ปิดฉากประมูลข้าว 10 ปี 2โกดังนำเงินเข้ารัฐ 272 ล้านบาท

ปิดฉากประมูลข้าว 10 ปี 2โกดังนำเงินเข้ารัฐ 272 ล้านบาท

“ภูมิธรรม” โพสต์”ปิดตำนานจำนำข้าว เผยผลการประมูลข้าว 2 โกดังที่เหลือ ที่ได้ข้อยุติแล้ว นำเงินเข้ารัฐกว่า 272 ล้านบาท เหน็บใช้”ความจริง”ไม่ใช่”จินตนาการ”

โครงการรับจำนำข้าวเป็นนโยบายของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อปี  2554 และมีชาวนาได้ประโยชน์หลายล้านครัวเรือนที่ทำให้รายได้เพิ่มสูงขึ้น

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความยินดี กรณี องค์การคลังสินค้า หรือ อคส.ได้ผู้ชนะข้าวค้างสต็อก 10 ปี ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 1 เดือน ในโครงการรับจำนำข้าว สมัยรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์

ปิดตำนานจำนำข้าว

ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานับตั้งแต่วันที่ผมได้ลงไปตรวจข้าวล็อตสุดท้ายในโครงการรับจำนำข้าวซึ่งเป็นนโยบายช่วยชาวนาของรัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ มีคำถามมากมายเกิดขึ้นในสังคมจนกลายเป็น “จินตนาการเกินเลยความจริง”

ปิดฉากประมูลข้าว 10 ปี 2โกดังนำเงินเข้ารัฐ 272 ล้านบาท

วันนี้ “ความจริง” ที่ปรากฏ คือ ทาง อคส. ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบการประมูลข้าว ได้ประกาศรายชื่อผู้ชนะการประมูล สรุปได้ว่า

1.ข้าวในคลังบริษัทพูนผลเทรดดิ้ง จำกัด หลังที่ 4 ซึ่งมีข้าวจำนวน 3,356.592361 ตัน ผู้ชนะการประมูล คือ บริษัทสหธัญ ให้ราคาเพิ่ม จาก 18.69 บาท เป็น 18.71 บาท ต่อ กก. มูลค่าเดิม 62,734,711.23  บาท เพิ่มเป็น 62,800,000 บาท

2.ข้าวในคลังกิตติชัย หลัง 2 ซึ่งมีข้าวจำนวน 11,656.654600 ตัน ผู้ชนะการประมูล คือ บริษัททรัพย์แสงทองไรซ์ ให้ราคาเพิ่มจากเดิม 15.62 บาท ต่อ กก. มูลค่า 182,040,000 บาท เป็น 18.00 บาท ต่อ กก. มูลค่า 209,819,083 บาท

สรุปรวมมูลค่าที่ขายได้นำเงินเข้ารัฐ รวม 272,619,083 บาท

จาก ”ความจริง” ของมูลค่าของข้าวล็อตสุดท้ายในโครงการรับจำนำข้าว ที่ปรากฎในวันนี้ ทำให้ผมอดที่จะจินตนาการย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีก่อนแล้วตั้งคำถามว่า ทำไมราคาประมูลขายข้าวในครั้งนั้นถึงมีราคาต่ำไม่ถึง 10 บาท/ กก  ด้วยข้ออ้างว่าเป็นข้าวเน่า ที่ไร้การตรวจพิสูจน์ 

วันนี้ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ซึ่งมีภาระหน้าที่ในการกำกับดูแลเรื่องนี้ พยายามดำเนินกระบวนการทุกขั้นตอนให้เกิดประโยชน์กลับคืนสู่รัฐได้มากที่สุด 

ถือว่าเป็นการปิดตำนานจำนำข้าว ด้วย “ความจริง” ที่พิสูจน์จนสิ้นข้อสงสัย มิใช่ “จินตนาการ”ที่ตั้งอยู่บน “อคติ” จนทำให้รัฐเสียประโยชน์มหาศาล