'OR' ฝ่าวิกฤติ 'กีบอ่อนค่า' บาลานซ์สกุลเงิน ดันยอดขาย 'สปป.ลาว' โต 4%
OR ฝ่าวิกฤติเงินกีบอ่อนค่าต้องบริการสกุลเงินให้บาลานซ์ กระทบภาคแรงงาน พร้อมทุ่มงบลงทุนระยะ 5 ปี กลุ่มธุรกิจ Global ไว้ที่ 8,007 ล้าน คิดเป็น 12% ของงบลงทุนทั้งหมด คาดโต 4% ย้ำสิ่งที่อยากได้จากสปป.ลาวคือการเป็น "แบรนด์เลิฟ"
KEY
POINTS
- OR ทำธุระกิจใจ สปป.ลาวมา 30ปี เปรียบเสมือนเป็นบ้านหลังที่ 2 และ OR ก็ยังเป็นเบอร์ 2 ในตลาดน้ำมัน จึงพร้อมที่จะนำเอาสิ่งงดีๆ เข้ามาให้บริการ
- OR วางเป้าปริมาณการขายน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น และคาเฟ่ อเมซอน ในสปป.ลาว ในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 4% เมื่อเทียบกับปีก่อน
- เมื่อเงินกีบอ่อน สิ่งสำคัญคือ แรงงาน OR จะต้องรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่อง การดำเนินธุรกิจต้องบาลานซ์ทั้งเงินบาท ดอลลาร์ และกีบ
นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR กล่าวถึงทิศทางการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศของ OR ในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศเพื่อสร้างความสำเร็จและการยอมรับในตลาดโลก โดยส่งเสริมความแข็งแกร่งของการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศที่ OR ดำเนินการอยู่
โดย OR ได้มุ่งพัฒนาความแข็งแกร่งและเพิ่มความหลากหลายทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการแสวงหาโอกาสร่วมกับพันธมิตรทั้งจากประเทศไทยและพันธมิตรในพื้นที่ ตลอดจนการขยายธุรกิจไปยังประเทศใหม่ ๆ ซึ่งกลยุทธ์หลักของ OR ยังคงเน้นการขยายเครือข่ายสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น (PTT Station) และคาเฟ่ อเมซอน (Café Amazon)
รวมทั้งการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในประเทศที่มีศักยภาพ โดยมี สปป.ลาว เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ OR ให้ความสำคัญ ทั้งนี้ OR ได้จัดสรรงบลงทุนระยะ 5 ปี (ปี 2567-2571) สำหรับกลุ่มธุรกิจ Global ไว้ที่ 8,007 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12% ของงบลงทุนทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดสากล
นายสุชาติ ระมาศ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า OR อยู่ใน สปป.ลาวมา 30ปี ถือว่าอยู่มานานมาก เปรียบเสมือนเป็นบ้านหลังที่ 2 และ OR ก็เป็นเบอร์ 2 ในตลาดน้ำมัน โดยนำเอาสิ่งดี ๆ ในการทำธุรกิจเต็มรูปแบบมาดำเนินธุรกิจ ที่จะนำเข้ามาใน สปป.ลาว ซึ่งนอกจากจะมีสถานีบริการน้ำมันที่ทันสมัยและยังมี คาเฟ่ อเมซอน ที่บางสาขาสวยกว่าในไทยด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม OR วางเป้าปริมาณการขายน้ำมันผ่านสถานีบริการน้ำมันพีทีที สเตชั่น และคาเฟ่ อเมซอน ในสปป.ลาว ในปีนี้คาดว่าจะเติบโต 4% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ในส่วนของรายได้คาดว่าจะเติบโตขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อน ตามปริมาณการขยายสาขาทั้งธุรกิจออยล์และนอนออยล์
