ลดกำลังการผลิตสุกรลงอีก ให้สอดคล้องกับความต้องการตลาด

ลดกำลังการผลิตสุกรลงอีก ให้สอดคล้องกับความต้องการตลาด

Pig Board เห็นชอบ (ร่าง) โครงการรักษาเสถียรภาพราคาสุกรเพิ่มเติม ตั้งเป้าหมายปรับลดกำลังการผลิตในระดับต้นน้ำ เพื่อรักษาสมดุลทางการตลาด รวม 78,571 ตัว ในฟาร์มสุกรรายใหญ่ที่มีแม่พันธุ์สุกรมากกว่า 1,000 ตัวขึ้นไป

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์ (Pig Board) ครั้งที่ 2/2567 ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบ (ร่าง) โครงการรักษาเสถียรภาพราคาสุกรที่จะดำเนินการเพิ่มเติม โดยมีแนวทางการปรับลดกำลังการผลิตในระดับต้นน้ำ คือ การปรับลดปริมาณแม่พันธุ์สุกรภายในประเทศให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด 

ลดกำลังการผลิตสุกรลงอีก ให้สอดคล้องกับความต้องการตลาด ลดกำลังการผลิตสุกรลงอีก ให้สอดคล้องกับความต้องการตลาด

 มีเป้าหมายสำคัญคือการปรับลดแม่พันธุ์สุกรจำนวน 78,571 ตัว ในฟาร์มสุกรรายใหญ่ที่มีแม่พันธุ์สุกรมากกว่า 1,000 ตัวขึ้นไป จำนวน 230 แห่ง เพื่อรักษาสมดุลทางการตลาดและแก้ไขปัญหาการขาดทุนของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร

“การรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร เป็นหนึ่งในภารกิจที่กระทรวงเกษตรฯ ให้ความสำคัญในการศึกษาหาแนวทางการรักษาสมดุลราคาของปัจจัยทางการผลิตทั้งระบบ เนื่องจากทุกปัจจัยล้วนมีความเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน รวมถึงการผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรไทยสู่ตลาดต่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่เกษตรกรด้านการค้าด้วย”

สำหรับผลการดำเนินโครงการรักษาเสถียรภาพราคาสุกร โดยการตัดวงจรลูกสุกรทำหมูหัน ปี 2567 (ข้อมูล ณ วันที่ 5 ก.ค. 2567) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมปศุสัตว์ ได้ดำเนินการขอความร่วมมือผู้ประกอบการฟาร์มสุกรรายใหญ่ ในการเข้าร่วมโครงการเพื่อเป็นการรักษาเสถียรภาพราคาสุกร ลดปริมาณอุปทานส่วนเกินออกจากระบบ พบว่า

ลดกำลังการผลิตสุกรลงอีก ให้สอดคล้องกับความต้องการตลาด

มีผู้ประกอบการแจ้งความประสงค์เข้าร่วมโครงการจำนวน 20 ราย เป้าหมายรวม 81,885 ตัว และดำเนินการทำหมูหันแล้วจำนวน 5 ราย รวม 11,698 ตัว ทั้งนี้ ยังได้ดำเนินมาตรการและกิจกรรมการเฝ้าระวังโรคระบาดในสุกรทั้งเชิงรุกและเชิงรับอย่างต่อเนื่อง พร้อมขยายผลสู่เกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรปลอดโรค เพื่อสร้างความมั่นใจในกลุ่มประเทศคู่ค้าอีกด้วย

 

สำหรับการเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดโรคระบาดในสุกร ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการเกิดผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรโดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรรายย่อยต่อไป