‘บีโอไอ’ ร่วมพันธมิตรจัด THECA 2024 หนุนไทยฮับอุตอิเล็กทรอนิกส์
บีโอไอลุยจับมือหน่วยงานพันธมิตร จัดงาน THECA 2024 ตอกย้ำเทรนด์อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าเติบโต หลังคำขอส่งเสริมการลงทุนปี 66 พุ่ง 334,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5 เท่า ดันเป้าหมายไทยเป็นฐานผลิตระดับโลก
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยว่า ด้วยกระแสการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภูมิศาสตร์เศรษฐกิจของโลก ทำให้เกิดการโยกย้ายฐานการผลิตครั้งใหญ่ในหลายอุตสาหกรรมเข้าสู่ประเทศไทย โดยเฉพาะกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ และแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB) เนื่องจากศักยภาพและความพร้อมในด้านต่างๆ ของไทย ไม่ว่าจะเป็นด้านโครงสร้างพื้นฐานบุคลากรทักษะสูง และห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งทำให้ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นจุดหมายของการลงทุน
โดยที่ผ่านมาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยอย่างมาก เป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1 มีสัดส่วนถึง 1 ใน 4 ของการส่งออกทั้งประเทศ และเป็นอุตสาหกรรมที่ดึงดูดการลงทุนจำนวนมาก โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมนี้กว่า 535,000 ล้านบาทเฉพาะในปี 2566 มีมูลค่าคำขอสูงถึง 334,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2565 และคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40 ของคำขอรับการส่งเสริมทั้งหมด
โดยหากพิจารณาเฉพาะกลุ่ม PCB และ PCBA จะเห็นว่าการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากมูลค่า 15,600 ล้านบาท ในปี 2564 และ 15,900 ล้านบาท ในปี 2565 เพิ่มเป็น 100,860 ล้านบาทในปี 2566 และยังเติบโตต่อเนื่องในปี 2567 โดยในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2567 มีคำขอรับการส่งเสริม PCB และ PCBA จำนวน 27 โครงการ มูลค่ารวม 36,044 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของบริษัทชั้นนำจากจีน ไต้หวันญี่ปุ่น และฮ่องกง
ขณะนี้จึงเป็นห้วงเวลาสำคัญของการสร้างฐานการผลิตอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้ง PCB และ PCBA ในประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน บีโอไอจึงได้ปรับปรุงมาตรการส่งเสริมการลงทุน โดยขยายขอบเขตการส่งเสริมกลุ่มอุตสาหกรรม PCB แบบครบวงจร ครอบคลุมทั้ง Supply Chain รวมถึงการผนึกกำลังกับภาคเอกชน เพื่อสร้างการเชื่อมโยงภายในอุตสาหกรรม และสร้างโอกาสทางธุรกิจสำหรับผู้ประกอบการไทยในการผลิตชิ้นส่วนและวัตถุดิบส่งให้กับบริษัทผู้ผลิต PCB
อย่างไรก็ดี จึงมีการจัดงาน THECA ในครั้งนี้ ถือเป็นเวทีสำคัญสำหรับการพบปะระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายในอุตสาหกรรม PCB เกิดการสร้างเครือข่ายของผู้ประกอบการและการเจรจาต่อยอดธุรกิจ ซึ่งจะนำไปสู่การซื้อขายชิ้นส่วน การว่าจ้างผลิตและบริการ รวมถึงการร่วมทุนระหว่างบริษัทไทยและต่างชาติ โดยบีโอไอจัดให้มีกิจกรรม Business Matching ซึ่งคาดว่าจะมีการจับคู่เจรจาธุรกิจกว่า 1,000 คู่ และมีมูลค่าซื้อขายที่จะเกิดขึ้นกว่า 20,000 ล้านบาท โดยงานนี้จะช่วยสร้างความเข้มแข็งของ Supply Chain ในอุตสาหกรรม PCB ไทย
ด้านนายพิธาน องค์โฆษิต นายกสมาคมแผ่นวงจรพิมพ์ไทย กล่าวว่า การได้รับสนับสนุนจากบีโอไอ ทำให้ประเทศไทยได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการทั่วโลกสนใจปัจจุบัน แผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ของไทยมีส่วนแบ่งการตลาด หรือ Market Share อยู่ที่ประมาณ 4% แต่หากมีการเปิดโรงงานจากผู้ลงทุนในโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจาก BOI อีก 50 โรงงาน จะทำให้ Market Share ของไทยเติบโตได้ถึง 10% เป็นอันดับที่ 4 ของโลก รองจากจีนเกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งจะส่งผลดีหลายด้านต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสร้างอาชีพและการจ้างงานภายในประเทศที่จะเพิ่มสูงขึ้น 50,000-80,000 ตำแหน่งงาน