โดยในปีนี้ OR มีแผนขยายสถานีบริการน้ำมัน PTT station จากปัจจุบันอยู่ที่ 56 แห่งเพิ่มเป็น 63 แห่งภายในสิ้นปีนี้ และจะเพิ่มเป็น 71 แห่งภายในปี 2573 ขณะที่ในส่วนของร้านคาเฟ่ อเมซอน ปัจจุบันอยู่ที่ 94 แห่ง จะเพิ่มเป็น 110 สาขาภายในสิ้นปีนี้ และเพิ่มเป็น 150 สาขาภายในปี 2573
นายรชา อุทัยจันทร์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านธุรกิจต่างประเทศ OR กล่าวว่า สปป.ลาว เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ OR ให้ความสำคัญ OR ได้จัดสรรงบลงทุนระยะ 5 ปี (ปี 2567-2571) สำหรับกลุ่มธุรกิจ Global รวมไว้ที่ 8,007 ล้านบาท หรือคิดเป็น 12% ของงบลงทุนทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในตลาดสากล อย่างไรก็ตามในส่วนของงบลงทุนในลาวในปีนี้จะใช้ไม่มากนักส่วนใหญ่ยังคงเป็นงบปรับปรุงคลังน้ำมันประมาณ 40 ล้านบาท
ขณะที่การขยายสถานีบริการน้ำมันจะส่วนใหญ่จะเป็นของดีลเลอร์ ส่วนการขยายร้านคาเฟ่ อเมซอน จะใช้ประมาณ 18 ล้านบาท และจะมีการลงทุนร้านสะดวกซื้อ เซเว่น-อีเลฟเว่น (7-11) จำนวน 4 สาขา เงินลงทุน ประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งจะเข้ามาทดแทนร้านจิฟฟี่ในอนาคต
ขณะเดียวกัน สปป.ลาว เป็นประเทศที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ และยังมีโอกาสเติบโตได้อีก OR จึงได้วางกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจทั้งกลุ่มธุรกิจ Mobility ได้แก่ การจำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น คลังเก็บผลิตภัณฑ์ ธุรกิจหล่อลื่น พีทีที ลูบริแคนทส์ (PTT Lubricants) และศูนย์บริการยานยนต์ ฟิต ออโต้ (FIT Auto) และ ฟิต เอ็กซ์เพรส (FIT Express) รวมถึงการรุกตลาดธุรกิจพลังงานสะอาดด้วยสถานีชาร์จไฟฟ้า อีวี สเตชั่น พลัส (EV station PluZ) และกลุ่มธุรกิจ Lifestyle มีการดำเนินธุรกิจอย่างหลากหลาย ได้แก่ ร้าน Café Amazon ร้านสะดวกซื้อ และร้านอาหารข้าวเปียกปู เป็นต้น
นอกจากนี้ เมื่อต้นปี 2567 OR ยังร่วมกับพันธมิตร ริเริ่มโครงการใช้ระบบวนเกษตรในการพัฒนาไร่กาแฟต้นแบบให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟใน สสป.ลาว (Agroforestry Coffee Plantation) เพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจส่งออกส่งออกเมล็ดกาแฟ (Roasted Coffee and Green Bean Coffee) ให้แก่บริษัทในเครือของ OR ในต่างประเทศ รวมทั้งยังเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้ในกลุ่ม OR อีกด้วย
นายพีรเวท ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีทีที (ลาว) จำกัด (PTTLAO) กล่าวว่า สิ่งที่อยากได้จากสปป.ลาวคือเป็นแบรนด์เลิฟ ในชุมชนที่ห่างไกลก็ต้องทำให้เขารัก ช่วยเด็กให้สภาพความเป็นอยู่ดีขึ้น ทำงานร่วมภาครัฐ ช่วยคนพิการ เยาวชน ให้ช่วยพัฒนาสังคม สนับสนุนกีฬา เป็นต้น
"หลายคนบองว่าเศรษฐกิจในสปป.ลาวไม่ค่อนดี แต่ด้วยน้ำมันถือเป็นสิ่งของจำเป็น และราคาน้ำมันยังเป็นรไปตามโครงสร้างรัฐบาล ที่ทุกเจ้าขายเท่ากัน เฉลี่ยราคาดีเซลที่สปป.ลาวอยู่ในระดับ 35 บาทต่อลิตร และโดย 90% ได้นำเข้าจากประเทศไทย
