"รสชาติ-ราคา" ความท้าทาย"เทรนด์อาหารแห่งอนาคต"

"รสชาติ-ราคา" ความท้าทาย"เทรนด์อาหารแห่งอนาคต"

4 เดือนแรกปี 2567 ไทยส่งออกสินค้าอาหารแห่งอนาคต มูลค่า 1,437.26 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 11.0 %  แม้กระแส “อาหารแห่งอนาคต” จะดีต่อเนื่อง แต่ต้องเจอโจทย์ใหญ่ คือ “และราคา” ที่ทำให้“อาหารแห่งอนาคต”ไปต่อหรือหยุดแค่นี้

KEY

POINTS

Key Point

  • ปี 2566 ไทยส่งออกสินค้าอาหารแห่งอนาคต คิดเป็นมูลค่า 4,107.72 ล้านดอลลาร์  ขยายตัว 1.1 %
  • ตลาดส่งออกสำคัญของไทย  5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐฯ เวียดนาม  จีน  เมียนมา และกัมพูชา
  • โจทย์ใหญ่อาหารแห่งอนาคต “รสชาติ-ราคา”

"อาหารแห่งอนาคต" หรือ "Future Food" กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในยุคนี้ โดยเฉพาะคนที่รักสุขภาพซึ่งผลิตจากแหล่งโปรตีนพืชและถูกนำมาใช้เป็นอาหารทดแทนเนื้อสัตว์ โดยสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ได้กำหนด นิยาม”อาหารอนาคตไทย (Future Food) “ว่าเป็นอาหารที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ตอบสนองวิถีชีวิตของคนในโลกยุคใหม่ มีกระบวนการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีนวัตกรรมตอบโจทย์ความยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม  ซึ่งไทยถือเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่ 25 ของโลก

ในปี 2566 ไทยส่งออกสินค้าอาหารแห่งอนาคต คิดเป็นมูลค่า 4,107.72 ล้านดอลลาร์  ขยายตัว 1.1 %  จากปีก่อนหน้า เป็นสินค้าอาหารฟังก์ชันและสารประกอบเชิงฟังก์ชันมากที่สุด 3,684.50 ล้าน สัดส่วน  89.7%  ของการส่งออกอาหารแห่งอนาคตทั้งหมด รองลงมา ได้แก่ อาหารทางการแพทย์และอาหารเฉพาะบุคคล 183.73 ล้านดอลลาร์  สัดส่วน 4.5 %  โปรตีนทางเลือก 182.81 ล้านดอลลาร์ สัดส่วน 4.5%    และอาหารอินทรีย์ 56.68 ล้านดอลลาร์  สัดส่วน 1.4%  

ตลาดส่งออกสำคัญของไทย  5 อันดับแรก ได้แก่ สหรัฐฯ สัดส่วน 13.8% เวียดนาม 10.7% จีน 10.3% เมียนมา 7.8%และกัมพูชา 7.5%

\"รสชาติ-ราคา\" ความท้าทาย\"เทรนด์อาหารแห่งอนาคต\"

สำหรับ  4 เดือนแรก ปี 2567 (ม.ค. – เม.ย.) ไทยส่งออกสินค้าอาหารแห่งอนาคต มูลค่า 1,437.26 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 11.0 %   จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยยังคงส่งออกอาหารฟังก์ชันและสารประกอบเชิงฟังก์ชันมากที่สุด 1,305.35 ล้านดอลลาร์  อาหารทางการแพทย์และอาหารเฉพาะบุคคล  62.45 ล้านดอลลาร์ โปรตีนทางเลือก 56.67 ล้านดอลลาร์และอาหารอินทรีย์ 12.79 ล้านดอลลาร์

“พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ “ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)กล่าวว่า  อาหารแห่งอนาคตออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1. อาหารฟังก์ชัน (Functional food) และสารประกอบเชิงฟังก์ชัน (Functional ingredients) 2. อาหารทางการแพทย์ (Medical food) และอาหารเฉพาะบุคคล (Personalized food) 3. อาหารอินทรีย์ (Organic) และ 4. อาหารโปรตีนทางเลือก (Alternative protein)

