เกษตรกร จี้รัฐตรวจซ้ำ ‘หมูเถื่อน’ ยังตกค้าง กดราคาหมูตกต่ำ

เกษตรกร จี้รัฐตรวจซ้ำ ‘หมูเถื่อน’ ยังตกค้าง กดราคาหมูตกต่ำ

สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ร้องรัฐตรวจสอบหมูเถื่อนซ้ำทั่วประเทศ พร้อมเร่งดำเนินคดี หวั่นยังมีตกค้าง ชี้ยังมีระบายออกสู่ตลาดจำนวนมา กดราคาหมูไทยไม่ผ่านเส้นคุ้มทุน ขณะเกษตรกรยังรับสภาพปัญหาต้นทุนการผลิต ดีดเกษตรกรพ้นอาชีพ

นายสิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวว่า จากการที่สมาคมฯ ได้ร่วมสังเกตการณ์ตรวจสอบตู้คอนเทนเนอร์ตกค้างที่ท่าเรือแหลมฉบัง พร้อมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ และกรมประมง ซึ่งเป็นตู้ตกค้างล็อตที่2พบ “หมูเถื่อน” ซึ่งเป็นชิ้นส่วนแช่แข็ง ทั้งเนื้อหมูสามชั้นและเครื่องใน จำนวน460ตัน และได้ส่งมอบให้กรมปศุสัตว์เพื่อนำของกลางดังกล่าวไปทำลายฝังกลบตามขั้นตอนตามหลักวิชาการ เพื่อป้องกันโรคระบาด เกษตรกร จี้รัฐตรวจซ้ำ ‘หมูเถื่อน’ ยังตกค้าง กดราคาหมูตกต่ำ การเข้าตรวจค้นซ้ำที่ท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อวันที่4มิถุนายน2567เป็นการขยายผลจากการจับกุมหมูเถื่อน161ตู้ เมื่อปลายปี2566ทำให้พบตู้คอนเทนเนอร์ตกค้างอีก92ตู้ ในจำนวนนี้เป็นตู้ต้องสงสัยว่าเป็นหมูเถื่อน16ตู้ และมีการตรวจเพิ่มอีก1ตู้ รวมทั้งหมด17ตู้ ได้ของกลางหมูเถื่อนตามที่คาดการณ์ไว้ โดยในตู้สุดท้ายมีการซุกซ่อนมากับปลาทะเลแช่แข็ง

 

“หมูเถื่อนที่เข้ามาในประเทศไทยแม้จะจับกุมได้น้อยลงแต่ก็ยังวางใจไม่ได้ เพราะราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มยังไม่สามารถปรับขึ้นข้ามเส้นคุ้มทุนไปได้ ซึ่งราคาหน้าฟาร์มขณะนี้อยู่ที่68-74บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ต้นทุนยังสูง80-82บาทต่อกิโลกรัม สวนทางกับการบริโภคของประชาชนที่ยังชะลอตัวตามเศรษฐกิจ” นายสิทธิพันธ์ กล่าว

 

 

 

นอกจากนี้เกษตรกรยังมีความยากลำบากในการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งวัตถุดิบอาหารสัตว์ ค่าไฟฟ้า ค่าพลังงาน และปัจจัยการป้องกันโรค ล้วนทำให้ค่าใช้จ่ายในฟาร์มและต้นทุนการเลี้ยงหมูต่อตัวสูงขึ้น ขณะที่ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์สูงขึ้นเฉลี่ยที่11.20 - 12บาทต่อกิโลกรัม และไม่สามารถหาข้าวโพดได้ เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาอากาศแปรปรวนผลผลิตมีน้อย โดยปกติไทยผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ปีละ5ล้านตัน ขณะที่ความต้องการสูงถึง8ล้านตัน ต้องนำเข้าทดแทนส่วนขาดปีละ3ล้านตัน

เกษตรกร จี้รัฐตรวจซ้ำ ‘หมูเถื่อน’ ยังตกค้าง กดราคาหมูตกต่ำ

ผู้เลี้ยงหมูไทยประสบปัญหาขาดทุนสะสมมานานกว่า1ปี หลังเผชิญวิกฤตราคาหมูตกต่ำในปี2566จากหมูเถื่อนที่ทะลักเข้ามาในประเทศมากกว่า64,000ตัน ต้นทางจากประเทศบราซิลและประเทศทางยุโรปที่มีต้นทุนเฉลี่ยประมาณ40-50บาทต่อกิโลกรัม (ราคาหมูมีชีวิต) ซึ่งต่ำกว่าไทย50%กดดันให้เกษตรกรไทยต้องยอมขายในราคาขาดทุน จนถึงขณะนี้มีเกษตรกรต้องเลิกอาชีพไปแล้วไม่น้อยกว่า50,000ราย

 

เกษตรกร จี้รัฐตรวจซ้ำ ‘หมูเถื่อน’ ยังตกค้าง กดราคาหมูตกต่ำ

นายสิทธิพันธ์ กล่าวว่า อยากขอให้ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตรวจสอบหมูเถื่อนที่ยังตกค้างอยู่ในประเทศทั้งในห้องเย็นและท่าเรือต่างๆ โดยเฉพาะท่าเรือคลองเตย ที่ยังมีตู้คอนเทนเนอร์ตกค้างอีกจำนวนหนึ่ง และเร่งดำเนินคดีกับผู้กระทำตามกฎหมายทุกคน เพราะหมูเถื่อนเป็นปัจจัยทำให้เกิดหมูส่วนเกิน ราคาหมูไทยจึงไม่เป็นไปตามกลไกตลาด เกษตรกรไทยไม่สามารถแข่งขันได้และจนถึงขณะนี้ หมูเถื่อนที่เข้ามานานกว่า1ปี เป็นหมูที่หมดอายุ ไม่เหมาะกับการบริโภค ที่สำคัญไม่ผ่านการตรวจสอบสารตกค้าง สารปนเปื้อน โดยเฉพาะสารเร่งเนื้อแดง ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็ง ทำให้คนไทยอยู่ในภาวะเสี่ยงจึงจำเป็นต้องปราบปรามให้หมดสิ้น เพื่อยกระดับความปลอดภัยทางอาหารของคนไทยและสนับสนุนผู้เลี้ยงหมูไทยมีกำลังใจสานต่ออาชีพเลี้ยงหมูต่อไป