"ภูมิธรรม"เดินหน้าประมูลข้าว10ปี มั่นใจไม่กระทบราคาข้าวในตลาด
“ภูมิธรรม “ เผย เดินหน้าเปิดประมูลข้าว 10 ปีจำนวน 1.5 หมื่นตัน มั่นใจมีผู้สนใจมาประมูลแน่ ลั่นแม้มี รายเดียวก็ขายได้ มีราคากลางใช้ต่อรอง เชื่อไม่กระทบราคาข้าวในตลาด ขณะที่ราคาผลปาล์มรวมถึงสินค้าเกษตรอื่นๆดีขึ้นแล้ว
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการประมูลข้าว 10 ปี ในโครงการรับจำนำของรัฐบาล ในวันที่ 10 มิ.ย. จะมีการเปิดให้ผู้ที่สนใจยื่นซองขอตรวจสอบคุณสมบัติเข้าร่วมการประมูล ว่า ข้าวที่นำมาประมูลในครั้งนี้ตั้งแต่มีการตรวจคุณภาพจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แล้ว ข้าวที่เราขายเป็นข้าวที่เหมาะสมสามารถรับประทานได้เป็นที่ต้องการทั้งในและต่างประเทศ ทุกคนมีความสบายใจที่จะประมูล แต่มีบางคนที่ยังตั้งคำถามมีความสงสัยแบบไม่จบ ทำให้มีความหวั่นไหวไปบ้าง
อย่างไรก็ตามยอมรับว่ากังวลใจกับการท้วงติงที่พูดแบบไม่ยอมจบดราม่าไปเรื่อยวันนี้จะเป็นปัญหา จะทำให้ไม่มาเข้าร่วมประมูลได้ตามที่คาด
ทั้งนี้ขอยืนยันไปยังผู้ประกอบการข้าวทุกคนว่า ข้าวที่กระทรวงขายเป็นข้าวที่มีคุณภาพ สามารถรับประทานได้ ทุกประเทศไม่ว่าจะเป็นประเทศเจริญแล้วหรือประเทศกำลังพัฒนา คิดว่าได้มีการพูดคุยถึงสิ่งดังกล่าวไปมากพอสมควรแล้วสำหรับการประมูล หากเชื่อมั่นในสิ่งต่างๆก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
นายภูมิธรรม กล่าวว่า การประมูลข้าวครั้งนี้ ผู้ประมูลมีตลาดอยู่แล้ว หรือไม่ก็จะนำข้าวที่ประมูลได้ไปทำอะไร ไม่ว่าจะเป็นพลังงานหรือไปผลิตอื่นๆ เขาต้องคิดมาแล้ว ซึ่งต้องรอว่าผู้เข้าประมูลมากี่ราย ต้องดูว่าผู้ประมูลจะมาเท่าไหร่อย่างไร และ ผู้เข้าประมูลเองก็มีตลาดอยู่แล้ว คิดจะเอาไปทำอะไร เชื่อว่าจะมีคนมาประมูล
แต่หากไม่มีผู้มาประมูลก็จะต้องขอดูความเป็นจริงอีกครั้ง เป็นไปได้ที่จะอาจขยายเวลาออกไปทำความเข้าใจให้มากขึ้น หรือหากมีผู้ประมูลน้อยราย หรือ 1 ราย ก็จะต้องมาดูข้อกฎหมายว่าเราจะทำอะไรได้บ้าง มีหลายวิธีขอดูความเป็นจริงก่อน เพื่อทำให้เกิดการประมูลให้ได้
ทั้งนี้หากมีผู้ประมูลรายเดียวก็จะเปิดซอง เจรจาต่อรองราคา เพราะทางคณะกรรมการที่มีการตั้งไว้ มีราคากลางอยู่ในใจว่าข้าวคุณภาพเท่านี้จะได้ราคาเท่าไหร่ในภาวะที่ข้าวกำลังดี แต่ขอดู สถานการณ์วันที่มีการยื่นประมูลก่อน เราทำทุกอย่างอย่างโปร่งใสแล้วมีทุกอย่างตรวจสอบได้
“ยืนยันว่าการประมูลข้าวในครั้งนี้ไม่กระทบกับราคาข้าวในตลาด เพราะเป็นข้าวคนละส่วนกัน ราคาข้าวในตลาดขึ้นอยู่กับระบบอุปสงค์และอุปทาน และข้าวไทยเป็นข้าวที่มีคุณภาพตลาดไหนก็มีความต้องการ ข้าวที่เรานำมาประมูลในครั้งนี้มีเพียง 15,000 ตันและชัดเจนว่าประมูลล็อตนี้ออกไปจะไปอยู่ที่ไหน ปริมาณข้าวในประเทศทั้งหมดเรามีหลายล้านตันไม่คิดว่าจะเป็นประเด็น”นายภูมิธรรม กล่าว
สำหรับข้าวที่นำมาประมูล มีปริมาณ 15,000 ตัน แยกเป็น 1.คลังกิตติชัย หลัง 2 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รวม 26,094 ตัน หรือ 258,106 กระสอบจาก 24 โรงสี และได้ระบายข้าวสารแล้ว 3 ครั้ง คงเหลือ 11,656 ตัน หรือ 112,711 กระสอบ 2.คลัง บจก.พูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 (ข้าวหอมมะลิ 100%) ปริมาณ 9,567 ตัน หรือ 94,637 กระสอบ ซึ่งระบายข้าวสารแล้ว 4 ครั้ง คงเหลือ 3,356 ตัน หรือ 32,879 กระสอบ
สำหรับสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรอื่นเวลานี้ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เรื่องปาล์มสืบเนื่องจากการได้รับผลกระทบมาจากสถานการณ์ภัยแล้งทำให้ปริมาณ ผลผลิตน้อยลง แต่เป็นเพียงช่วงสั้นเวลานี้ฝนเริ่มตกแล้วทำให้ผลผลิตเริ่มมีมากขึ้นไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
โดยที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติได้มีการติดตามสถานการณ์ในส่วนของปัญหาภัยแล้งและมีการกำหนดมาตรการรองรับ ก่อนหน้านี้ได้มีการกำหนดราคารับซื้อเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาด ไม่ให้มีการกดราคาของเกษตรกร ซึ่งเวลานี้ราคาผลปาล์มมีการปรับราคาเพิ่มขึ้นอยู่ที่เฉลี่ยกิโลกรัมละ 4.70 บาทแล้ว โดยผู้ประกอบการจะต้องมีการส่งรายงานสถานการณ์มายังกระทรวงพาณิชย์เป็นประจำทุกวัน
นอกจากนี้ยังมีการพิจารณามาตรการในระยะยาวดูในเรื่องของการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพ ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจะเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องของการดูแลพัฒนาคุณภาพการผลิต สอดรับกับในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่ ต้องดูแลในเรื่องของปริมาณการผลิต
โดยที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติได้มีการแต่งตั้งให้ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ดูแลในพื้นที่ประสานงานกับทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกระทรวงอุตสาหกรรมกระทรวงพาณิชย์ เชื่อว่า สถานการณ์จะคลี่คลายไปได้ แต่หากประชาชน ได้รับผลกระทบจากการรับซื้อที่ไม่เป็นธรรมสามารถร้องเรียนมายังกระทรวงพาณิชย์เพื่อให้เข้าตรวจสอบได้