ทอท.ปรับโฉมสุวรรณภูมิ - ภูเก็ต หลังเรียกคืนพื้นที่ ‘คิงเพาเวอร์’

ทอท.ปรับโฉมสุวรรณภูมิ - ภูเก็ต หลังเรียกคืนพื้นที่ ‘คิงเพาเวอร์’

เปิดแผนพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิ - ภูเก็ต หลัง ทอท.เรียกคืนพื้นที่ “คิงเพาเวอร์” เดินหน้าปั้นโซนเอนเตอร์เทนเมนท์ เสิร์ฟบริการผู้โดยสาร คาดแล้วเสร็จรองรับทันไฮซีซั่นสิ้นปีนี้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้ทำหนังสือรายงานไปยังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) เรื่องการขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการของผู้ประกอบการ และพื้นที่ปฏิบัติงานของส่วนราชการบางส่วนภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานต่างๆ เพิ่มเติมตามมาตรฐานการดำเนินกิจการท่าอากาศยานสมัยใหม่ โดยจะขอคืนพื้นที่จาก บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด ผู้ประกอบกิจการร้านค้าปลอดภาษี (ดิวตี้ฟรี) และพื้นที่ปฏิบัติงานบางส่วนจากหน่วยราชการ อาทิ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรมศุลกากร และกรมสรรพากร มีผลในวันที่ 1 ก.ค.นี้ เป็นต้นไป

สำหรับการขอคืนพื้นที่ดังกล่าว หากนับเฉพาะส่วนของเอกชนคู่สัญญาร้านค้าดิวตี้ฟรี “คิงเพาเวอร์” พบว่ามีการเรียกคืนรวมประมาณ 1,400 ตารางเมตร แบ่งเป็น

ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 1,000 ตารางเมตร 

ส่งผลให้พื้นที่ดิวตี้ฟรีถูกปรับลดลงจากตอนที่ยื่นประมูลมีพื้นที่ 12,000 ตารางเมตร ครั้งนี้ ทอท.เรียกคืนพื้นที่  1,000 ตารางเมตร คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 7% ทำให้เงื่อนไขที่คิงเพาเวอร์ต้องชำระส่วนแบ่งค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำที่ประมาณ 234 บาทต่อผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นับตั้งแต่เดือน พ.ย.2567 เป็นต้นไป จะปรับลดลงเหลือ 218 บาทต่อผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ

ท่าอากาศยานภูเก็ต 400 ตารางเมตร

ส่งผลให้พื้นที่ดิวตี้ฟรีถูกปรับลดลงจากตอนที่ยื่นประมูลมีจำนวนประมาณ 2,500 ตารางเมตร การเรียกคืนอยู่ที่ประมาณ 400 ตารางเมตร หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 17% ส่งผลให้เงื่อนไขเดิมที่คิงเพาเวอร์ต้องชำระส่วนแบ่งค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำจะลดลงจากเดิม 127 บาทต่อผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ โดยนับตั้งแต่เดือน พ.ย.2567 เป็นต้นไป จะปรับลดเหลือ 105 บาทต่อผู้โดยสารระหว่างประเทศ

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า การขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการของผู้ประกอบการ และพื้นที่ปฏิบัติงานของส่วนราชการบางส่วนของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานภูเก็ต เป็นการดำเนินงานตามข้อแนะนำของ Skytrax เพื่อนำพื้นที่ดังกล่าวมาพัฒนาบริการแก่ผู้โดยสาร อำนวยความสะดวกในการใช้ท่าอากาศยานมากขึ้น

อย่างไรก็ดี ยืนยันว่าการขอคืนพื้นที่ครั้งนี้ ไม่กระทบต่อสัญญาสัมปทานบริหารพื้นที่ โดยเฉพาะสัญญากับคิง เพาเวอร์ เนื่องจากมีเงื่อนไขระบุไว้แล้วว่า ทอท.สามารถขอคืนพื้นที่เพื่อนำไปพัฒนาประโยชน์สาธารณะได้ ไม่ผิดเงื่อนไขสัญญา และไม่ต้องเยียวยาเอกชน

