BTS ลุ้นศาลปกครองสูงสุดชี้ขาด กทม.จ่ายหนี้ก้อนสุดท้าย 26 ก.ค.67 นี้

BTS ลุ้นศาลปกครองสูงสุดชี้ขาด กทม.จ่ายหนี้ก้อนสุดท้าย 26 ก.ค.67 นี้

เปิดไทม์ไลน์หนี้ “รถไฟฟ้าสายสีเขียว” ลุ้นศาลปกครองสูงสุดนัด 26 ก.ค.67 นี้ พิพากษาปมหนี้จ้างเดินรถ และซ่อมบำรุงส่วนต่อขยาย วงเงินรวมกว่า 3.9 หมื่นล้านบาท ขณะที่ศาลปกครองชั้นต้น ชี้ขาดก่อนหน้านี้สั่ง กทม. - กรุงเทพธนาคม ร่วมกันหรือแทนกันชำระ

ปัญหาหนี้สะสมในโครงการ “รถไฟฟ้าสายสีเขียว” ระหว่างกรุงเทพมหานคร (กทม.) บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS ล่าสุดได้รับการชำระก้อนแรก เมื่อวันที่ 2 เม.ย.2567 โดยเป็นการชำระหนี้ค่าติดตั้งระบบรถไฟฟ้า (E&M) ส่วนต่อขยาย รวมประมาณ 2.3 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย

- ส่วนต่อขยายที่ 1 อ่อนนุช-แบริ่ง , สะพานตากสิน-บางหว้า

- ส่วนต่อขยายที่ 2 แบริ่ง-สมุทรปราการ , หมอชิต-คูคต

แต่อย่างไรก็ดี ปัจจุบันหนี้เกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น ยังมีคดีพิพาทตามสัญญาทางปกครอง กรณีสัญญาการให้บริการเดินรถ และซ่อมบำรุง (O&M) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 โดยภาครัฐยังไม่ชำระค่าตอบแทนตามสัญญาให้แก่ BTSC เพิ่มเติม และทางเอกชนได้ทวงถามไปแล้ว แต่ยังมีการเพิกเฉย เป็นเหตุให้ BTSC ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย และนำมาฟ้องตามกระบวนการศาลปกครอง

ทั้งนี้ หากย้อนไทม์ไลน์หนี้ “รถไฟฟ้าสายสีเขียว” จะพบว่ามีรายละเอียด ดังนี้

วันที่ 15 ก.ค.64 : บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (“BTSC”) ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อเรียกร้องให้กรุงเทพมหานคร (“กทม.”) และกรุงเทพธนาคม (“KT”) ชำระหนี้ค่าจ้างงานเดินรถไฟฟ้า และซ่อมบำรุง (O&M) ไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย ที่ 1 ช่วงสะพานตากสิน - วงเวียนใหญ่ - บางหว้า และช่วงอ่อนนุช - แบริ่ง (“ส่วนต่อขยายที่ 1”) ระหว่างเดือนพ.ค.2562 ถึง พ.ค.2564 และส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ - คูคต (“ส่วนต่อขยายที่ 2”) ระหว่างเดือนเม.ย.2560 ถึงพ.ค.2564 ทุนทรัพย์ประมาณ 12,000 ล้านบาท (เรียกว่า “คดี O&M1”)

วันที่ 7 ก.ย.65 : ศาลปกครองกลางพิพากษาคดี O&M 1 ให้ กทม. และ KT ร่วมกันชำระหนี้ให้ BTSC ตามคำฟ้องทั้งหมดประมาณ 11,755.06 ล้านบาท โดยให้ชำระภายใน 180 วัน นับตั้งแต่คดีเป็นที่สิ้นสุด

1. รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 รวมประมาณ 2,348.65 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินต้นประมาณ 2,199.09 ล้านบาท และดอกเบี้ยอีกประมาณ 149.56 ล้านบาท (ค้างชำระหนี้ตั้งแต่เดือนพ.ค.2562 ถึงพ.ค.2564)

2. รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 2 รวมประมาณ 9,406.41 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินต้นประมาณ 8,786.76 ล้านบาท และดอกเบี้ยประมาณ 619.65 ล้านบาท (ค้างชำระหนี้มาตั้งแต่เดือนเม.ย.2560 ถึงพ.ค.2564)

วันที่  22 พ.ย.65 : BTSC ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อเรียกร้องให้ กทม. และ KT ชำระหนี้ค่าจ้างงานเดินรถไฟฟ้า และซ่อมบำรุง (O&M) ไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ระหว่างเดือนมิ.ย.2564 ถึงเดือนต.ค.2565 ทุนทรัพย์ประมาณ 11,068.50 ล้านบาท (เรียกว่า “คดี O&M 2”) ปัจจุบันคดี O&M2 อยู่ระหว่างการวินิจฉัย และทำคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง

วันที่ 6 ต.ค.65 : กทม. และ KT ยื่นอุทธรณ์คดี O&M 1 ต่อศาลปกครองสูงสุด ขอให้ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายกฟ้อง

วันที่ 17 ส.ค.66 : ศาลปกครองสูงสุดนัดพิจารณาคดี O&M 1 ครั้งแรก ตุลาการผู้แถลงคดีได้มีความเห็นให้ยืนตามศาลปกครองกลาง ที่มีคำพิพากษาให้ กทม. และ KT ชำระหนี้ที่เกิดขึ้นตามสัญญาให้บริการเดินรถ และซ่อมบำรุงส่วนต่อขยาย

วันที่ 26 ก.ค.67 : ปัจจุบันหนี้ค่าจ้างงานเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุง (O&M) รถไฟฟ้าสายสีเขียว คดี O&M 1 และคดี O&M 2 อยู่ที่ประมาณ 39,000 ล้านบาท

BTS ลุ้นศาลปกครองสูงสุดชี้ขาด กทม.จ่ายหนี้ก้อนสุดท้าย 26 ก.ค.67 นี้

ทั้งนี้ ข้อพิพาทค่าจ้างงานเดินรถไฟฟ้า และซ่อมบำรุง (O&M) รถไฟฟ้าสายสีเขียว ล่าสุดวันศุกร์ที่ 26 ก.ค.นี้ เวลา 09.00 น. ศาลปกครองสูงสุดนัดอ่านคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ อ.2226/2565 ระหว่าง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ผู้ฟ้องคดี) กับ กรุงเทพมหานคร กับพวกรวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี)

โดยคดีดังกล่าวศาลปกครองชั้นต้นพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงิน แบ่งเป็น

หนี้ค่าจ้างเดินรถ และซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 จำนวน 2,348,659,232.74 บาท พร้อมดอกเบี้ยของต้นเงินจำนวน 2,199,091,830.27 บาท

หนี้ค่าจ้างเดินรถ และซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 จำนวน 9,406,418,719.36 บาท พร้อมดอกเบี้ยของต้นเงินจำนวน 8,786,765,195.47 บาท

ตามอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) ซึ่งประกาศโดยธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สำหรับเงินกู้สกุลเงินบาทบวกร้อยละ 1 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้นให้แก่ผู้ฟ้องคดี โดยให้ชำระให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน นับแต่วันที่คดีถึงที่สุด

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์