ทุเรียน ‘เวียดนาม’ ตีตลาดไทย ‘หมอนทอง’ ราคาถูก ขนส่งผ่านเส้นทางกัมพูชา
นักวิชาการอิสระ “อัทธ์ พิศาลวานิช “ชี้ ทุเรียนเวียดนามตีตลาดไทยเพราะราคาถูก กว่า ทุเรียนไทย 150-200 บาท หวั่นอีก 2 ปี กระทบตลาดทุเรียนไทยแน่แนะรัฐบาลเร่งจัดสรรน้ำให้เพียงพอปลูกทุเรียน
นายอัทธ์ พิศาลวานิช นักวิชาการอิสระและผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ที่ปรึกษาบริษัท อินเทลลิเจนท์ รีเสิร์ช คอนซัลแตนท์ (ไออาร์ซี) จำกัด ให้ความเห็นกับ"กรุงเทพธุรกิจ"ถึงโอกาสไทยนำเข้าทุเรียนเวียดนามว่า ภาพรวมการนำเข้าทุเรียนเวียดนามของไทย ตลอดระยะเวลา 27 เดือน ที่ผ่านมา ตั้งปี 2022 ถึง 2024 เดือนล่าสุดคือ มี.ค.2024 ประเทศไทยไม่มีการนำเข้าทุเรียนจากเวียดนาม แต่เป็นการนำเข้าจากอินโดนีเซียมูลค่า 3 พันดอลลาร์เท่านั้น (ที่มา Trade Map)
อย่างไรก็ตาม สมาคมผักและผลไม้เวียดนาม Vietnam Fruit and Vegetable Association (Vinafruit) รายงานเมื่อ พ.ค.2024 ว่า ระหว่างเดือน ม.ค.-เม.ย.2567 หรือ 4 เดือนแรกประเทศไทยนำเข้าทุเรียนเวียดนามมูลค่า 780 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82%
ทั้งนี้ข้อมูลการนำเข้าทุเรียนเวียดนามของไทย ยังมีความไม่สอดคล้องกัน อย่างไรก็ตาม หากไทยมีการนำเข้าทุเรียนเวียดนามตาม Vinafruit แสดงว่ามีการนำเข้าทุเรียนเวียดนามเฉพาะในเดือน เม.ย.2567 เท่านั้น เพราะช่วงเดือน เม.ย.2567 ทุเรียนไทยยังออกสู่ตลาดน้อย
นอกจากนี้ก็มีความเป็นไปได้ที่ไทยจะนำเข้าทุเรียนเวียดนาม เพราะราคาขายปลีกทุเรียนเวียดนาม พันธุ์ Ri6 (หมอนทองเวียดนาม) อยู่ที่ 75,000 – 79,000 ด่องต่อกิโลกรัม (กก.) หรือ 107-112 บาทต่อ กก. ซึ่งถูกกว่าไทยที่มีราคา 150-200 บาท จูงใจให้ผู้ประกอบการนำเข้ามาขาย
โดยเส้นทางทุเรียนเวียดนามเข้ามาไทย เข้ามาทางชายแดนกัมพูชากับเวียดนาม แล้วเข้าสู่จังหวัดไทยในภาคตะวันออก
นายอัทธ์ กล่าวว่า ผลผลิตทุเรียนไทยปี 2567 ลดลงไป 40% ทำให้ความต้องการในตลาดไทยสูง ราคาสูง ราคาขายปลีกทุเรียนเวียดนามที่ทำตลาดในไทยอยู่ที่ 150-200 บาทต่อ กก. (ต่ำราคาทุเรียนไทย) ซึ่งในอนาคต หากสถานการณ์ภัยแล้งไทยรุนแรงขึ้น จะกระทบผลผลิตทุเรียนไทยลดลง มีโอกาสสูงที่ทุเรียนเวียดนามจะเข้ามาขายในประเทศไทยเพิ่มขึ้น
“ในวันนี้การนำเข้าทุเรียนเวียดนาม ไม่มีผลกระทบเพราะ เข้ามา น้อย มาก แต่ในอนาคตในระยะ 2 ปีข้างหน้า มีผลกระทบแน่ หากไทยผลิตลดลง และราคาสูงเกินแพงเวอร์ ซึ่งสิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาเรื่องน้ำเร่งด่วนให้เกษตรกรมีน้ำเพียงพอในการผลิตทุเรียน”นายอัทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ หากไม่มีแผนรองรับจะทำให้ในอนาคตผู้บริโภคจะหันไปกินทุเรียน เวียดนาม เพราะราคาถูกกว่า เหมือนตอนนี้ที่คนไทยซื้อสินค้าจีนราคาถูก และในอนาคตทุเรียนเวียดนาม จะเป็นตัวดึงให้ราคาทุเรียนไทยลดลง