โดยสินค้าอาหารแห่งอนาคต ที่จะมีส่วนช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตร รวมถึงต่อยอดจุดแข็งของไทย ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกอาหารที่สำคัญของโลก โดยข้อมูลการค้าที่เกี่ยวข้องกับสินค้าอาหารแห่งอนาคตถือเป็นเครื่องมือและกลไกสำคัญที่จะช่วยให้ผู้ประกอบการและภาคธุรกิจใช้ในการตัดสินใจ กำหนดทิศทางและกลยุทธ์ของธุรกิจ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐสามารถใช้

“วิศิษฐ์ ลิ้มลือชา” นายกสมาคมการค้าอาหารอนาคตไทย กล่าวว่า ปัจจุบันคนเริ่มกลับมาใส่ใจกับอาหารสุขภาพมากขึ้น อาหารแห่งอนาคตจึงเป็นทางเลือกสำคัญของคนรักสุขภาพ เพราะมีความปลอดภัย  และเป็นอาหารที่มีนวัตกรรมดีต่อสิ่งแวดล้อม

อย่างไรก็ตามความท้าทายของอาหารแห่งอนาคตก็คือ” ความอร่อยหรือรสชาติ ” เพราะต่อให้อาหารแห่งอนาคตดีต่อสุขภาพและปลอดภัยอย่างไรผู้บริโภคก็ยังต้องการความอร่อยเป็นสำคัญ และเรื่องของ”ราคา”เพราะหากราคาแพงเกินไป ผู้บริโภคซื้อครั้งเดียวก็อาจไม่ซื้ออีกเลย ดังนั้นราคาต้องจับต้องได้

สำหรับการส่งออกอาหารแห่งอนาคตถือว่ามีแนวโน้มที่ดี โดยในปี 2566 ไทยส่งออกอาหารไปทั่วโลกมูลค่า 1.5 ล้านล้านบาท อาหารแห่งอนาคตมีสัดส่วนถึง 9 % ซึ่งหากว่าในแต่ละปีเราสามารถส่งออกได้ปีละ 5-10 % ขึ้นไปก็จะมีอัตราการเติบโตที่น่าสนใจ ขณะที่การบริโภคภายในประเทศมีก็แนวโน้มดีเช่นกันซึ่งเป็นไปตามทิศทางเดียวกันกับผู้บริโภคทั่วโลก  ซึ่งการส่งเสริมการบริโภคอาหารแห่งอนาคตจะต้องแคมเปญต่างๆ การให้ความรู้อาหารแห้งอนาคต คาดว่าใน 5-10 ปี การส่งออกและการบริโภคในประเทศจะมีสัดส่วนเท่าเทียมกัน

อย่างไรก็ตามอาหารแห่งอนาคตยังเผชิญกับความท้าทายที่กดดันจากปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และระดับราคาที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ ซึ่งปี 67 ภาพรวมของอาหารแห่งอนาคตคงไม่หวือหวามากนักแต่หากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้นมาโอกาสเติบโตก็จะสดใสมากขึ้นเรื่อยๆ

“อาหารแห่งอนาคตเป็นอาหารดาวรุ่งของไทย ซึ่งอุตสาหกรรมอาหารของไทยมีการแข่งขันสูง เพราะสินค้าอาหารที่เป็นรูปแบบเดิมส่วนใหญ่จะอยู่ในสังคมชุมชน ทำให้ต้องผลิตมากขึ้นเพื่อให้ต้นทุนต่ำเพื่อแข่งขันด้านราคาได้ ส่วนอาหารแห่งอนาคตจะตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ในแง่ที่ดีต่อสุขภาพการแข่งขันจึงไม่รุนแรง แต่จะมาในรูปแบบแตกย่อย ทำให้ผู้ประกอบการสู้ได้ในตลาดโลกเพราะไม่ต้องผลิตจำนวนมาเพื่อมากเพื่อมาแข่งขันกัน” “ นายวิศิษฐ์ กล่าว

“อาหารแห่งอนาคต”   ถือเป็นสินค้าดาวรุ่งที่น่าจับตา   ซึ่งเป็นตามเทรนด์ของผู้บริโภคในยุคนี้ แต่อาหารแห่งอนาคตจะได้ไปต่อแค่ไหนก็ขึ้นกับรสชาติและราคา ตามที่นายกสมาคมอาหารแห่งอนาคตได้กล่าวไว้