 มีการส่งมอบยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์อยู่ที่ 591 คัน คิดเป็น 10% ของยอดการส่งรถทั้งหมดที่คาดการณ์ไว้ และมีอัตราส่วนกำไรขั้นต้น (Gross Profit) อยู่ที่ 181 ล้านบาท ยอดขาย 2,487 ล้านบาท คิดเป็น 7% ของตัวเลขยอดขาย ซึ่งต่ำกว่าที่คาดหวังไว้ แต่ทิศทางก็เป็นไปตามอุตสาหกรรมนี้ในเชิงพาณิชย์ เพราะไตรมาส 1 จะเป็นช่วงที่มีการเบิกจ่ายงบประมาณของราชการ ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมา ในไตรมาส 3 และ 4 จะมียอดขายกระตุ้นมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบสถิติปัจจุบันประเทศไทยมีโรงงานรถ 7 โรงงาน โดยที่มีนักลงทุนจากจีนมาตั้ง กำลังการผลิต 7 แสนคันต่อปี คิดเป็นเฉลี่ยแล้ว 1 แสนคันต่อโรงงาน และช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา มีการผลิต 2 แสนกว่าคัน ซึ่งยอดขายตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2567 ขายออกอยู่ที่ 19,000 คัน ซึ่งไม่ถึง 10% แต่เป็นตัวเลขใกล้เคียงที่บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 5,556 คัน และมากกว่าพื้นฐานทั่วไป
“ยืนยันการทำธุรกิจไม่มีประเด็นเรื่องหุ้น NEX และ EA เป็นเหมือนน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเฉียบพลันไม่ถึง 2 วันจากหุ้นถูก Short Sale และนายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) อยู่ต่างประเทศ จึงเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เรายืนยันว่าธุรกิจมีความแข็งแกร่ง เราต้องพยายามสะสมกำลังเก็บหุ้นที่หายไปกลับขึ้นมา และดำเนินธุรกิจต่อมั่นใจในส่วนพื้นฐานบริษัท ผู้นำยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์” นายคณิสสร์กล่าว
นายคณิสสร์ กล่าวว่า ช่วงปลายปี 2567 คาดว่าผลประกอบการจะดีขึ้น โดยตลาดช่วงไตรมาส 3 และ 4 จะมีการจำหน่ายที่มากขึ้น ขณะเดียวกัน มาตรการภาครัฐออกมากระตุ้นการส่งเสริมการใช้รถเชิงพาณิชย์ เช่น ให้หักภาษี 2 เท่าสำหรับรถยนต์ที่ผลิตในไทยโดยที่ไม่มีกำหนดเพดาน ปัจจัยนี้จะสนับสนุนให้กลุ่มบริษัทต่างๆ หันมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น” นายคณิสสร์กล่าว
ทั้งนี้ ผลประกอบการบริษัทไตรมาส 1/2567 มีกำไรสุทธิ 49.30 ล้านบาท ลดลง 68% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 152.08 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมที่ลดลง จากการขายและส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าลดลง ขณะที่รายได้ไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 2,486.50 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนอยู่ที่ 3,210.63 ล้านบาท หรือลดลง 23%
“ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของธุรกิจเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ จำนวน 694.94 ล้านบาท เนื่องจากไตรมาสที่ 1/2567 บริษัทจำหน่ายรถไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ประเภทรถบัส 11 เมตร ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน จำนวน 386 คัน รถรุ่นนี้เป็นรถที่มีมูลค่าสูง ดังนั้น จึงส่งผลโดยตรงต่อรายได้ของกลุ่มกิจการที่ลดลง” นายคณิสสร์กล่าว
นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA กล่าวว่า ช่วงที่เกิดเหตุการณ์นี้ ตนไม่ได้อยู่เมืองไทย อยากจะยืนยันว่า การที่ราคาหุ้นลงคือการเปลี่ยนมือระหว่างผู้ซื้อผู้ขายไม่เกี่ยวกับบริษัท ซึ่งดำเนินธุรกิจทุกอย่างเหมือนเดิม แต่เผอิญมีการ Short Sale ลงมาก็เป็นเรื่องของผู้ถือหุ้น
นายสมโภชน์ กล่าวว่า ส่วนของอีเอยังถือหุ้นอยู่ก็ยังเหมือนเดิม เชื่อว่าที่ทำธุรกิจมาทั้งหมดถูกทาง อุตสาหกรรมรถอีวีมีความพร้อม เร็วบ้างช้าบ้างหากดูผลิตภัณฑ์เน็กซ์เรามีโปรดักส์เยอะไม่ได้ขายเฉพาะลุ่ม และเริ่มต้นการดำเนินงานด้วยการเริ่มใช้งานก่อน เมื่อมีความน่าเชื่อถือลูกค้ามาซื้อกับบริษัทที่มีโรงงานในไทย ระบบการจัดการกระจายทั่วประเทศ รวมถึงสนับสนุนเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งมีระบบการจัดการกระจายทั่วประเทศ
“อีเอยังซัพพอร์ท NEX เหมือนเดิม เพราะเป็นจิกซอร์ที่ยังทำให้อีโคซิสเต็มของอีเอเดินหน้าต่อไป ยืนยันไม่ได้ทะเลาะกัน ที่เกิดเรื่องตนอยู่ต่างประเทศ บริษัทนี้เป็นบริษัทที่เขาสร้างมา ถ้าเขาทำไม่ได้จะหนีไปอยู่เมืองไทยจะลำบาก ทำมาทั้งชีวิตจะมาเสียตอนแก่ก็คงไม่ใช่ เรายืนยันเดินตามนโยบายต่อไป ขณะเดียวกัน ถ้าคณะผู้ถือหุ้นใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงจะมีการปรับนโยบายของโครงสร้างหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ เพราะพันธมิตรที่มียังเยอะอยู่ ส่วนของอีเอก็ถืออยู่ 40% จึงยืนยันว่าไม่เปลี่ยน“ นายสมโภชน์กล่าว