‘กนป.’ชงน้ำมันไบโอดีเซล ‘B10’ แทน ‘B7’ แก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ
กนป.ไฟเขียวใช้ไบโอดีเซล บี10 แทนไบโอดีเซลบี7 เพิ่มปริมาณใช้น้ำมันปาล์มดิบได้ 5 หมื่นตันต่อเดือน หวังเพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มดิบในประเทศ ดันความต้องการในประเทศพุ่ง พร้อมรับข้อเสนอหาตลาดส่งออกไบโอดีเซลเพิ่ม สั่งเข้มสกัดนำเข้าปาล์มจากต่างประเทศ
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นประธานวันนี้ (7 มิ.ย.) มีการเสนอปรับส่วนผสมไบโอดีเซล (บี100) ในน้ำมันดีเซลจากเดิม 7% (บี7) เป็น 10% หรือน้ำมันบี10 เพื่อเพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันไบโอดีเซลบี100 ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาราคาปาล์มตกต่ำในขณะนี้ได้
ทั้งนี้การปรับเพิ่มสัดส่วนการใช้น้ำมันบี100 เพื่อผสมในน้ำมันดีเซลเป็นไบโอดีเซล จาก 7% เป็น 10% จะช่วยเพิ่มปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มดิบ (CPO) เพิ่มได้มากถึงประมาณ 5 หมื่นตันต่อเดือน นอกจากนี้การเปลี่ยนมาผลิตน้ำมันไบโอดีเซลบี10 จะช่วยลดสัดส่วนของปริมาณสต็อกน้ำมันปาล์มในประเทศที่มีอยู่กว่า 2.23 แสนตตัน ซึ่งก็จะส่งผลให้มีความต้องการใช้ผลผลิตน้ำมันปาล์มจากผลปาล์มสดมากขึ้น
ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องไปยังราคาผลปาล์มดิบในประเทศสามารถปรับราคาเพิ่มสูงขึ้นได้ เนื่องจากปัจจุบันสัดส่วนการใช้น้ำมันปาล์มดิบในประเทศในภาคพลังงานมีสัดส่วนสูงถึง 31.09% เป็นอัน 2 รองจากการบริโภคที่มีสัดส่วน 43.54% ขณะที่อีก 27.22% เป็นการส่งออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ
2.ส่งเสริมและผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) และน้ำมันไบโอดีเซล (B 100 ) เพิ่มขึ้น โดยใช้มาตราการ การอุดหนุนการส่งออก และขยายตลาดเพิ่มขึ้นในฝั่งยุโรป
3.การเก็บสต็อกน้ำมันปาล์มดิบเพื่อรักษาสมดุลราคาและเสถียรภาพด้านพลังงานภายในประเทศโดยองค์การคลังสินค้าส่งเสริมและผลักดันการใช้น้ำมันปาล์มดิบในอุตสาหกรรมอื่น นอกเหนือจากอุตสาหกรรมอาหารและพลังงาน เช่น การนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงผลิตไฟฟ้า
และ 4.ป้องกันการนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้านโดยผิดกฎหมายอย่างเคร่งครัด