ครม.ไฟเขียวเพิ่มงบฯ67 1.2 แสนล้าน - งบฯกลาง 5.3 หมื่นล้าน ลุยดิจิทัลวอลเล็ต
ครม. ไฟเขียวร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท หลังกฤษฎีกาตรวจสอบแล้ว เตรียมเสนอเข้าสู่วาระ 1 สภาสัปดาห์หน้า พร้อมตั้ง กมธ. 32 คนพิจารณางบประมาณ “เผ่าภูมิ” เผยงบฯกลาง 5.3 หมื่นล้านมีความพร้อม แย้มขอดูจำนวนคนลงทะเบียน
นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. (9 กรกฎาคม 2567) มีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว พร้อมเอกสารประกอบงบประมาณ และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ตามที่สำนักงบประมาณ (สงป.)เสนอ และมีมติเห็นชอบให้กำหนดจำนวนคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. .... จำนวน 32 ท่าน
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า สงป. เสนอว่า ครม. ได้มีมติ (2 กรกฎาคม 2567) รับทราบผลการรับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. .... และให้ความเห็นชอบข้อเสนอร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. .... และให้ สงป. ดำเนินการจัดพิมพ์ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. .... และเอกสารประกอบงบประมาณ เพื่อนำเสนอ ครม. ในวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ และนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
เพื่อดำเนินการตามนัย ครม. ดังกล่าว สงป. ได้ดำเนินการ ดังนี้
- เผยแพร่รายงานสรุปผลการรับฟังความคิดเห็นในการจัดทำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. .... ผ่านทางเว็บไซต์ของ สงป. เรียบร้อยแล้ว
- สงป. จัดพิมพ์ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. .... และเอกสารประกอบงบประมาณ รวม 3 เล่ม เรียบร้อยแล้ว
ชงงบฯเพิ่มเติมเข้าสภาฯสัปดาห์หน้า
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 เป็นจำนวนไม่เกิน 122,000 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ โดยประมาณการเงินที่พึงได้มาสำหรับจ่ายตามงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จากภาษีและรายได้อื่นโดยเป็นแหล่งเงินจากการจัดเก็บรายได้ที่เดิมไม่ได้กำหนดไว้ในประมาณการจำนวน 10,000 ล้านบาท และเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ จำนวน 112,000 ล้านบาท จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติมาเพื่อดำเนินการ
โดยที่ประชุม ครม. ยังได้มีมติเห็นชอบให้กำหนดจำนวนคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. .... จำนวน 32 ท่าน
ทั้งนี้ สงป. พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อให้การร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. .... แล้วเสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด จึงเห็นสมควรเสนอการกำหนดจำนวนกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พ.ศ. .... จำนวน 32 ท่าน โดยที่ประชุม ครม. ได้มีมติเห็นชอบ และให้นำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
คลังแจกงบกลางฯ5.3 หมื่นล้านพร้อม
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงวงเงินของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในส่วนปีงบประมาณ 2567 ที่มีส่วนที่ต้องใช้งบกลางฯเพิ่มเติมอีกประมาณ 5.3 หมื่นล้านบาท ต้องมีการดูแลและบริหารจัดการ ในส่วนที่เพิ่มเติมจาก 122,000 ล้านบาท ทุกอย่างอยู่ในกระบวนการ
ส่วนกระบวนการในการสอบธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ หรือธกส. นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ยังอยู่ในกระบวนการและพิจารณาถึงงบประมาณ ขอให้รอวันที่ 24 ก.ค.จะชัดเจน
“ยังมีงบกลางเหลือเกินกว่าที่ต้องการ ยืนยันว่างบในส่วนนี้วันที่ 24 ก.ค. นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการแถลงข่าวความชัดเจน รวมถึงการยืนยันตัวตน และการลงทะเบียน ซึ่งมองว่าเป็นกระบวนการที่รวดเร็ว ไม่ล่าช้าเกินไป และเมื่อมีการลงทะเบียน และยืนยันตัวตนจะทราบจำนวนที่แท้จริงของผู้มีสิทธิ ซึ่งจำนวนผู้มีสิทธิ์จะสะท้อนไปยังงบประมาณที่ใช้เพื่อนำไปบริหารจัดการต่อ”
เมื่อถามว่ารัฐบาลจะต้องทราบจำนวนคนที่มีสิทธิค่อยมาดูเรื่องงบใช่หรือไม่ นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ไม่จริง เรื่องงบได้มีการจัดสรรไว้แล้ว เป็นสองเรื่องที่แยกกันแต่มีความผูกกันในมิติของการใช้เงิน เพราะฉะนั้นตัวเลขของการยืนยันตัวตน จะบอกว่างบประมาณในส่วนที่เพิ่มเติมปี 2567 และงบปี 2568 ที่ขาดดุลในส่วนที่ขาดดุลจะต้องมีการใช้เท่าไหร่บ้าง
นายเผ่าภูมิ ยังฝากถึงประชาชน หลังมีกรณีหลอกลวงให้ประชาชนลงทะเบียนเช็คสิทธิ์ในโครงการดังกล่าว นายเผ่าภูมิ ย้ำว่า ณ วันนี้ยังไม่มีการเปิดให้ยืนยันตัวตน ขอให้รอวันที่ 24 ก.ค.ถึงขั้นตอน การยืนยันตัวตนเมื่อไหร่อย่างไร และใช้แอพพลิเคชั่นไหน รวมถึงต้องใช้หลักฐานอะไรบ้างในการยืนยันตัวตน ทั้งหมดจะชัดเจนในวันนั้น
ส่วนกรณีที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาสะท้อนสภาพเศรษฐกิจ ว่าจะต้องแก้ที่โครงสร้างหนี้ การแจกเงินประชาชนไม่ได้ช่วย นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า มีการพูดคุยกันนอกรอบ ยืนยันว่า รัฐบาลทำในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานมากมาย ตามนโยบาย IGNITE Thailand ซึ่งเกี่ยวข้องกับการปรับโครงสร้าง เพราะฉะนั้นที่กล่าวหาว่ารัฐบาลละเลยตรงข้ามกับข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง ย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้าง แต่กระนั้นต้องทำควบคู่กับกำลังซื้อที่มีของประชาชน ทั้งสองเรื่องนี้ต้องทำควบคู่กัน รัฐบาลเติมเงินเพราะฉะนั้นการที่รัฐบาลเติมเงินให้กับประชาชน ประชาชนและการทำให้ประชาชนมีกำลังซื้อ ทั้งระยะสั้นและระยะกลางถือว่ามีความจำเป็นต่อการปรับโครงสร้าง / ส่วนจะมีการส่งคำชี้แจงไปยัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ด้วยหรือไม่นั้น นายเผ่าภูมิกล่าวว่า ปกติมีการหารือกันอยู่เรื่อยๆ ความเห็นที่ยังไม่ตรงกันก็มีการคุยกัน
ส่วนเรื่องหวยเกษียณวันนี้ไม่มีการพูดคุยในที่ประชุม ครม.ในวันนี้ ซึ่งในตอนแรกจะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ แต่เนื่องจากได้รับความคิดเห็นจากหน่วยงานไม่ครบถ้วน และต้องรอความเห็นอีก 3 หน่วยงาน ย้ำว่าเป็นไปตามกระบวนการราชการ และกำลังเร่งรัดอยู่ ซึ่งต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีภายในสัปดาห์หน้า (16 ก.ค.67)ให้ได้