จับตาประมูลข้าว 10 ปี อาจพลิกโผ หลังประกาศรายชื่อไม่ทัน คาดรู้ผล 24 มิ.ย.นี้

จับตาประมูลข้าว 10 ปี อาจพลิกโผ หลังประกาศรายชื่อไม่ทัน คาดรู้ผล 24 มิ.ย.นี้

วุ่น !!ประมูลข้าว 10 ปี อคส.เลื่อนประกาศผู้ชนะการประมูล   "ภูมิธรรม”รับต้องเคลียร์ปมส่งสัยบริษัท ปี บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด คาดรู้ผลผู้ชนะวันที่ 24 มิ.ย.นี้ ด้านรักษาการผอ.อคส.รับอยู่ในระหว่างการต่อรองราคา

ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า  การประมูลข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลปริมาณ 15,000 ตัน หรือข้าว 10 ปี บริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง จำกัด เป็นผู้เสนอราคาประมูลสูงสุดทั้ง 2 คลัง รวม 286 ล้าน หรือราคาที่ 19.07บาท ต่อกิโลกรัม  เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งคณะทำงานรับ-เปิดซองและต่อรองราคาข้าวในสต๊อกของรัฐ ได้ต่อรองราคา เพื่อให้ได้ราคาประมูลที่สูงขึ้นอีก โดยจะมีการประกาศชื่อบริษัทที่ชนะการประมูล ผ่านเว็บไซต์ อคส. ที่ www.pwo.co.th วันที่ 21 มิ.ย.นี้ แต่ปรากฏว่ายังไม่สามารถประกาศผู้ชนะประมูลได้ เนื่องจากกระบวนการต่อรองราคายังไม่แล้วเสร็จ  โดยบริษัทวีเอทผู้เสนอราคาสูงสุดยังคงยืนราคาประมูลที่ราคาเดิมที่กิโลกรัมละ 19.07 บาท  ขณะเดียวกันก็มีเรียกผู้ค้าข้าวที่ได้อันดับรองลงมาขอเพิ่มราคาด้วยเช่นกัน คาดว่าวันนี้ไม่สามารถประกาศผู้ชนะประมูลได้ทัน

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า  ตามกำหนดการต้องประกาศผลในวันที่ 21 มิ.ย.2567 แต่สังคมมีข้อสงสัยหลายประเด็นเกี่ยวข้องกับการประมูลครั้งนี้ ทั้งว่ามีการจัดฉาก สร้างนอมินีหรือไม่ และยังมีสื่อมวลชนสงสัยว่าบริษัทที่ประมูล มีการจดทะเบียนเมื่อ ปี 2564 ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท

แต่การทำธุรกิจมีเงินหมุนเวียนแค่ 1 ล้านบาท สังคมก็เลยสงสัยว่าเงินจดทะเบียนเท่านี้ และงบดุล 1 ล้านบาท จะมีศักยภาพเพียงพอมาประมูลข้าว 285 ล้านบาทจริงหรือไม่ จึงต้องตรวจสอบให้ชัดเจน ทำให้โปรงใสและสิ้นความคลางแคลงใจของสังคม

จับตาประมูลข้าว 10 ปี อาจพลิกโผ หลังประกาศรายชื่อไม่ทัน คาดรู้ผล 24 มิ.ย.นี้

“วันนี้ครบกำหนด ได้รับรายงานจากองค์การคลังสินค้าเบื้องต้นว่าได้ตรวจสอบและกำลังดำเนินการเรื่องนี้ โดยจะมีผลสรุปอย่างช้า คือ วันจันทร์ 24 มิ.ย. ที่จะถึงนี้ เพราะกำลังนำข้อสงสัยกับข้อสังเกตไปตรวจสอบว่าจริงเท็จเป็นอย่างไร โดยต้องการให้การประมูลข้าวครั้งนี้จบลงอย่างสง่างาม โปร่งใส ตรวจสอบได้”