ส่วนการลดขนาดพื้นที่ ยอมรับว่าทำให้รายได้ของ ทอท.ลดลง แต่ประเมินว่าจะปรับลดลงในจำนวนไม่มาก ประมาณ 90 ล้านบาทต่อเดือน หรือคิดเป็น 1% ของรายได้ทั้งหมด และปรับลดในช่วงปี 2567 – 2568 เพราะหากจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น รายได้ส่วนนี้ก็จะถูกชดเชยกลับเป็นปกติ เนื่องจาก ทอท.จะได้รับค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนเพิ่มขึ้นตามปริมาณผู้โดยสาร

ทั้งนี้ การเรียกคืนพื้นที่ภายในท่าอากาศยาน ทอท.มีแผนเพื่อพัฒนาพื้นที่บริการผู้โดยสารให้ตอบโจทย์ต่อการใช้บริการในปัจจุบัน ซึ่งต้องการมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ตอบสนองด้านไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายมากขี้น โดยเฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทอท.มีแผนพัฒนาสู่ “Suvarnabhumi Airport Passenger Experience Enhancement” มีแผนดำเนินการ อาทิ 

- ปรับปรุงพื้นที่บริเวณชั้น 3 SAT-1 ประมาณ 400 ตารางเมตร เป็นพื้นที่ Game Zone , Kid Zone และ Relaxing / Piono Lounge 

- ปรับปรุงพื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 3 SAT-1 ประมาณ 150 ตารางเมตรเป็น Seating & Co-Working Space

โดย ทอท.กำหนดไทม์ไลน์ดำเนินการ ดังนี้

  • ก.ค.2567 ขอคืนพื้นที่ล่วงหน้า 30 วันตามข้อกำหนดในสัญญา ซึ่งจะดำเนินการออกแบบรายละเอียดพื้นที่ควบคู่ด้วย
  • ส.ค. - ต.ค.2567 จัดหาผู้ดำเนินการและเข้าพื้นที่
  • ต.ค. - พ.ย. 2567 ดำเนินการปรับปรุงพื้นที่

อย่างไรก็ดี แผนดำเนินการนี้ ทอท.มีเป้าหมายเร่งรัดให้แล้วเสร็จทันตารางบินฤดูหนาวปี 2567 ซึ่งเป็นช่วงฤดูการท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) เพื่อรองรับบริการผู้โดยสาร 

นอกจากนี้ ทอท.ยังอยู่ระหว่างการศึกษาพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อตอบรับต่อไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของผู้โดยสาร ผลักดันให้ท่าอากาศยานเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ผู้โดยสารต้องการเดินทางมาใช้บริการมากกว่าการเป็นประตูเชื่อมต่อการเดินทาง อีกทั้งยังเชื่อว่าการพัฒนาพื้นที่เอนเตอร์เทนเมนต์ต่างๆ จะทำให้ผู้โดยสารใช้เวลาภายในท่าอากาศยานมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันท่าอากาศยานหลายแห่งทั่วโลกนิยมพัฒนาพื้นที่และบริการในลักษณะนี้ 

โดยเบื้องต้น ทอท.มีแผนจะพัฒนาพื้นที่ส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารหลักด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่มีพื้นที่รวมประมาณ 60,000 ตารางเมตร จัดทำพื้นที่ “Bangkok Food Street” โดยการนำร้านอาหาร ชื่อดังของกรุงเทพฯ มาเปิดให้บริการ รวมไปถึงการพัฒนาพื้นที่สำหรับเด็ก ร้านนวดแผนไทย และโรงแรมแบบเดย์รูม ทั้งรายวันและรายชั่วโมง คาดว่าจะได้เห็นภาพดังกล่าวภายในปี 2570