ผู้ส่งออก ลุ้น อินเดียแบนส่งออกข้าวต่อ ดันไทยส่งออกทั้งปีได้ 8.5 ล้านตัน
ผู้ส่งออกข้าว คาด ส่งออกข้าวทั้งปีได้ 8.5 ล้านตัน จากเป้าใหม่ที่ 8.2 ล้านตัน จากดีมานด์ข้าวหลายประเทศ จับตาอินเดียยกเลิกแบนส่งออกข้าว กระทบส่งออกข้าวไทยไตรมาส 4 จี้รัฐบาลปลดล็อกนำพันธุ์ข้าวต่างประเทศมาวิจัยและพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ตลาด
ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ตัวเลขยอดส่งออกข้าวไทย 6 เดือนแรกปี 67 คือ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-26 ก.ค.67 สามารถส่งออกไปแล้วกว่า 5.7 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 23 % มูลค่ากว่า 3,400 ล้านดอลลาร์ โดยในช่วงครึ่งปีแรก ไทยทำสถิติการส่งออกข้าวได้ดี และที่สำคัญ ราคาส่งออกข้าวดี ทำให้จากเดิมที่คาดว่าการส่งออกข้าวในปีนี้จะได้ 7.5 ล้านตัน จึงได้ปรับเพิ่มเป็น 8.2 ล้านตัน รวมมูลค่ากว่า 5,300 ล้านดอลลาร์ และเชื่อว่าราคาข้าวเปลือกทั้งปีนี้ เป็นราคาที่ชาวนาพอใจ
ส่วนในครึ่งปีหลัง ยังมีปัจจัยที่น่าห่วง จากความต้องการข้าวลดลง เนื่องจากผลผลิตทั่วโลกเยอะขึ้นจากปริมาณฝนที่เยอะขึ้น และจะดีไปจนถึงปีหน้า ที่คาดว่าผลผลิตข้าวโลกจะมากแข่งขันราคาสูงทำให้ราคาข้าวโดยรวมมีโอกาสที่ลดลง อีกทั้งราคาข้าวไทยมีราคาสูงกว่าประเทศคู่แข่งเนื่องจากต้นทุนที่สูงกว่าและผลผลิตต่อไร่ต่ำ รวมทั้งพันธุ์ข้าวไทยยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดที่ส่วนใหญ่ชอบข้าวพันธุ์พื้นนุ่ม ที่ไทยไม่มี
นอกจากนี้ ต้องจับตา หากอินเดีย ทบทวนนโยบายการห้ามส่งออกข้าวขาว จะกระทบตลาดค้าข้าวโลก โดยเฉพาะเรื่องราคา ซึ่งจะเป็นปัญหาต่อเนื่องไปถึงปีหน้า และในระยะยาว จึงอยากให้ รัฐบาล แก้ไขปัญหาที่สะสมมานานกว่า 30-40 ปี ทั้งในเรื่องต้นทุน การเพิ่มผลผลิตต่อไร่ และที่สำคัญ ควรเน้นหนักไปที่การพัฒนาพันธุ์ข้าว เริ่มจากการปลดล็อกแก้ไขกฎหมายที่ยังห้ามการนำเข้าพันธุ์ข้าวจากต่างประเทศมาศึกษา เพื่อพัฒนาให้ตรงกับความต้องการของตลาด โดยไม่ห่วงเฉพาะราคาข้าวเปลือกเพียงอย่างเดียว เพื่อให้ข้าวไทย ยังแข่งขันได้ เป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวอันดับต้นๆ ของโลก
หากไทยยังคงเป็นเช่นนี้อันดับผู้นำส่งออกของข้าวไทยอาจหล่นมาอยู่อันดับ 4 อันดับ 5 ได้ เพราะหากดูจากจีนที่เดิมเป็นผู้นำเข้าข้าวปัจจุบันจีนมีเทคโนโลยีใหม่เข้าพัฒนาข้าว ผลผลิตต่อไร่สูง และจีนยังมีสต๊อกข้าวสูงถึง 120 ล้านตันมากกว่าเดิมที่มีเพียง 30 ล้านตัน ในอนาคตจีนจะกลายเป็นผู้ส่งออกอันดับหนึ่งของโลกได้
ส่วนการคาดการณ์ปริมาณการส่งออกข้าวโลก จากข้อมูล ของกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา หรือ USDA ในปีนี้ อินเดีย ยังคงเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ที่ปริมาณ 17 ล้านตัน รองลงมาคือไทย ปริมาณ 8.5 ล้านตัน และเวียดนาม 8.3 ล้านตัน แต่คาดการณ์ว่า ในปี 68 อินเดียจะส่งออกข้าวที่ปริมาณ 18 ล้านตัน ไทยและเวียดนามจะส่งออกลดลงเหลือเพียง 7.5 ล้านตัน ส่วนอินเดีย ส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นถึง 18 ล้านตัน
นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า ปีนี้ มีโอกาส ที่ไทย จะส่งออกข้าวได้สูงถึง 8.5-9 ล้านตันเกินกว่าเป้าหมายที่ 8.2 ล้านตัน ดูจาก 6 เดือนที่ผ่านมาไทยส่งออกข้าวไปแล้ว 5.7 ล้านตัน หากเดือนที่เหลือส่งออกข้าวได้เฉลี่ยเดือนละ 7 แสนตัน รวมกับ 5 ล้านตันครึ่งปีแรก ภาพรวมการส่งออกข้าวปีนี้ ก็จะเกิน 8.5 ล้านตันได้
การส่งออกของไทยได้รับแรงหนุนจากการที่อินเดียระงับการส่งออกข้าว ประกอบกับความต้องการข้าวในหลายประเทศ ยังมีอยู่สูงจาก ปัญหาภัยแล้งช่วงก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะอินโดนีเซียที่ต้องการนำข้าวเพิ่มที่เจอกับภัยแล้งปริมาณผลผลิตลดลง แม้แต่ประเทศเม็กซิโกก็นำเข้าข้าวเพิ่มขึ้น ทำให้ปีนี้เป็นปีที่การส่งออกข้าวไทยดี เพราะมีความต้องการสูง
อย่างไรก็ตามต้องจับตาปัจจัยที่มีผลต่อการส่งออกข้าวไทยในครึ่งปีหลัง ประกอบด้วย 1.ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน โดยค่าเงินบาทมีความผันผวนสูง ซึ่งหากค่าเงินบาทแข็งการแข่งขันด้านราคาข้าวของไทยจะแพงขึ้น แต่หากเงินบาทอ่อนก็ทำให้ราคาข้าวไทยแข่งขันได้ โดยเงินบาทที่เหมาะสมคือ 36-36.50 บาทต่อดอลลาร์
2.ความสามารถในการแข่งขันของข้าวไทย ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งในปีนี้ที่ไทยส่งออกข้าวได้มากมาจากความต้องการข้าวสูงและเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ในปี 68 เมื่อเข้าสู่ภาวะปกติการแข่งขันก็จะสูงขึ้นทั้งในเรื่องของความหลากกลายของพันธุ์ข้าวไทยที่มีน้อยกว่าคู่แข่งอย่างเวียดนาม เช่น พันธุ์ข้าวนุ่มที่เป็นที่ต้องการของตลาด นอกจากนี้ราคาข้าวไทยยังแพงกว่าคู่แข่งมาก รวมทั้งต้นทุนการขนส่งสูง เมื่อเทียบกับเวียดนามที่มีกองเรือเป็นของตนเองทำให้ราคาค่าระวางเรือถูกกว่าไทย
3.การแข่งขันด้านราคาในตลาดโลก ซึ่งราคาข้าวไทยแพงกว่าจากต้นทุนการผลิตที่สูง ผลผลิตต่อไร่ต่ำโดยเราจะต้องหันกลับมาทบทวนการบริหารต้นทุนให้ต่ำ
4.นโยบายการจำกัดการส่งออกข้าวของอินเดีย ว่า อินเดียจะยกเลิกการมาตรนี้หรือไม่ ซึ่งหากอินเดียยกเลิกมาตรการดังกล่าวและกลับมาส่งออกข้าว หรือแม้แต่จะใช้มาตรการเก็บภาษีการส่งออก ก็จะกระทบตลาดการค้าข้าวโลกแน่นอน ซึ่งต้องจับสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด
5.การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จากเอลนิโญมาสู่ลานินญา ว่าจะมีฝนตกมากน้อยแค่ไหน จะทำให้เกิดน้ำท่วมมาหรือไม่เพราะจะกระทบต่อผลการปลูกข้าว
“ภาพรวมการส่งออกข้าวปีนี้ดี หากไม่มีสถานการณ์เปลี่ยนแปลงใด โดยเฉพาะอินเดียแบนการส่งออกข้าวก็มีความเป็นไปได้ที่ไทยจะส่งออกข้าวเกิน 8.2 ล้านตัน และน่าจะแตะ 8.5 ล้านตันได้ ส่วนปีหน้าการส่งออกของไทยไม่น่าจะถึง 8 ล้านตัน ซึ่งภาพรวมปริมาณผลผลิตข้าวโลกจะเพิ่มขึ้นทุกประเทศ รวม 528 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 1.4% ตามสภาพอากาศที่มีฝนตกมากขึ้น ซึ่งมีผลกับการแข่งขันในด้านราคา และประเทศผู้นำเข้าหลักจะนำเข้าข้าวลดลง โดยเฉพาะอินโดนีเซีย ที่กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ คาดว่าปีหน้าจะนำเข้าข้าว เพียง 1.5 ล้านตัน จากปีนี้ที่จะนำเข้าข้าว 3.5 ล้านตัน และหากอินเดีย กลับมาส่งออกข้าวขาว จะกระทบตลาดการค้าข้าวโลกแน่นอน “นายชูเกียรติ กล่าว