เมื่อถามว่า หากไม่ได้บริษัทที่ 1 จะเรียกลำดับถัดไปเข้ามาแทนไหม นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่าทีโออาร์เขียนแบบนี้หรือเปล่า แต่เข้าใจว่าน่าจะเรียกลำดับที่ 2 มาเจรจา แต่ต้องเคลียร์อันดับที่ 1 ให้ชัดเจนเรียบร้อยก่อน ถ้าลำดับที่ 2 ไม่ได้ ก็ต้องไปลำดับที่ 3 เพื่อเปิดทางให้มีการแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้น ไม่ต้องประมูลใหม่หลายรอบ ถ้า 3 บริษัท ยังไม่สามารถยุติได้ ไม่ได้ราคาที่เหมาะสม ก็ต้องเปิดประมูลใหม่ ต้องอยู่ที่ความเป็นจริง คณะกรรมการจะเป็นคนพิจารณา และเสนอมา ต้องดูความเป็นจริง อย่าไปคาดการณ์

นายกฤษณรักษ์ ใจดี รักษาการผู้อำนวยองค์การคลังสินค้า หรือ อคส. กล่าวว่า คณะทำงานรับ-เปิดซองและต่อรองราคาข้าวในสต๊อกของรัฐ ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาต่อรองราคาเพิ่มเติม เมื่อถามว่า วันนี้(21มิ.ย.)จะสามารถประกาศผลผู้ชนะประมูลข้าวล็อตนี้ทันในวันนี้หรือไม่ นายกฤษณรักษ์ สีหน้าที่เคร่งเครียด ตอบเพียงสั้นๆ ว่าคณะทำงานอยู่ระหว่างพิจารณา

ด้านนายศุภชัย วรอภิญญาภรณ์ประธานกรรมการ บริษัท ธนสรร ไรซ์จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่เสนอราคา รองลงมา กล่าวว่า ได้รับการประสานจากองค์การคลังสินค้า เพื่อให้มาเจรจาต่อรองราคาเพิ่มในวันนี้และได้เสนอเพิ่มราคาไปแล้ว แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเพิ่มเท่าไหร่ ต้องรอประกาศอย่างเป็นทางการ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่า อคส. จะยังไม่สามารถประกาศ รายชื่อผู้ชนะการประมูลได้ ภายในวันนี้ตามที่ TOR กำหนด แต่ไม่ถือว่าเป็นการผิดเงื่อนไข ในการประมูลแต่อย่างใด เพราะตามมติของคณะกรรมการนโยบายบริหารจัดการข้าว หรือ นบข. มีการกำหนดไว้ว่ากระบวนการสำหรับการประมูลข้าวล็อตดังกล่าว จะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนก.ย. 2567 ซึ่งยังถือว่ามีเวลา

ขณะที่เจ้าหน้าที่ อคส.ให้ข้อมูลว่า หากคณะทำงานเห็น ขั้นตอนต่อไปต้องทำบันทึกเสนอ ผอ.อคส.พิจารณาอนุมัติจากนั้น   และส่งให้เจ้าหน้าที่ออกประกาศ และต้องเสนอลงนามอีกครั้ง   ขั้นตอนใช้เวลา 1 วัน แต่คาดว่าวันนี้ไม่น่าจะทัน

แหล่งข่าวจากบริษัทที่เข้าร่วมประมูลข้าว กล่าวว่า   เมื่อวันที่ 20 มิ.ย.คณะทำงานฯได้มีการเรียกบริษัท วีเอท อินเตอร์เทรดดิ้ง ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ที่เสนอซื้อข้าวในสต็อกรัฐราคาสูงสุด ที่กิโลกรัมละ 19.07 บาท มาเจรจาต่อรองราคาเพิ่ม โดยวีเอท เสนอเพิ่มราคาให้คลังละ 10,000 บาท รวม 2 คลัง 20,000 บาท

โดยบริษัท วีเอท ได้แจ้งกับคณะกรรมการไปแล้ว ยังคงยืนราคาเดิมที่ประมูลได้ยืนยันว่าบริษัทมีศักยภาพในการดำเนินการเพราะเป็นบริษัทในเครือของสวัสดิ์ไพบูลย์ที่เป็นค้าสินค้าเกษตรรายใหญ่ และพร้อมทำสัญญาและชำระค่าสินค้า

ส่วนกรณีที่ อคส. เรียกรายอื่นมาเจรจาต่อรองขอเพิ่มราคาขึ้นนั้น ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อรัฐและพร้อมถอย แต่สำหรับราคาที่จะเพิ่มขึ้นก็ควรเป็นราคาที่สูงกว่าที่วีเอทเสนออย่างน้อยกิโลกรัมละ 1 บาท เพื่อให้รัฐได้ประโยชย์สูงสุดไม่ใช่ราคาที่แตกต่างกันไม่มาก