ส่วนประเด็นเรื่องของค่าเงินกีบที่อ่อนค่ามาก แม้จะส่งผลต่อต้นทุนที่แพงขึ้น แต่ด้วยธุรกิจของ OR ถือเป็นสินค้าที่จำเป็นและต้องใช้ OR สามารถปรับราคาได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นรายแรกที่ปรับ โดยในมุมของการขายกาแฟ ในภาพใหญ่เศรษฐกิจกระทบอยู่แล้ว ยอดบายมีทั้งขึ้นและลงตามสถานการณ์ ช่วงแรก ๆ ผู้บริโภคอาจตกใจบ้าง แต่เมื่อขึ้นหมดก็รับได้ ดดยในช่วงที่ผ่านมาราคาปรับขึ้นไปกว่า 20% และเร็วๆ ก็นี้อาจมีการปรับขึ้นอีก และหากค่าเงินกีบอ่อนลงอีกก็ต้องดูสภาวะตลาด แต่ตอนนี้ยังพออยู่ได้
"เมื่อเงินกีบอ่อน สิ่งสำคัญอีกเรื่องคือ ด้านแรงงานเพราะประชาชนส่วนมากข้ามไปทำงานที่ประเทศไทยเพราะได้เงินมากกว่า OR จะต้องรักษาการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจที่จะลงต้องดูความเป็นไปได้ พยายามบริหารรายรับรายจ่ายให้มีเงินตราตามที่เราจ่าย เป็นการบริหารภายใน การดำเนินธุรกิจต้องควบคู่กฎหมายสปป.ลาว และธรรรมาภิบาลของ OR และต้องบาลานซ์ทั้งเงินบาท ดอลลาร์ และกีบ"
กลยุทธ์ของ PTTLAO โดยมุ่งเสริมความแข็งแกร่งในตลาด สปป.ลาว พร้อมขยายฐานธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาธุรกิจของ PTTLAO ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ยังคงเดินหน้าแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ โดยร่วมมือกับพันธมิตรทั้งจากประเทศไทยและพันธมิตรในพื้นที่ที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ส่วนกรณีเงินกีบที่อ่อนค่าอย่างมากในขณะนี้ ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท แต่บริษัทจะพยายามบริหารจัดการสกุลเงินเพื่อกระจายความเสี่ยง
สำหรับกลุ่มธุรกิจ Mobility PTTLAO มีเครือข่ายคลังเก็บผลิตภัณฑ์ 7 แห่ง รองรับการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยความจุโดยรวมกว่า 7.8 ล้านลิตร รวมทั้งยังมีสถานีบริการพีทีที สเตชั่น รวม 56 แห่ง ครอบคลุมตลอดเส้นทางการเดินทางในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งธุรกิจหล่อลื่น PTT Lubricants และศูนย์บริการยานยนต์ FIT Auto และ FIT Express รวมจำนวน 9 สาขา
ส่วนกลุ่มธุรกิจ Lifestyle มีความโดดเด่นด้วยร้าน Café Amazon เป็นร้านแฟรนไชส์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดย OR ได้เปิดร้านคาเฟ่ อเมซอน คอนเซ็ป สโตร์ (Café Amazon Concept Store) สาขาโรงกายะสิน ณ เมืองจันทะบูลี นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งนับเป็น Café Amazon Concept Store แห่งแรกในต่างประเทศ ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคชาวลาวเป็นอย่างดี และยังมีร้านคาเฟ่ อเมซอน สาขาหลวงพระบาง ณ แหล่งมรดกโลก ที่มีความโดดเด่น ด้วยการผสานแรงบันดาลใจจากเอกลักษณ์วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นไว้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และธุรกิจร้านอาหารข้าวเปียกปู ที่ PTTLAO พัฒนาขึ้นเป็นแบรนด์ใหม่ เพื่อรองรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในสถานีบริการพีทีที สเตชั่น อีกทั้งยังตอบโจทย์การใช้ชีวิตทุกรูปแบบของผู้บริโภคที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ด้วยการติดตั้งและเปิดให้บริการสถานีชาร์จ EV Station PluZ จำนวน 6 แห่ง ในสถานีบริการ PTT Station เป็นต้น